Dining Out

เส้นทางเชฟมิชลิน สตาร์ “จูเลียง โรเยอร์” แห่งร้านโอแด็ตต์ ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ระยะเวลาเพียง 15 เดือน ในการทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จในระดับเอเชีย แต่หนุ่มชาวฝรั่งเศสวัย 34 ปี เชฟจูเลียง โรเยอร์ (Julien Royer) ได้สร้างปรากฏการณ์ให้เห็น เขาเป็นเจ้าของรางวัล ร้านอาหารหน้าใหม่อันดับสูงสุด (Highest New Entry Award) สนับสนุนโดยแม่โขง

ความน่าสนใจของเชฟจูเลียง ไม่เพียงสามารถนำพา ร้านโอแด็ตต์ (Odette) จากสิงคโปร์ ก้าวเข้าสู่ลิสต์ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียอย่างรวดเร็ว แต่แค่ในปีแรกก็สามารถไต่ขึ้นมาถึงอันดับที่ 9 ของเวที Asia’s 50 Best Restaurant 2017 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอภิมหาอำนาจด้าน Fine Dining ร้านอาหารและเครื่องดื่มในระดับมาตรฐานระดับเลิศทั้งด้านอาหาร เครื่องดื่ม การบริการเหนือระดับและการตกแต่งที่หรูหรา โดย “แม่โขง” แบรนด์เครื่องดื่มสัญชาติไทย ให้การสนับสนุนรางวัลนี้ เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์ระดับโลก และการทานอาหารร่วมกับเครื่องดื่มของไทย

เส้นทางความสำเร็จของเขาไม่ใช่จะได้มาอย่างง่ายดาย โดบเชฟจูเลียง เกิดในครอบครัวเกษตรกรรม อยู่ในชนบทที่ไม่ห่างไกลจากกรุงปารีสนัก เขาซึมซับในพืชพรรณและวัตถุดิบแบบธรรมชาติตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นทำอาหาร ฝึกฝน มีประสบการณ์การทำงานให้กับ Michel Bras ในฝรั่งเศสและ Antonin Bonnet ในลอนดอน จากนั้นเขาย้ายไปที่สิงคโปร์ในปี 2011โดยเป็นผู้ที่ดูแลร้าน Jaan เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 11 จากการจัดอันดับบนเวที 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย

จนในปี 2015 เชฟจูเลียงก็ออกมาทำตามความฝันของตัวเองด้วยการเปิดร้านโอเด็ตต์ Odette ร้านอาหารฝรั่งเศสอันหรูหรา ที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์ และเพียงปีเดียวเขาก็ได้รับ “ดาวมิชลิน” ถึง 2 ดาว และก้าวมาติดอันดับที่ 9 จากการจัดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย เป็นประวัติการณ์ใหม่แห่งวงการ เพราะเขาเปิดร้านได้เพียง 15 เดือน

เชฟจูเลียง เปิดใจอธิบายถึงสไตล์การทำอาหารของเขาไว้ว่า “อาหารที่ทรงประสิทธิภาพ มาจากส่วนผสมและเครื่องปรุงที่ยอดเยี่ยมและวัตถุดิบที่รับจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านทั่วโลก ขอบคุณที่ส่งต่อวัตถุดิบชั้นดีเข้ามาไว้รวมกัน ทำให้สามารถสรรค์สร้างเมนูอหารอันวิจิตรและเลิศหรู”

แน่นอนว่าส่วนผสมชั้นดีที่เขาเสาะหามาทำอาหาร เดินทางมาจากแหล่งที่ดีที่สุดเกือบทั่วทุกมุมโลก อาทิ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฯลฯ ด้านเมนูอาหารที่แนะนำ สำหรับคอร์สเมนู 4, 6 หรือ 8 นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่สำหรับมื้อค่ำ จัดไว้อย่างงดงามรอทุกท่านมาลิ้มชิมรส มีเฟรนช์เกียนา ที่จะถูกเสิร์ฟด้วย รีซอตโต้ ซาลารี และฟัวกราส์โคร็อตเกต หรือเทราซ์และปลาหมึกย่าง บร็อกโคลีโรมาเนสโกบดกับคาราเมลมิโซะ จะเห็นได้ว่า Odette เสนอการปฏิวัติเมนูใหม่ที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิก

โดยเชฟจูเลียงใช้เวลากว่าหลายปี เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้ผลิตวัตถุดิบอันยอดเยี่ยมจากทั่วโลก รวมถึงผู้ผลิตจากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย เขาพยายามสรรหาเพื่อนำเสนอโอกาสอันล้ำเลิศ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพื่อให้กับแขกได้ลิ้มลองวัตถุดิบต่างๆ ณ จุดสูงสุดของอาหารภายในร้านของเขา

ด้วยวัตถุดิบจากทั่วโลก ผลลัพธ์จากที่เขาทุ่มเทหาวัตถุดิบในการทำงาน กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดการสรรเสริญ และยกย่องต่างๆ นานา ว่ากันว่า “Odette คือสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การยกย่อง” ใน 1 จาน ประกอบด้วยความตั้งใจมากมาย ทั้งผู้ผลิต วัตถุดิบ อาหาร คนเสิร์ฟ กระทั่งผู้ไว้ใจมาให้บริการ

ใครที่อยากลิ้มลองฝีมือความอร่อยแสนพิเศษของเชฟจูเลียงนี้สามารถไปที่ร้านโอเด็ตต์ ซึ่งตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของประเทศสิงคโปร์ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.odetterestaurant.com/



Comments are closed.

Pin It