เมื่อเอ่ยถึงงาน World Gourmet Festival เหล่านักชิมทั้งหลายคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 14 แล้ว สำหรับปีนี้มีเชฟรับเชิญจากทั่วโลกถึง 10 คน ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงระดับเชฟมิชลิน หรือได้รับการันตีความอร่อยจากรางวัลระดับโลกมาแล้วทั้งสิ้น
งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 14 จะจัดขึ้นในวันที่ 2-8 ก.ย. นี้ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ซึ่งเหล่าเชฟทั้ง 10 คน จะบินตรงเพื่อมาปรุงอาหารจานเด่น เคียงคู่กับไวน์รสเลิศให้ได้ชิมกันอย่างสุดฝีมือตลอดเวลา 1 สัปดาห์ และยังได้เตรียมเคล็ดลับการปรุงอาหารจานเด่น มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการสาธิตการทำอาหารในแต่ละวันอีกด้วย โดยเชฟนานาชาติที่มาร่วมงานนั้นแต่ละคนมีประสบการณ์น่าสนใจทั้งสิ้น ดังนี้
เชฟมาร์คัส อาร์โนล์ด อายุเพียง31ปี แต่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในวงการอาหารของสวิสเซอร์แลนด์ เขาให้ความสำคัญกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจานอาหารที่เขาปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพเยี่ยม โดยมีเครื่องการันตีความสำเร็จ ได้แก่ Gault-Millau Gourmet Guide ซึ่งเขาได้รับไปถึง 17 Gault-Millau points และยังได้รับ Michelin Star อีกด้วยในปี 2012 นอกจากนั้น ยังได้รับการยกย่องเป็น “Achiever of the Year” หรือเชฟผู้ประสบความสำเร็จแห่งปีอีกด้วย
ใครที่ชื่นชอบอาหารฝรั่งเศสไม่ควรพลาด ชิมฝีมือของ เชฟเจอโรม โบเน่ เขาได้รับแรงบันดาลใจในการทำครัวจาก เชฟ Paul Bocuse จากร้าน The Pourcel Brothers and Bernard Loiseau อาหารของเชฟเจอโรม เน้นใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ซึ่งเขาเป็นคนตระเวนหาเครื่องปรุงและวัตถุดิบเหล่านี้ด้วยตัวเอง เชฟเจอโรมสามารถรังสรรค์อาหารฝรั่งเศสรสดั้งเดิมที่แสนอร่อย แต่เติมความแปลกใหม่ที่เป็นตัวตนของเขาเองเข้าไปได้อย่างลงตัว
เดวิด ราธเกเบอร์ เป็นเชฟฝรั่งเศสอีกคน ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยวัยเพียง 35 ปี เขาทำงานกับร้านอาหารระดับมิชลิน 2 ดาว มามากมาย ได้แก่ร้าน Amphycles ในกรุงปารีส, ร้านRitz ในปารีส, ร้าน Les Trois Marches ในเมืองแวร์ซายส์ และได้ทำงานร่วมกับเชฟชื่อดังแห่งยุค Chef Alain Ducasse เชฟเดวิดเข้ามาดูแลร้านอาหารเล็กๆ ชื่อL'Assiette เมื่อปี 2008 โดยจะทำอาหารให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน
ส่วนใครที่ชอบความสดใหม่ในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน มิเกล ลาฟานเป็นหนึ่งในเชฟรุ่นใหม่ของโปรตุเกส อาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารMiddle-East และLuso-Asian ทำให้แต่ละจานที่ถูกปรุงออกมานั้นมีรสชาติเข้มข้มและอร่อย มิเกลเดินทางไปทั่วโลกและได้ทำงานในร้านอาหารติดดาวMichelin Starมากมายหลายร้าน เช่นร้านFortaleza do Guincho (Three Michelin Star) ในเมืองCascais ประเทศโปรตุเกส ร้านLe Jardin des Ramparts ในเมืองBeaune ประเทศฝรั่งเศส และร้านLe Clous de la Violetteในเมือง Aix-en-Provence ประเทศฝรั่งเศส นอกจากร้านอาหารชื่อดังเหล่านี้แล้ว เขายังผ่านการทำงานในโรงแรมหรูมาแล้วมากมาย ทั้ง Hotel Casa Velha do Palheiro, Hotel Quinta da Casa Branca ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าทีมพ่อครัวของโรงแรม L’AND ในภาคใต้ของโปรตุเกสมิเกลเชื่อว่าความสมบูรณ์แบบมาจากการค้นคว้าหาความรู้และความตั้งใจอย่างแรงกล้า สำหรับเขาแล้ว ความสดของอาหารมีความสำคัญพอๆกับความสดชื่นของจิตใจ และนี่เป็นหนึ่งในเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของเขานั้นเอง
วิโต้ โมลิก้า ได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารครั้งแรกจากคุณแม่ของเขาเอง วิโต้เชื่อว่าการที่เขารู้จักกับผู้ผลิตวัตถุดิบต่างๆนั้นจะทำให้เขาได้รับเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่มีในท้องตลาด เพราะหากผู้ผลิตมีความรักและใส่ใจกับวัตถุดิบของพวกเขา ความรู้สึกนั้นย่อมถ่ายทอดออกมาในผลิตผลของพวกเขานั้นเอง วิโต้เน้นเป็นอย่างยิ่งว่าหัวใจของอาหารแต่ละจานมาจากส่วนประกอบที่ดีเยี่ยมนั้นเองวิโต้โมลิก้ามีประสบการณ์ในครัวชั้นนำมากว่า20ปี ก่อนที่จะมาร่วมเป็นหนึ่งในทีมเปิดของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฟลอเรนซ์ในปี 2007
เชฟChef Paco Perez จากสเปน ความสนใจในวงการอาหารของปาโก้เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่เขาเริ่มทำงานในร้านอาหารของครอบครัวตั้งแต่อายุ 12 ปี หลังจากนั้นเขาก็มักจะเข้าไปขอทำงานกับร้านอาหารต่างๆในระหว่างช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจนกระทั่งเขามีความเชี่ยวชาญในด้านการทำอาหาร ก่อนที่เขาจะได้ฝึกงานในร้านของ Michel Guerard ที่ได้รับ Three Michelin Star ซึ่งเขาได้เรียนรู้เทคนิคในการทำอาหารจากที่แห่งนี้เป็นอย่างมากปาโก้มีร้านอาหารของเขาเองร่วมกับภรรยาที่รักชื่อ MiramarGastronomic Restaurant ในเมืองLlancaตั้งแต่ธันวาคมปี2010 เขาจึงมาบริหารร้านThe Mirror ในเมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน
ฮิโรฮิสะ โกยาม่า เป็นเชฟที่โด่งดังและยิ่งใหญ่คนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เขาบริหารร้านอาหารAoyagi และยังสอนทำอาหารที่โรงเรียนสอนทำอาหารHeisei Culinary Schoolที่เขาเปิดเองอีกด้วย หลักการทำอาหารของเขานั้นคือความเรียบง่ายที่นำเอาอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มาผสมกับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ให้ได้อย่างลงตัว โกยาม่าทำอาหารมาตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากครอบครัวของเขาเปิดกิจการร้านอาหารAoyagi ในเมืองTokushima ซึ่งเป็นเมืองโด่งดังในเรื่องอาหารทะเลสดๆเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจะเห็นอาหารจานเด่นของเชฟโกยาม่ามีส่วนประกอบเป็นอาหารทะเลสดใหม่เป็นจำนวนมาก
ปิดท้ายขนมหวานจาก เชฟโรเจอร์ แวนตั้งแต่เด็กๆ โรเจอร์ แวน แดม หลงใหลกับการอบขนมมาโดยตลอด และตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาจะต้องเป็นนักทำขนมอย่างแน่นอน คุณปู่ของเขามีอาชีพเป็นคนอบขนม โรเจอร์จึงคลุกคลีกับเตาอบมาตั้งแต่เด็ก หลังจากจบจากโรงเรียนที่ Bruges เขาเดินทางตามความฝันและทำงานกับHuize Van Wely ร้านขนมชื่อดังที่ประเทศฮอลแลนด์ อีก2-3ปีให้หลัง โรเจอร์กับภรรยาย้ายไปอยู่ที่ Antwerp เมืองที่เขาเปิดร้านน้ำชาที่มีชื่อว่า Het Gebaarกิจการร้านเติบโตขึ้นเรื่อยๆและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยได้รับดาวแรกจากMichelin Star ในปี 2011 นับได้ว่าโรเจอร์ แวน แดมเป็นนักทำขนมเบลเยี่ยมที่มีประสบการณ์และความคิดแปลกใหม่มากที่สุดคนหนึ่ง จนGault-Millauขนานนามเขาว่าเป็น “Godfather of molecular pastry” หรือ “เจ้าพ่อแห่งขนมในสไตล์Molecular” เลยทีเดียว
มหกรรมอาหารและไวน์ชั้นเลิศครั้งเดียวในรอบปี ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ โทร. 0-2126-8866 หรือ reservations.bangkok@fourseasons.com หรือ wgf.bangkok@fourseasons.com
Comments are closed.