Dining Out

อาหารไทยแท้ผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร “อายตนะ”

Pinterest LinkedIn Tumblr


“โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต” เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา พร้อมนำเสนอไฮไลท์สำคัญของโรงแรมผ่านเรื่องราวของห้องอาหาร “อายตนะ” (AYATANA) ชูอัตลักษณ์อาหารไทยระดับมิชลิน โดยเชฟโบ-ดวงพร และเชฟดีแลน โจนส์ ที่บรรจงออกแบบอาหารที่ผสมผสานความเป็นไทยแท้กับวัฒนธรรมอันงดงามของญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์ สร้างการจดจำ และการบอกเล่าเส้นทางอาหารจากจานสู่จาน ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 6 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมณ์ โดยเมนูอาหารจะมีการปรับเปลี่ยนในทุกฤดูกาล


ก้าวแรกที่เข้ามาในห้องอาหารอายตนะ ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับที่คัดสรรมาเพื่อเปิดประสาทสัมผัสและเตรียมความพร้อม ก่อนจะเริ่มเสิร์ฟอาหารคอร์สแรก ซึ่งเป็นเคียว ยาไซ (Kyo-yasai) หรือผักประจำท้องถิ่นเกียวโต กับรสชาติเผ็ดร้อนของพริกไทยจากอีสาน ที่เชฟจะมาปรุงสด ให้ลูกค้าได้ลองชิม ผ่านครัวเปิดแบบโอเพ่นคิทเช่น

หลังจากนั้น พนักงานจะเสิร์ฟ “อามูส บุช” ที่สอดคล้องกับเบญจธาตุทั้งหมด 5 คำในสไตล์โชจิน เรียวริ ที่ประกอบด้วย 5 รสชาติ คือ หวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด และขม ผ่านการปรุง 5 แบบ คือ ย่าง รมควัน นึ่ง ต้ม และดิบ และมีทั้งหมด 5 สี คือ เขียว แดง ดำ เหลือง และขาว ก่อนที่จะเสิร์ฟเมนูอาหารไทยหลักอีก 6 เมนู ได้แก่ ต้ม ผัด แกง นึ่ง ยำ น้ำพริกผักจิ้ม และข้าวสวยออร์แกนิก โดยจะมีทั้งเมนูปกติ และเมนูสำหรับผู้ที่ทานเผ็ดไม่ได้ ให้ลูกค้าได้เลือก เพื่อคงรสชาติอาหารแบบไทยแท้ไว้ และปิดท้ายของหวานจาก “กะทิ” (Kati) ห้องขนมหวานประจำ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งนับเป็นร้านขนมแห่งแรกในเกียวโต ที่ใช้กะทิสดแบบออร์แกนิกจากประเทศไทยมาเป็นส่วนผสมหลัก เสิร์ฟพร้อมชาเขียวออร์แกนิกจาก ดุสิต ที การ์เด้น (Dusit Tea Garden)


ในระหว่างมื้ออาหาร ลูกค้าจะได้รับทราบ ‘เข็มทิศความอร่อย’ จากพนักงานที่จะคอยอธิบายเรื่องราวของอาหาร และรายละเอียดของวัตถุดิบที่ใช้ในแต่ละวัน เพื่อให้เห็นภาพรวมของเส้นทางอาหาร กว่าจะมาเป็นจานที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่และเป็นความภาคภูมิใจของ “ดุสิตธานี” ที่ได้นำเสนอเรื่องราวอัตลักษณ์ของอาหารไทย ที่ผสานกับวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นให้โลกได้รับรู้ โดยตัวอย่างเมนูเด่นๆ ประจำฤดูร้อนนี้ได้แก่ ยำสาลี่ญี่ปุ่นกุ้งดิบ ข้าวยำอย่างใต้ แกงแพนงโครงเนื้อเค็ม ต้มกะทิหอยประจำวันและสาหร่าย


นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมีเมนูไวน์ที่จับคู่กับอาหารแต่ละจาน และในเร็วๆ นี้ จะมีการเพิ่มเมนู มอคเทลจากจิตวิญญาน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบเดียวกับเครื่องปรุงอาหาร คิดค้นโดย Intangible บาร์คอกเทลแบบไร้แอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียงจากเชียงใหม่ ที่มาช่วยรังสรรเครื่องดื่มสำหรับเพิ่มรสชาติและกลิ่นอโรมาให้กับอาหารแต่ละคอร์ส

ห้องอาหาร อายตนะ ตั้งอยู่ชั้น B1 โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ในช่วงแรก จะเปิดให้บริการเฉพาะมื้อเย็นระหว่าง 17:30-22:00 น. ทุกวันยกเว้นวันอังคารและวันพุธ เนื่องจากเป็นคอร์สอาหารไทยแบบไฟน์ไดนิ่งที่ใช้เวลาดื่มด่ำกับรสชาติอาหารถึง 2.5 ชั่วโมง และห้องอาหารมีที่นั่งจำนวนจำกัด จึงแนะนำให้ลูกค้าสำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับการเดินทาง และค้นพบความสนุกทุกประสาทสัมผัสจากเมนูต่างๆ อย่างที่หาจากไหนไม่ได้ ทั้งนี้ มื้อกลางวัน จะเริ่มให้บริการในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม dusit-international.com.

Comments are closed.

Pin It