Dining Out

ทัวร์กินย่านราชประสงค์กับ 13 ร้านดังของมิชลินสตาร์​

Pinterest LinkedIn Tumblr


กางแผนที่ ปักหมุดโลเกชัน เตรียมพร้อมเปิดประสบการณ์ล่าดวงดาว ณ ย่านราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพมหานครที่ตอกย้ำความเป็น “แบงค็อก ดาวน์ทาวน์ (Bangkok Downtown)” ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยการรวบรวมหลากหลายร้านอาหารติดดาวที่ได้รับการแนะนำโดย “คู่มือมิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร 2018 (Michelin Guide Bangkok 2018)” คัมภีร์สำหรับนักเดินทาง บรรทัดฐานของผู้ชื่นชอบอาหารคุณภาพชั้นดี เดินตรงจากร้านสู่ร้านได้อย่างสะดวกและง่ายดายด้วยทางเชื่อมลอยฟ้าราชประสงค์วอล์ก (Ratchaprasong Walk) เอาใจสายกินด้วยร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ (Michelin-starred Restaurants) และอีกหลายร้านอาหารที่ได้รับการการันตีทางด้านรสชาติ คุณภาพ และการปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยรางวัลมิชลินเพลต (Michelin Plates) พร้อมชี้พิกัดร้านอาหารสตรีทฟูดชื่อดังของไทยในหมวดหมู่ร้านอาหารริมทาง (Street Food) ที่คนทั่วไปเข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นอาหารราคาประหยัดที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติความอร่อย รวมไว้มากถึง 13 ร้านอาหารขึ้นชื่อ ณ ราชประสงค์ แบงค็อก ดาวน์ทาวน์ สัมผัสความเลิศรสที่มาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นยอดได้ง่ายๆ ใจกลางกรุงเทพฯ

กว่าจะมาเป็นสุดยอดร้านแนะนำจากมิชลิน ไกด์

ขึ้นชื่อว่า มิชลิน ไกด์ หลายคนรู้อยู่แล้วว่าจะได้สัมผัสกับความเลิศรสของอาหาร ที่ได้ผสมผสานวัตถุดิบชั้นยอดและความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ ถ่ายทอดผ่านการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันตามปรัชญาการทำงานของมิชลิน ไกด์ ซึ่งเปรียบเสมือนบรรทัดฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศส อาหารอิตาเลียน หรืออาหารญี่ปุ่น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกัน แต่กว่าจะเป็นร้านอาหารมิชลินสตาร์ หรือแม้กระทั่งได้รับรางวัลมิชลินเพลต และสุดยอดร้านอาหารริมทางได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากร้านอาหารต่างๆ จะได้รับการพิจารณาและให้คะแนนโดยเหล่านักชิมซึ่งเป็นกูรูและลูกค้าจากหลากหลายอาชีพ หลากหลายสัญชาติทั่วโลก ทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว ไม่จดบันทึกข้อมูลใดๆ ระหว่างรับประทานอาหาร และชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

เกณฑ์การพิจารณาการมอบดาวมิชลินในรางวัลมิชลินสตาร์นั้นประกอบไปด้วย คุณภาพวัตถุดิบ ความชำนาญและเทคนิคในการประกอบอาหาร อัตลักษณ์ของเชฟที่สะท้อนอยู่ในอาหาร ความคุ้มค่าสมราคา และความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร ซึ่งรางวัลแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ร้านที่ได้ 1 ดาวมิชลิน หมายถึง ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม ร้านอาหารที่ได้ 2 ดาวมิชลิน คือร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม และร้านที่ได้ 3 ดาวมิชลิน การันตีความเป็นสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเป็นจุดหมายเพื่อให้ได้ไปรับประทานสักครั้งในชีวิต ในส่วนของเกณฑ์การคัดเลือกร้านอาหาร มิชลินเพลตนั้น เหล่านักชิมจะพิจารณาจากร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน และพิจารณาคัดเลือก ร้านอาหารริมทาง (Street Food) อาหารพร้อมรับประทานที่คนท้องถิ่นนิยม มีความหลากหลายและราคาย่อมเยา ซึ่งทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถแวะเวียนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารอันเลิศรสเหล่านี้ได้ ณ ย่านราชประสงค์ หนึ่งในย่านที่มีอาหารที่ดีที่สุดในโลก มีความหลากหลายน่าตื่นตา มีตัวเลือกที่แตกต่างสุดขั้วให้ลิ้มลอง และนับเป็นบทพิสูจน์ว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน
ราชประสงค์ แบงค็อก ดาวน์ทาวน์

ร้านอาหารระดับดาวมิชลิน : สุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเป็นจุดหมายเพื่อให้ได้ไปรับประทานสักครั้งในชีวิต

ร้านที่ 1: GINZA SUSHI ICHI ร้านซูชิระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน เริ่มต้นเปิดสาขาแรกที่โตเกียว และปัจจุบันขยายออกสู่จาการ์ตาและสิงคโปร์ มีความโดดเด่นอยู่ที่ความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบ ทางร้านรักษามาตรฐานด้วยการส่งตรงวัตถุดิบมาจากโตเกียวทุกวัน โดยมีเมนูทั้งหมด 4 เซต ซึ่งเซตที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Botan และ Omakase นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการบริการและบรรยากาศที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดให้ผู้ที่เข้ามาลิ้มลองหลงรัก Ginza Sushi Ichi ได้อย่างง่ายดาย สัมผัสความพิเศษจากร้าน 1 ดาวมิชลินนี้ได้ในราคาระหว่าง 1,500-10,000 บาท ณ Ginza Sushi Ichi ชั้น L ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก เปิดให้บริการในวันอังคาร-อาทิตย์ ช่วงเวลาอาหารกลางวัน 12.00-14.00 น. และช่วงเวลาอาหารเย็น 18.00-21.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2250-0014

ร้านที่ 2: PASTE จากตำนานความอร่อยแห่งต้นตำรับอาหารไทยโบราณสู่ความภาคภูมิใจในฝีมือคนไทยกับการเป็นร้านอาหารระดับ 1 ดาวมิชลิน PASTE ได้ฉีกกรอบอาหารไทยดั้งเดิม ด้วยการรังสรรค์รสชาติที่แปลกใหม่ โดยได้แรงบันดาลใจจากอาหารชาววัง อาหารหายาก และอาหารพื้นบ้านในช่วงยุคทองแห่งรัชกาลที่ ๔ โดยนำสูตรอาหารของต้นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารการกินมาปรับเป็นรายละเอียดอันลึกซึ้งของอาหารแต่ละจาน ปรุงพิเศษโดยเชฟบี-บงกช สระทองอุ่น ผู้มีแพสชันและมีประสบการณ์ในการทำอาหารอย่างมืออาชีพมากว่า 16 ปี แนะนำเมนูพิเศษจาก “ตำรากับเข้า” ในสมัย ร.ศ.109 ตำราอาหารของไทยที่เก่าแก่ที่สุด อาทิ “ยำถั่วพูไก่ต๊อกรมควัน” ที่นำไก่ต๊อกรสชาติเลิศที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศชั้นดีอย่างลูกจันทน์มาผสมผสานกับวัตถุดิบหลักอย่างถั่วพูหมัก ข้าวโพดย่าง และน้ำพริกเผาสูตรเก่าแก่ ออกมาเป็นเมนูที่เยี่ยมยอด ดื่มด่ำรสชาติอาหารไทยชาววังได้ในราคาระหว่าง 800-1,600 บาท ณ PASTE ชั้น 3 เกษรวิลเลจ PASTE ตั้งอยู่ชั้น 3 เกษรวิลเลจ เปิดให้บริการในช่วงเวลาอาหารกลางวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น. และช่วงเวลาอาหารเย็น 18.30-23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2656-1003

ร้านอาหารระดับมิชลินเพลต: ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน

ร้านที่ 3: Biscotti สุดยอดร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนที่จะมาสร้างค่ำคืนอันสมบูรณ์แบบด้วยการนำเสนอไวน์อิตาเลียนดีๆ ก่อนสั่ง antipasti เรียกน้ำย่อย พบกับที่สุดแห่งการรับประทานอาหารที่โต๊ะ chef's table ซึ่งสามารถมองเห็นครัวเปิดและการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันของเชฟ เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดคือ ฟอคคาเซียมาสคาโปเน และน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ข้าวรีซอตโตกับถั่วกรีนพี เสิร์ฟกับเบคอนอิตาเลียน ฟัวกราส์ และชีสพาร์เมซาน สำหรับของหวานที่เป็นไฮไลต์คือ บิสก็อตติ ซิกเนเจอร์ ทีรามิสุ ที่จะถูกนำมาทำแบบสดๆ พร้อมเสิร์ฟที่โต๊ะอาหารของท่าน สามารถเลือกช่วงเวลาอิ่มอร่อยได้ทั้งกลางวันด้วยเมนูบุฟเฟต์ และช่วงค่ำคืนท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก เพิ่มความพิเศษให้กับการรับประทานมากยิ่งขึ้น ในระดับราคา 800-1,600 บาท ณ Biscotti ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในช่วงเวลาอาหารกลางวัน 11.30-14.30 น. และช่วงเวลาอาหารเย็น 18.00-22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2126-8866

ร้านที่ 4: Erawan Tea Room ผ่อนคลายใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ห้องอาหาร Erawan Tea Room สัมผัสรสชาติความอร่อยของอาหารไทยที่รังสรรค์ขึ้นอย่างบรรจงของเชฟอัจฉรา โตอัสมิ และเซตน้ำชายามบ่ายที่จัดแต่งมาได้อย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยใน Thai Afternoon Tea ที่ประกอบไปด้วยอาหารไทยโบราณหารับประทานได้ยาก และเมนูขนมหวานของไทยที่ขึ้นชื่อมายาวนาน สำหรับเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ข้าวผัดเอราวัณ ข้าวผัดสับปะรด ยำส้มโอ ฉู่ฉี่กุ้ง ต้มข่าปลาโอเชียนเทราต์ กุ้งย่างราดซอสมะขาม แกงคั่วใบชะพลูเนื้อปู และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมี ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมครก และขนมไทยอื่นๆ ภายในห้องอาหารตกแต่งในบรรยากาศสบายๆ ที่แฝงด้วยความอบอุ่น และอบอวลไปด้วยกลิ่นชาต่างๆ พร้อมความหรูหราในสไตล์ไทยกับรสชาติไทยแท้ในราคา 170-1,400 บาท Erawan Tea Room ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2254-6250

ร้านที่ 5: Fireplace Grill and Bar เปิดให้บริการมากว่า 50 ปี ด้วยอาหารกริลล์นานาชนิด ภายใต้บรรยากาศและการบริการที่เป็นกันเอง ซึ่งสามารถปรับให้ได้อารมณ์มากขึ้นด้วยการเลือกที่นั่งติดกับครัวกลาง ในส่วนของความโดดเด่นของเมนูนั้นอยู่ที่การคัดเลือกอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และวัตถุดิบคุณภาพสูงมาใช้เป็นส่วนผสมในการปรุง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ สลัดลอบสเตอร์ สเต๊กชิ้นโต และ Crêpes Suzette และไวน์จากผู้ผลิตชั้นนำที่เสิร์ฟโดยพนักงานที่ให้บริการเป็นอย่างดี Fireplace Grill and Bar นำเสนอเมนูสุดพิเศษในระดับราคา 800-1,600 บาท ตั้งอยู่ ณ ชั้น G โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในช่วงเวลาอาหารกลางวัน 12.00-14.30 น. และช่วงเวลาอาหารเย็น 18.30-22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2656-0444

ร้านที่ 6: Nara นารา (สาขาเอราวัณ) ร้านอาหารไทยต้นตำรับสไตล์คลาสสิกหรูหรา สาขานี้เปิดให้บริการมานานหลายปี เป็นที่ถูกใจคนทุกรุ่น ร้านนารามีความมุ่งมั่นในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องแกงและซอสสูตรโฮมเมดตามฉบับดั้งเดิมของครอบครัวที่คงความอร่อยมายาวนาน เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ ต้มยำกุ้ง มัสมั่นเนื้อ ปูผัดผงกะหรี่ และผัดไทย พบกับอีกหนึ่งในความตั้งใจของนักปรุงรสระดับมืออาชีพได้ในระดับราคา 200-800 บาท ณ นารา (สาขาเอราวัณ) ตั้งอยู่ที่ชั้น LG ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก เปิดให้บริการเวลา 10.30-21.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่
โทร. 0-2250-7707-8

ร้านที่ 7: Tables Grill ห้องอาหารสไตล์ยุโรป ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์เชฟปรุงข้างโต๊ะอาหารเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าโดยตรง เทเบิลส์ กริลล์เสิร์ฟเมนูพิเศษควบคู่ไปกับคุณภาพของวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากทั่วโลกและอาหารทะเลจากการประมงแบบยั่งยืน รังสรรค์โดย เชฟฮานส์ ซาห์เนอร์ เชฟมิชลินสตาร์และหัวหน้าเชฟห้องอาหารเทเบิลส์ กริลล์ พบกับเมนูแบบคอร์สสุดพิเศษ 6 เมนู ที่จะปรับเปลี่ยนไปตามซีซันต่างๆ ในราคาเซตละ 2,900 บาท++ ลิ้มลองอาหารนานาชาติหลากหลายชนิดในช่วงดินเนอร์ของทุกวัน และพลาดไม่ได้กับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับ Saturday and Sunday Brunch กับสเตชันอาหารปรุงสด พร้อมแชมเปญที่เติมได้ไม่อั้นในราคา 3,999 บาท++ ต่อท่าน ที่จะเติมเต็มและช่วยผ่อนคลายช่วงเวลาสุดพิเศษ Tables Grill ตั้งอยู่ ณ ชั้น M โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวันในช่วงเวลาอาหารเย็น 18.00-22.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ในช่วงเวลา Saturday and Sunday Brunch 11.00-15.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2254-6250

ร้านที่ 8: Theo Mio ห้องอาหารทีโอ มีโอ ที่สุดของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง ภายใต้แนวคิดและการบริหารของ ทีโอ แรนดอลล์ (Theo Randall) เซเลบริตีเชฟชี่อดังชาวอังกฤษ Theo Mio ตั้งอยู่ ณ โถงกลางอันเปิดโล่งรับแสงสว่างที่มีระเบียงกว้างและครัวกึ่งเปิด นำเสนอเมนูที่หลากหลายให้เลือกลิ้มรสตามความชื่นชอบ ทั้งพาสตา พิซซา และเมนูจานเด่นอย่าง Dentice Rosso Arrosto ปลากะพงแดงย่าง เสิร์ฟพร้อมหอยวองโกเลราดซอสซัฟฟรอนบัตเตอร์ หรือเลือกลิ้มลอง Agnello a Scottadito ซี่โครงแกะย่าง และซี่โครงแกะตุ๋นนุ่มละมุนลิ้น เสิร์ฟพร้อมผักย่างและซอสไวน์แดง ทุกจานรังสรรค์ขึ้นด้วยรสชาติแบบอิตาเลียนขนานแท้ ปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นดีตามฤดูกาลจากอิตาลี พร้อมพบประสบการณ์สุดพิเศษในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย อิตาเลียน วีกเอนด์ บรันช์ (Italian Weekend Brunch) ที่เสิร์ฟพร้อม Prosecco แบบฟรีโฟลว์ สัมผัสรสชาติแบบอิตาเลียนต้นตำรับได้ในระดับราคา 125-1,200 บาท ณ Theo Mio ชั้น G โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดให้บริการเวลา 11.30-23.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2656-0444

ร้านที่ 9: Uno Mas ชี้พิกัดร้านอาหารสเปน Uno Mas ซึ่งนำทีมความอร่อยโดยเชฟจากเมืองบาร์เซโลนา นำเสนออาหารที่ปรุงขึ้นจากเครื่องปรุงและวัตถุดิบนำเข้าจากสเปน รวมทั้ง Cured Ham แบรนด์ Joselito แฮมที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก พร้อมเมนูที่ไม่ควรพลาดอย่าง หมูหันสเปน กรอบนอกนุ่มในคลุกเคล้าเครื่องเทศหอมกรุ่น และข้าวผัดสเปน ที่มีส่วนผสมของซีฟูดมาให้ลิ้มรสแบบจัดเต็ม อร่อยเข้มข้นเหมือนกำลังรับประทานอาหารรสเลิศที่สเปน นอกจากนี้ Uno Mas ยังมีเมนูอาหารสเปนให้ลิ้มลองอีกมากมาย ตามหารสชาติความอร่อยเคล้าวิวใจกลางมหานครได้ในระดับราคา 1,600-2,400 บาท ณ Uno Mas ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการทุกวันเวลา 16.00-01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2100-6255

ร้านที่ 10: ZUMA ร้านอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยสไตล์อิซากายะจากอังกฤษที่มีสาขาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่นิวยอร์ก ลอนดอน ดูไบ หรือโรม มีเอกลักษณ์อยู่ที่ครัวเปิดขนาดใหญ่และการตกแต่งสไตล์มินิมอลด้วยไม้และหินอ่อน ในส่วนของสุดยอดเมนูที่ได้รับการแนะนำมากมายนั้นคือ ปูนิ่ม และปลาหิมะกับเต้าหู้ อีกทั้งทางร้านยังมีเมนูซูชิให้เลือกมากมาย สามารถเลือกชิมและลิ้มรสได้ตามความชื่นชอบ พบกับความลงตัวทางด้านรสชาติและบรรยากาศได้ในระดับราคา 980-3,200 บาท ณ ZUMA ชั้น G โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในช่วงเวลาอาหารกลางวัน 12.00-14.45 น. และช่วงเวลาอาหารเย็น 18.00-22.45 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2252-4707

ร้านอาหารริมทาง (Street Food): อาหารพร้อมรับประทานที่คนท้องถิ่นนิยม มีความหลากหลายและราคาย่อมเยา

ร้านที่ 11: นายอ้วนเย็นตาโฟบะเต็ง เสาชิงช้า (รางวัลที่ได้รับ : มิชลินเพลต) ร้านเย็นตาโฟเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่า 50 ปี ความอร่อยและความพิเศษของร้านอยู่ที่ลูกชิ้นปลา ซึ่งมีทั้งแบบนึ่งและทอด หรืออาจเลือกใส่หมูบะเต็งหวานๆ เค็มๆ เพิ่มลงไปก็อร่อยไม่ซ้ำใคร อีกทั้งรสชาติเย็นตาโฟของที่นี่ยังเข้มข้นในแบบที่เผ็ดนิดๆ แต่ไม่เผ็ดเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่รับประทานอาหารรสเผ็ดและชาวต่างชาติที่แวะเวียนเข้ามาในย่านราชประสงค์เป็นอย่างดี ลิ้มรสความอร่อยจากนายอ้วน เย็นตาโฟบะเต็งได้ที่ตรอกนาวา ถนนตะนาว เขตพระนคร และ The Cook ชั้น 4 ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 0-2650-4704

ร้านที่ 12: ร้านโกอ่างข้าวมันไก่ ประตูน้ำ (รางวัลที่ได้รับ : บิบ กูร์มองด์) เอาใจคนรักสตรีทฟูดด้วยสุดยอดข้าวมันไก่รสเลิศ การันตีความเป็นสุดยอดร้านอาหารริมทาง เปิดให้บริการกว่า 50 ปี กิตติศัพท์ของโกอ่างข้าวมันไก่เป็นที่เลื่องลือทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ อร่อยล้ำด้วยข้าวมันหอมฉุยหุงด้วยน้ำมันจากไก่ ใช้ข้าวหอมมะลิหุงกำลังดี ข้าวนุ่ม ลงตัวและเข้ากันได้ดีกับรสของไก่ต้มเนื้อนุ่ม และน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน พร้อมน้ำซุปที่เคี่ยวจนได้รสชาติกลมกล่อม อันทำให้เกิดกิตติศัพท์เลื่องลือ พบกับร้านโกอ่างข้าวมันไก่ได้ที่สาขาประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี และ The Cook ชั้น 4 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2650-4704

ร้านที่ 13: แอนก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (รางวัลที่ได้รับ : บิบ กูร์มองด์) เพิ่มความพิเศษให้กับก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ซึ่งเป็นเมนูสตรีทฟูดด้วยเคล็ดลับการปรุงแบบพิเศษ โดยผู้ชิมสามารถเลือกระดับความกรอบของเส้นได้ทั้งแบบกรอบ แบบนุ่ม หรือแบบกรอบนอกนุ่มในที่จะช่วยให้ไม่มันเลี่ยน อีกทั้งยังสามารถเลือกระดับความสุกของไข่ได้ตามความชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นไข่สุก หรือไข่แบบเยิ้ม คงเอกลักษณ์ความเป็นต้นตำรับของร้านด้วยการปรุงด้วยเตาถ่าน เลือกรับประทานแอนก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ในแบบที่ชอบได้ที่ถนนหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ The Cook ชั้น 4 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2650-4704

เปิดแผนที่ปักหมุดร้านอาหารอร่อยแนะนำโดย มิชลิน ไกด์ ที่มาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นเยี่ยมได้อย่างหลากหลาย ณ ราชประสงค์ แบงค็อก ดาวน์ทาวน์ ติดตามรายละเอียดแคมเปญหรือโปรโมชันต่างๆ ได้ที่ www.bkkdowntown.com และ www.facebook.com/HeartOfBangkok

Comments are closed.

Pin It