Dining Out

“The Matcha Tokyo” ปักหมุดเปิดสาขาที่ 2 ในไทย

Pinterest LinkedIn Tumblr


The Matcha Tokyo (เดอะ มัทฉะ โตเกียว) คือร้านคาเฟ่ที่เชี่ยวชาญด้านมัทฉะ ที่นำเสนอมัทฉะชั้นยอดอย่างทันสมัย และเป็นกันเอง เพื่อหลอมรวมการดื่มมัทฉะให้เข้ากับชีวิตประจำวันของทุกคน จากมัทฉะสู่สุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน โดยเป้าหมายของแบรนด์ The Matcha Tokyo คือ การนำพาสุดยอดมัทฉะ ออร์แกนิกไปหาผู้คนต่างๆ บนโลก เพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของทุกคนที่ได้ดื่มชาของเรา ล่าสุดหลังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ณ สาขาแรกในเมืองไทยที่เอ็มสเฟียร์ ทางแบรนด์จึงต่อยอดสาขาที่ 2 ของกรุงเทพฯ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ด้วยคอนเซ็ปต์ร้านที่มีความอบอุ่นและเป็นกันเอง


The Matcha Tokyo ต้องการนำเสนอชาเขียวดั้งเดิมในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 ณ กรุงโตเกียว ย่านโอโมเตะซานโด (Omotesando) โดยนำเสนอ “มัทฉะ” เครื่องดื่มที่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีชงชาดั้งเดิมของญี่ปุ่นมานานกว่าพันปีในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างเป็นกันเอง ในขณะเดียวกันก็ยังสานต่อและเพิ่มคุณค่าของมัทฉะให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสาขาที่พร้อมเสิร์ฟความสุขให้กับลูกค้าอยู่ที่ญี่ปุ่น 3 สาขา ได้แก่ โอโมเตะซานโด, ชิบูย่า และ ชินจุก) ฮ่องกง 7 สาขา, ฟิลิปปินส์ 1 สาขา และที่ประเทศไทย 2 สาขา(เอ็มสเฟียร์ และเอ็มโพเรียม)


สำหรับ The Matcha Tokyo สาขาเอ็มโพเรียม บนพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. รังสรรค์เมนูที่เป็นไฮไลต์และครองใจผู้คนมาแล้ว โดยหัวใจหลัก คือ มัทฉะ ที่นับเป็นพระเอก โดยประโยชน์ของมัทฉะมีสารอาหารมากมายในด้านความงามและสุขภาพ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ว่าเป็น Super Food โดยเฉพาะ สาร “คาเทชิน” ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด และ “ธีอะนีน” ที่ช่วยบำรุงโลหิด ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดการดูดชับคาเฟอีนและยังเป็นสารที่ทำให้เกิดรสชาติอูมามิในชาอีกด้วย ทั้งนี้ การดื่มมัทฉะ ก็เหมือนกับดื่มใบชาเข้าไปทั้งใบ นี่คือเหตุผลที่ทาง The Matcha Tokyp สนับสนุนฟาร์มใบชาออร์แกนิก และตั้งใจในการทำแบรนด์มัทฉะออร์แกนิก 100% ที่ดีต่อร่างกาย และสิ่งแวดล้อม โดยฟาร์มชาของ The Matcha Tokyo ตั้งอยู่ที่จังหวัดคาโกชิมา จังหวัดเกียวโต และจังหวัดชิสุโอกะทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยทุกฟาร์มอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและมลพิษทางอากาศ ดูแลต้นชาทุกต้นด้วยน้ำแร่ธรรมชาติและดินนุ่มฟูที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ปลอดสารเคมี ดูแลโดยผู้ปลูกที่มากประสบการณ์และมีใบอนุญาตในการปลูกชา


พื้นฐานของการปลูกชา ใบชาที่ถูกเก็บช่วงฤดูใบไม่ผลิในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เรียกว่าใบชาระยะแรก (Ichi-ban.cha ) เป็นชาที่มีคุณภาพสูงที่สุดของปี ด้วยรสหอมหวานของมัน ใบชาที่ถูกเก็บในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน หรือ ใบชาระยะที่สองหรือระยะที่สาม จะนิยมนำไปประกอบทำขนมหรือเมนูรังสรรค์ต่างๆ แทนเพราะความใบอวบและมีรสเข้มออกขมของมัน หลังจากพักต้นชาในฤดูหนาวไป ก็เริ่มลงปุ๋ยบำรุงประมาณเดือมกุมภาพันธ์เพื่อเตรียมเก็บเกี่ยวรอบต่อไป โดยทาง The Matcha Tokyo จะใช้ Straight Matcha กับเมนูลาเต้ของแบรนด์ทุกแก้ว โดยใช้ใบชาระยะแรกในการชงเท่านั้น”


ผลิตภัณฑ์ของ The Matcha Tokyo และวัตถุดิบที่เลือกใช้มีใบอนุญาตในการปลูกชาออร์แกนิกรับรองจากองค์กร JAS Organic, USDA Organic และ Euro Leaf โดยเฉพาะไร่ที่จังหวัดคาโกชิมะได้รับการยอมรับจาก Rain Forest Organization ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรและเด็กๆ นอกจากการปลูกแบบออร์แกนิกแล้ว กรรมวิธีการผลิตที่รัดกุมเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของ ผลิตภัณฑ์ก็เป็นที่เรื่องที่สำคัญมากสำหรับเรา เพราะเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งออกอาหารที่ดี เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของคนทั้งโลก”


ในขณะที่ความนิยมของมัทฉะกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายๆครั้ง คุณภาพของมัทฉะส่วนใหญ่ในท้องตลาดเน้นไปที่การผลิตให้ได้ในปริมาณมากๆ ไม่ใช่เน้นชาเขียวที่มีคุณภาพดี เราจึงใส่ใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพของมัทฉะอย่างมาก ตั้งแต่ดินที่ใช้ปลูกต้นชา กระบวนการผลิตที่เน้นออร์แกนิกเป็นหลัก เพื่อประโยชน์ของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในความอร่อยของมัทฉะควบคู่กับสิ่งแวดล้อมแม้จะในอีก 100 ปีข้างหน้าก็ตาม

Comments are closed.

Pin It