Art Eye View

กฤช งามสม “เมื่อผมไม่โด่งดังเหมือนศิลปินระดับโลก”

Pinterest LinkedIn Tumblr


เฝ้าใฝ่ฝัน นับแต่ครั้งเป็นนักศึกษาศิลปะ ว่าสักวันคงมีโอกาสร่วมแสดงผลงานกับศิลปินคนโปรด และโด่งดังเหมือนพวกเขาเหล่านี้ Salvador Dali,Marcel Duchamp,Num June Paik,Jeff Koon และ Damien Hirst ศิลปินระดับโลกที่ใครๆต่างรู้จัก

เมื่อโอกาสไม่เคยมาถึง กฤช งามสม จึงเลือกนำผลงานชิ้นที่มีชื่อเสียง ของศิลปินเหล่านั้น มานำเสนอใหม่ แทนที่จะแอบน้อยใจอยู่อย่างที่เคย

“แรงบันดาลใจแรกที่ทำให้สร้างผลงานชุดนี้ขึ้นมา ย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นนักศึกษาศิลปะ เคยฝันว่า อยากจะโด่งดังเหมือนศิลปินระดับโลกเหล่านี้ หรือไม่ก็อยากจะโอกาสร่วมแสดงผลงานด้วย แต่ไม่มีโอกาส เป็นไปไม่ได้ เพราะลำพังโอกาสจะเดินทางไปดูผลงานชิ้นจริงที่ต่างประเทศยังเป็นไปได้ยาก ดูได้แค่จากหนังสือ ผมจึงสร้างผลงานชุดนี้ขึ้นมา ทดแทนความรู้สึกตรงนั้น”

ผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลกในบรรยากาศแบบไทยๆ คือสิ่งที่กฤชอยากนำเสนอ ผ่านงานในรูปแบบ ศิลปะจัดวาง (Installation) ชุดล่าสุด ซึ่งความเป็นไทยในความรู้สึกของเขา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ การเพ้นท์ลายไทยลงไปในชิ้นงาน หรือ มีหัวโขนมาตั้งวางเคียงข้าง

“ผมเป็นคนต่างจังหวัด(พิจิตร) ความเป็นไทยของผม ส่วนหนึ่งคือ ความซื่อ อารมณ์ขัน หรือ สีสันแบบไทยๆ เช่น งานวัด”

ได้ยินได้ฟังเช่นนี้ จึงลองไปเดินทอดน่องชมงานวัดในแบบของเขา โอ้.. โน่น…“ม้าหมุน” นี่…“ชิงช้าสวรรค์” และ นั่น … “หนังกลางแปลง”

แต่เมื่อเขยิบเข้าไปดูใกล้ๆ “ม้า” ที่เราเคยนั่งหมุน กลายเปลี่ยนเป็น “หมา” ที่มีรูปร่างน่าตาคล้ายประติมากรรม Balloon Dog ของ Jeff Koons

ส่วน “ชิงช้าสวรรค์” ถูกตั้งอยู่บนฐานที่เป็นเก้าอี้ อารมณ์คล้ายผลงาน Bicycle Wheel ที่เป็นผลงานล้อจักรยานบนเก้าอี้ ของศิลปิน Marcel Duchamp

และที่กำลังนั่งดู “หนังกลางแปลง” จอนั้น ไม่ใช่คนแก่คนเฒ่า หรือคนหนุ่มคนสาว ที่หอบลูกจูงหลานมาดู แต่เป็นมวลหมู่พระพุทธรูป ที่ถูกตั้งอยู่รายล้อมโปรเจกเตอร์ที่เป็นมือพระพุทธรูปปางห้ามญาติ และภาพที่ฉายวนอยู่บนจอ คือภาพเศียรพระพุทธรูปสมัยต่างๆ

ผลงานชิ้นนี้กฤชทำขึ้นเพื่อล้อเลียนผลงานชื่อ TV Buddha ของ Nam June Paik ศิลปินอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการวิดีโออาร์ต

เมื่อยจากการเดินเที่ยวงานวัด คราวนี้กระโดดลงทะเลไปทักทายกับ “ปลาฉลาม” ตัวนั้น ของกฤช ที่ดูท่ามันกำลังหิวโซ เพราะถึงขั้นต้องพุ่งออกจากตู้ที่ขังมันไว้ เพื่อฮุบกินปลาตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่นอกตู้

แม้จะต้องการล้อเลียน The Physical Impossibility of Death in The Mind of Someone Living ผลงานศิลปะที่เคยถูกประมูลไปในราคาที่แพงที่สุดในโลก ของ Damien Hirst ศิลปินชาวอังกฤษผู้นิยมนำสัตว์ต่างๆมาสตัฟฟ์ไว้ในตู้แช่ แต่ขณะเดียวกัน กฤชต้องการให้มันเชื่อมโยงกับสุภาษิตไทยที่ว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก”

ก่อนที่จะไล่สายตาไปชิม “ต้มยำกุ้ง” หม้อสีแดงที่ถูกหั่นครึ่ง เพราะเหลืออีกครึ่งไว้เพื่อผลงานต้นแบบอย่าง Lobster Telephone ของ Salvador Dali ศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสต์ชาวสเปน ที่ก่อนหน้านี้ผลงานชิ้นนี้ของเขา เคยเป็นแรงบันดาลใจให้ Elsa Schiaparelli สร้างสรรค์ชุดที่แปลกแหวกแนวให้ Lady Gaga

“เมื่อนึกถึงงานโทรศัพท์กุ้งของเขา ท่ามกลางความเป็นไทย ผมนึกถึงต้มยำกุ้ง เพราะคิดว่าถ้ากุ้งตัวนี้ มาอยู่เมืองไทย มันต้องโดนสับเพื่อทำเป็นต้มยำกุ้งแน่ๆเลย” เจ้าของผลงานฉายจินตนาการที่สนุกสนานของเขาให้เราเห็นภาพ ขณะที่ผู้ชมหลายคน ต่างกำลังซดโฮกๆและทดลองฮาโหลๆ ผลงานชิ้นนี้ไปพร้อมๆกัน

ในบรรดาศิลปินระดับโลกทั้ง 5 คน กฤชบอกว่า ศิลปินที่มีอิทธิพลต่อการสร้างผลงานศิลปะของเขามากที่สุดคือ Marcel Duchamp

เพราะมากไปกว่า ชิงช้าสวรรค์ ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อล้อเลียนผลงาน Bicycle Wheel เขายังล้อเลียนผลงาน Fountain ที่ศิลปินชาวฝรั่งเศสรายนี้ เคยนำโถปัสสาวะหนี่งอันมาตั้งโชว์ไว้กลางแกลเลอรี่ ด้วยการสร้างผลงานชื่อ “โถ…คุณ Mutt” ที่เป็นการนำโถปัสสาวะอันเล็กๆมาเรียงขึ้นเป็นชั้นน้ำพุ

“ในยุคที่ศิลปะต้องเป็นงานที่มีราคาแพง ประเภทงานเพ้นท์ หรืองานที่หล่อด้วยบรอนซ์ หล่อทองเหลือง ศิลปินคนนี้เขากลับไปเอาพวกล้อจักรยาน เอาของที่มันไม่มีค่า มาทำเป็นงานศิลปะ เหมือนกับเป็นการปฏิวัติวงการศิลปะ เพื่อบอกว่าศิลปะมันไม่ใช่อะไรที่สูงส่งนะ คนธรรมดาก็เข้าถึงได้

เช่นเดียวกับงานของผมชุดก่อนๆ ที่ผมเอาพวกทีวีเก่า พัดลมเก่า หรือของเหลือทิ้งตามบ้านนอกของผมมาทำใหม่ ซึ่งศิลปะแบบนี้ถูกเรียกว่า Ready Made Art (ศิลปวัสดุสำเร็จรูป หรือ งานศิลปะที่เลือกนำวัสดุสำเร็จรูปต่างๆ ที่พบเห็น อยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น เก้าอี้ ตุ๊กตา โถส้วม ที่วางขวด ฯลฯ มาทำเป็นงานศิลปะ)”

แต่นิทรรศการชุดนี้ของกฤช มีชื่อว่า ALREADY MADES หมายถึง ตัวเขาพร้อมแล้ว ที่จะนำเอาผลงานของศิลปินชื่อดังมาทำใหม่


เจ้าของนิทรรศการ ที่เคยมีผลงานร่วมแสดงในนิทรรศการครั้งสำคัญๆเช่น ฝันถึงสันติภาพ,กรุงเทพ 226,รอยยิ้มสยาม,บางกอก กล้วย…กล้วย และศาสนหรรษา บอกด้วยว่า หากศิลปินคนโปรดของเขาต้องการปฏิวัติวงการศิลปะด้วยการบอกผ่านผลงานที่สร้างขึ้นวัสดุที่ไม่จำเป็นต้องมีราคา เช่นกันว่าเขาก็ต้องการให้ผลงานในนิทรรศการครั้งนี้ กระซิบบอกผู้ชมว่า ศิลปะไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยาก

“งานศิลปะที่เรารู้จัก ที่ฝังหัวของแต่ละคน มันเป็นอะไรที่เข้าใจยาก ผมคิดว่าทำไมมันต้องซีเรียสขนาดนั้น ผมอยากให้งานของผม ทุกคนดูแล้วเข้าใจ เหมือนอยากปฏิวัติศิลปะเหมือนกันว่าศิลปะมันไม่ต้องเข้าใจยาก ใครดูก็เข้าใจ แต่ผมไม่ได้ทิ้งความซีเรียสนะครับ พวกแนวคิด และเนื้อหามันยังซีเรียส

ถ้าคนที่ไม่รู้ศิลปะมาดูก็รู้สึกสนุก เห็นความน่ารัก เห็นความงามแบบที่กุ๊กกิ๊ก เป็นไทยสไตล์ เหมือนได้เข้ามาอยู่ในงานเฉลิมฉลอง แล้วถ้าศึกษาข้อมูลเพิ่มด้วย จะทำให้การชมงาน มีอรรถรสเพิ่มขึ้น เปรียบเป็นอาหาร ก็คงกลมกล่อมขึ้น”

ALREADY MADES โดย กฤช งามสม วันนี้ – 29 ตุลาคม พ.ศ.2554 ณ Number 1 Gallery อาคาร เดอะ สีลม แกลเลอเรีย ถ.สีลม โทร. 0-2630-2523
 
Text by   ฮักก้า   Photo by  วรงค์กร ดินไทย














ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ และ Celeb Online www.astvmanager.com โทร.0 -2629 – 4488 ต่อ 1530 Email: thinksea@hotmail.com

Comments are closed.

Pin It