>>ปัจจุบันนี้ เทรนด์การบริการอาหารแบบ “โอมากาเสะ” กำลังได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก และสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่ให้กับมื้ออาหารได้อย่างถูกใจคนรุ่นใหม่ ด้วย โอมากาเสะ คือศาสตร์การปรุงอาหารชั้นสูงของญี่ปุ่น ที่ต้องอาศัยศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์และความชำนาญของเชฟผนวกรวมกันออกมาเป็นมื้ออาหารแสนอร่อยที่รับรองได้ถึงรสชาติที่เป็นเลิศซึ่งเชฟคัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อคุณโดยเฉพาะ ดั่งเช่นที่ “อิชิกะโอมากาเสะ”
โอมากาเสะ ถ้าจะแปลกันอย่างตรงตัว คือ “เชฟจัดให้” โดยเชฟจะเป็นคนตัดสินใจว่าวันนี้จะเสิร์ฟเมนูไหนบ้างให้รับประทานกัน ต่างกับร้านอาหารทั่วไปที่ผู้รับประทานจะได้เลือกเมนูของตนจากรายการอาหาร ฟังแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะรู้สึกหวั่นใจว่า เมื่อไม่ได้เลือกเองแบบนี้แล้วก็เกรงว่าจะไม่ถูกใจ 
แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะการจะเสิร์ฟแบบโอมากาเสะได้ต้องอาศัยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ที่เชื่อในฝีมือได้ และคุณยังจะได้เปิดรับความอร่อยใหม่ๆ เพราะโอมากาเสะเป็นการเปิดโอกาสให้เชฟมีอิสระในการรังสรรค์เมนูอย่างเต็มที่ พร้อมกับการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด อร่อยที่สุดในช่วงวันนั้นๆ ออกมาปรุงเป็นเมนูชั้นเลิศที่เหนือความคาดหมาย พร้อมประสบการณ์สุดพิเศษ เพราะการบริการของโอมากาเสะ ผู้รับประทานจะนั่งติดกับเคาน์เตอร์ครัวของเชฟ ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนเสร็จเสิร์ฟถึงมือคุณเลยทีเดียว
โดยที่อิชิกะโอมากาเสะได้ผสมผสานทั้งความเชี่ยวชาญและความฉลาดเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนเพื่อส่งต่อประสบการณ์การรับประทานอาหารตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย การได้นั่งมองเชฟบรรจงปรุงเมนูแต่ละคำให้รับประทานเหมือนดั่งการรับชมการร่ายรำของนาฏศิลป์ขั้นสูง ที่มีเชฟเป็นตัวเอกของเรื่อง ดำเนินเรื่องโดยอาศัยความเชี่ยวชาญในศาสตร์และศิลป์ของตัวเอง เพิ่มความน่าสนใจให้เรื่องราวของอิชิกะด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มารับประทาน
ในระหว่างมื้ออาหารยังมีการสอดแทรกเกร็ดความรู้ของอาหารญี่ปุ่น และการแนะนำขนบธรรมเนียมการรับประทานในแบบต้นตำรับไปด้วย รวมไปถึงการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นต่างๆ ที่จะทำให้อาหารมื้อนี้แตกต่างจากมื้อไหนๆ
ความพิเศษอีกอย่างของ อิชิกะโอมากาเสะ นั่นคือการใช้วัตถุดิบและวัสดุอุปกรณ์ในการทำอาหารที่พิเศษกว่าใคร โดยปลาของร้านนี้ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงแค่ตลาดปลาสึกิจิ ที่โตเกียวเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเสาะแสวงหาวัตถุดิบชั้นเลิศตามแหล่งจับปลาต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 
ด้านวัสดุอุปกรณ์ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยหน้าสิ่งใด เพราะสำหรับโอมากาเสะแล้วนี่อุปกรณ์ทำครัวธรรมดาทั่วไป แต่มันคือเครื่องมือที่ใช้สร้างสรรค์ศิลปะแห่งการทำอาหารอย่างแท้จริง ทางร้านให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดอย่างเขียงที่อิชิกะก็เลือกใช้เขียงที่ทำจากต้นไม้ Hinoki อายุเกิน 150 ปี จากนากาโน่ เพราะนอกจากจะใช้รองตัดอาหารให้ได้ขนาดที่พอเหมาะแล้วเขียงยังส่งผลต่อกลิ่นและรสของเนื้อปลาได้ด้วย หรืออย่างมีดก็ต้องสั่งทำพิเศษ และหลอมมาจากเหล็กบลูสตีลชั้นยอดจากเมืองซาไก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้มีดเล่มนี้คมกริบ สามารถหั่นได้อย่างแม่นยำ และไม่เสียรสชาติของวัตถุดิบเลยแม้แต่น้อย รวมไปถึงภาชนะต่างๆ ที่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วเป็นอย่างดี
สำหรับปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับโอมากาเสะอย่าง ตัวเชฟ ทางอิชิกะ ก็ได้เชฟมือหนึ่งอย่าง “เชฟอคิระ เขมาวุฒานนท์” มาเป็นหัวหน้าทีมสร้างความอร่อย โดยเชฟผ่านประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่น และร้านอาหารญี่ปุ่นระดับชั้นนำของเมืองไทยมาร่วมกว่า 30 ปี 
โดยที่อิชิกะจัดเสิร์ฟเป็นคอร์สมื้อเที่ยง และมื้อค่ำ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,700 บาท ไปจนถึงระดับเฉียดหมื่น โดยแต่ละคอร์สได้รังสรรค์เอาไว้อย่างครบครัน ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย ซูชิ ไปจนถึงของหวาน มีทั้งซุป เมนูร้อน เมนูเย็น ของย่าง และอาหารหารับประทานได้ยากสารพัดเมนู
สำหรับใครที่อยากมาลองเปิดประสบการณ์ความอร่อยในอีกระดับแบบนี้ สามารถตรงไปได้ที่ อิชิกะโอมากาเสะ ตั้งอยู่ที่ชั้น M โรงแรม แรมแบรนดท์โฮเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท 18 ซึ่งมื้อเที่ยงเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น. ส่วนมื้อเย็นจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 06-1165-6546
Comments are closed.