>>การเฉลิมฉลองเทศกาลอาหารและไวน์ที่ดีสุดกับสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก ที่เดินทางมารวมตัวกันที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกในนาม เวิลด์ กูร์เมต์ เฟสติวัล (World Gourmet Festival) ที่ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 แล้ว ซึ่งนับเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลกมาพร้อมกันนำเสนอเมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม
โดยปีนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ร่วมมือกับ ซานเปลเลกรีโน ได้เชิญเชฟซึ่งมีทั้งเชฟระดับมิชลินสตาร์และเชพที่ได้รับรางวัลรับรองฝีมือและรสชาติอาหารในระดับสากล มากกว่า 10 ท่าน บินตรงมาจาก 8 ประเทศทั่วโลก เพื่อมาปรุงอาหารรสเลิศ ให้ได้ลิ้มรสสุดยอดฝีมือเชฟ ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม โดยร่วมแท็กทีมกับทีมเชฟของทางโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ อย่างเอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟ ยาน แวน เดค (Jan Van Dyk) เชฟซาโตชิ ซาวาดะ (Satoshi Sawada) ห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่ เชฟนิโค เมทเทิน (Nico Merten) จากห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล จากห้องอาหารไทยสไปซ์ มาร์เก็ต
ซึ่งเชฟที่ได้รับเชิญมาทั้ง 10 ท่าน มีความโดดเด่นและไอเดียด้านการทำอาหารที่น่าสนใจแตกต่างกันไปดังนี้
เชฟกีโยม กาลิโอ (Guillaume Galliot) จากห้องอาหาร Caprice ฮ่องกง ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว เชฟชาวฝรั่งเศสที่ผ่านประสบการณ์ร่วมงานกับเชฟดังมากมาย จนกระทั่งมาช่วยสร้างชื่อให้กับห้องอาหารที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ ฮ่องกง จนได้รับมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวมาครองและเป็นหนึ่งในห้องอาหารที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย
เชฟชินอิชิโร่ ทาคากิ (Shinichiro Takagi) จากห้องอาหาร Zeniya ญี่ปุ่น ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว ผู้ทำให้ร้านอาหารของครอบครัวเติบโตจากร้านเล็กๆ ในท้องถิ่นสู่การเป็นอาหารมิชลินสตาร์
เชฟฮิโรอากิ อิชิสุกะ (Hiroaki Ishizuka) จากห้องอาหาร Kien ญี่ปุ่น ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว ที่ได้รับดาวมาตั้งแต่ปี 2010 และรักษามาตรฐานได้รับต่อเนื่องกันมาอีกถึง 7 ปี
เชฟเจสัน แทน (Jason Tan) จากห้องอาหาร Corner House สิงคโปร์ ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว หนุ่มผู้สร้างความแตกต่างในวงการอาหารของเอเชีย เขาหลงใหลในวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้ร่วมพัฒนาการปรุงอาหารแบบร่วมสมัยที่เรียกว่า Gastro-Botanica ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัตถุดิบทั้งผัก อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ ที่มีคุณภาพสูง
เชฟคริสเตียน คอสตาร์ดิ และเชฟมานูเอล คอสตาร์ดิ (Costardi Brothers – Christian & Manuel) จากห้องอาหาร Ristorante Christian e Manuel อิตาลี ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เป็นเชฟสองพี่น้องที่หลงใหลในการทำอาหารตั้งแต่อายุยังน้อย โดดเด่นด้านการผสมผสานอาหารแบบอิตาเลียนดั้งเดิมกับเทคนิคการทำอาหารแบบสมัยใหม่
เชฟมิเกล ลาฟฟาน (Miguel Laffan )จากห้องอาหาร L’AND Vineyards โปรตุเกส ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟคลื่นลูกใหม่ที่สร้างสีสันให้กับวงการอาหารโปรตุเกสสมัยใหม่
เชฟคริสตินา บาวเวอร์แมน (Cristina Bowerman) จากห้องอาหาร Glass Hostaria อิตาลี ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟผู้หญิงหนึ่งเดียวในงานนี้ และยังเป็นหนึ่งในเชฟผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ได้รับมิชลินสตาร์
เชฟจอค ซอนฟริลโล (Jock Zonfrillo) จากห้องอาหาร Restaurant Orana ออสเตรเลีย เชฟเชื้อสายสก๊อตและอิตาเลียน ผู้ถือว่าประเทศออสเตรเลียคือบ้านของเขาและมีความผูกพันเป็นพิเศษกับวัฒนธรรมอะบอริจินเขาเป็นผู้ดำเนินรายการ “Nomad Chef” ทางช่องดิสคัฟเวอรี โดยรายการนี้จะพาผู้ชมไปค้นพบกับอาหารและวัฒนธรรมของชุมชนที่อยู่ห่างไกลทั่วทุกมุมโลก
เชฟบ็อบบี้ ชิน (Chef Bobby Chinn) เซเลบริตี้เชฟจากเวียดนาม ลูกครึ่งชาวจีนและอียิปต์ ผู้เกิดที่นิวซีแลนด์ จบการศึกษาจากอังกฤษ เขาเคยทำงานที่สหรัฐอเมริกา เขาพัฒนาความสามารถในการปรุงอาหาร ควบคู่ไปกับการมองหารสชาติของอาหารที่แท้จริงจากทั่วโลก แถมเขายังเป็นทูตส่งเสริมการผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืน (Sustainable Seafood Production) ให้กับกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF)
เชฟอนาโตลี คาซาคอฟ (Anatoly Kazakov) จากห้องอาหาร Selfie รัสเซีย เชฟผู้มีปรัชญาเกี่ยวกับอาหารด้วยมุมมองที่ไม่ธรรมดาของส่วนผสมธรรมดา และความมุ่งมั่นในการปลูกผลิตผลที่ใช้ภายในร้านอาหารของเขาด้วยวิถีแบบอย่างยั่งยืน
โดยแต่ละท่านจะเป็นเจ้าภาพดูแล 2 มื้ออาหารค่ำในหนึ่งห้องอาหารของโรงแรมฯ รวมทั้งรังสรรค์เมนูอาหารจานพิเศษสำหรับ เวิลด์ กูร์เมต์ บรั้นช์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคนตั้งตารอมากที่สุด โดยปีนี้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน ซึ่งเป็นสุดท้ายของเทศกาล โดยจะมีความพิเศษที่เชฟบ็อบบี้ ชินและเพื่อนจะสลัดผ้ากันเปื้อน มาเล่นดนตรีให้ฟังกัน
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อีกมากมาย อย่างการแนะนำกลิ่นน้ำหอมที่นำเสนอคู่กับอาหารจานพิเศษเสิร์ฟเข้าคู่กับไวน์ชั้นเลิศ พร้อมชมแฟชั่นโชว์สุดหรูเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน (Fragrance & Fashion), ประสบการณ์เหนือระดับกับการจิบแชมเปญ (Champagne Journey) และบลูฟรายเดย์ไนท์ (Blue Friday Night)
รายได้จากการจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารมื้อค่ำ 600 บาทต่อ 1 ใบ และรายได้ทั้งหมดจากการประมูลของรางวัล จะนำไปร่วมบริจาคสมทบทุนกองทุนพระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อช่วยลดการติดเอดส์ สภากาชาดไทย ต่อไป สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งงานเทศกาลอาหารและไวน์ชั้นเลิศครั้งที่ 18 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ(ถนนราชดำริ – รถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ) โทรศัพท์ 02-126 8866 หรือที่ www.worldgourmetfestival.asia
Comments are closed.