“แฌม ดิมองเช” มื้อสายชั้นเลิศ ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน

>>ห้องอาหารแฌม บาย ฌอง-มิเชล โลรองต์ ณ โรงแรมยู สาทร กรุงเทพฯ นำเสนอบริการอาหารฝรั่งเศสมื้อสายภายใต้คอนเซ็ปต์ “แฌม ดิมองเช (J’AIME DIMANCHE)” ในรูปแบบเมนูอาหารฝรั่งเศสรสเลิศและเปี่ยมด้วยคุณภาพระดับเวิลด์คลาส ซึ่งคิดค้นสูตรอย่างพิถีพิถันโดย ฌอง-มิเชล โลรองต์ สุดยอดเชฟฝรั่งเศส ผู้มีมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวการันตี

มื้อสายมื้อพิเศษนี้ นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษแห่งรสสัมผัสอาหารฝรั่งเศสท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย บริการระดับหรู ซึ่งจะให้บริการเฉพาะในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ระหว่างเวลา 12.00 – 15.00 น. โดยเชฟใหญ่ ฌอง-มิเชล โลรองต์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า

“แฌม ดิมองเช คือบริการพิเศษของเราเพื่อนำเสนอศิลปะการปรุงอาหารฝรั่งเศสที่เปี่ยมด้วยคุณภาพอันโดดเด่น ซึ่งแขกของเรายังสามารถรื่นรมย์กับรายการอาหารมากมายที่พวกเขาคุ้นเคยได้ตามต้องการ และนี่คือประสบการณ์แห่งมื้ออาหารอันแสนวิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอย!

รายการอาหารของ แฌม ดิมองเช ปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรทั้งจากพืชผักสวนครัว อาหารทะเลสดใหม่ และวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากต่างประเทศ จัดให้บริการในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน เพื่อนำเสนอเมนูอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุดของโลกในรูปแบบที่ทันสมัยหากยังคงสะท้อนถึงรสชาติของอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมได้อย่างครบถ้วน เราต้องการมอบประสบการณ์แห่งมื้ออาหารรสเลิศที่สามารถให้เหล่านักชิมในกรุงเทพฯ ได้ใช้เวลาละเมียดละไมกับรสชาติ ด้วยจำนวนเมนูมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขาสามารถเลือกลิ้มลองเมนูอาหารระดับ 5 ดาวในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านการจัดเตรียม การปรุง และการนำเสนอบนโต๊ะอาหาร ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของห้องอาหารแฌมของเรา”

โดยเมนูอาหารชั้นเลิศที่จากต่างประเทศมีทั้ง Lomo Iberico (เนื้อสะโพกหมูแห้ง), Grisons Beef Ham (เนื้อแฮมกริซองส์) และ Chorizo Iberico Extra (ไส้กรอกอิเบอริโกเอ็กซ์ตร้า) สำหรับเมนูอาหารทะเลนำเสนอรายการอาหารที่มีเอกลักษณ์และปรุงอย่างพิถีพิถันซึ่งคุณไม่คาดฝันว่าจะได้สัมผัสในบริการอาหารมื้อสาย อาทิเช่นซุปล็อบสเตอร์เข้มข้นในเจลาติน, วุ้นเนื้อหอยหลอดและเบซิลเจเล่กับเลมอน และ มูสปลาค้อดบนขนมปังกับมะเขือเทศตากแห้ง

เพิ่มเติมด้วยการนำเสนออาหารหลากรสชาติให้แขกได้เลือกสารมากมาย อาทิ Beetroot Juice Poached Egg with Garden Roots and Velvety Wine Berry Sauce (ไข่น้ำในน้ำบีตรู้ทกับการ์เด้นรู้ทและซ้อสไวน์เบอรรี่), Verbena Scented Lobster Bisque served with Pineapple and Smoke Roasted Bell Pepper (ซุปล็อบสเตอร์เข้มข้นกลิ่นเวอร์บิน่าเสิร์ฟกับสับปะรดและพริกหวานย่างรมควัน), Bouillabaisse-Style Wild Black Belly Rosefish with Saffron-Scented Purée (ซุปปลาไวลด์แบล็กเบลลีโรสฟิชสไตล์บุยยาเบสเสิร์ฟกับพูเร่หญ่าฝรั่น)

Rock Lobster Carbonara served with Sweet and Sour Daikon (คาร์โบนาราร็อคล็อบสเตอร์เสิร์ฟกับหัวไชเท้ารสเปรี้ยวหวาน), Lightly Smoked Seabass with Arenka Caviar Celeriac and Snow Pea Julienne (ปลากะพงรมควันและอะเร็นกาคาร์เวียร์เสิร์ฟกับคื่นช่ายและถั่วสโนว์พี), Traditional Beef Cheek Parmentier (ปาร์มองเตียร์เนื้อแก้มวัวสูตรดั้งเดิม), Slow-Cooked Pork Belly (หมูสามชั้นตุ๋น), Carrot and Apple Purée (พูเร่แครอทและแอปเปิล), Braised Pork Shank Ravioli (ราวิโอลีขาหมูอบ), Stuffed Sous-Vide Quail with Braised Garden Vegetables and Jus Brun with Tomato Water Gastrique (นกกระทายัดไส้กับผักอบและซ้อสมะเขือเทศหมัก)

พร้อมด้วยของหวานอีกหลากหลายเมนู โดยทั้งหมดนี้ให้บริการในราคาท่านละ 2,499 บาทถ้วน รวมบริการเครื่องดื่มชา-กาแฟ พร้อมฟรีค่าเปิดขวดในกรณีนำเครื่องดื่มมาเอง นอกจากนี้ ทางห้องอาหาร ยังมีโปรโมชั่นเครื่องดื่มให้เลือกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มเติมอีกเพียง399 บาท สำหรับเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ประเภทเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์, หรือแบบ 999 บาท สำหรับเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ประเภทเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รวมถึง ค็อกเทล, โปรเซกโก และไวน์ที่ร่วมรายการ และแบบ2,999 บาทสุทธิต่อท่าน สำหรับเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ทุกประเภทซึ่งรวมถึงแชมเปญหลุยส์ โรเดอแร บูร์ แชมเปญชั้นเลิศ

เรียกได้ว่า “แฌม ดิมองเช” คือรายการอาหารรสเลิศที่นักชิมตัวจริงห้ามพลาดในทุกมื้อสายของวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน สามารถสำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โทรศัพท์ 0 – 2119 – 4899