ART EYE VIEW — ก่อนที่หลายประเทศใน “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จะก้าวสู่การเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ในปี 2558
ระหว่างนี้ 1 ในประเทศสมาชิกของประชาคมฯ อย่าง สิงคโปร์ ก็ได้พยายามทำตัวเป็นพี่ใหญ่ ติดต่อประสานงานในหลายๆด้าน ดังความพยายามที่ต้องการจะเป็น HUB OF ASIA มานาน
ไม่เว้นแม้แต่ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ที่พยายามชักชวนประเทศสมาชิกอื่นๆ นำศิลปวัฒนธรรมของประเทศตนไปจัดแสดงที่สิงคโปร์
ดังเช่นที่ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว National Heritage Board หรือ หน่วยงานทางด้านมรดกชาติของสิงคโปร์ ได้เดินทางมาไทย ก็เพื่อจุดประสงค์ดังที่กล่าว
ทว่าช่วงเวลานั้นไทยยังประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ สิ่งที่เคยตกปากรับคำระหว่างกันไว้ จึงเลื่อนมาจนถึงปีนี้
ดังนั้นในช่วงปลายปีนี้ จนถึงต้นปีหน้า จะมีนิทรรศการทางด้านศิลปวัฒนธรรมของไทย ถึง 3 นิทรรศการ อันเป็นส่วนหนึ่งของ เทศกาลวัฒธรรมไทย(Thai Festival) ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 6 มกราคม พ.ศ.2556 ถูกจัดขึ้นที่แดนลอดช่อง
ได้แก่ นิทรรศการ Enlightened Ways : The Many Streams of Buddhist (โดย กรมศิลปากร ขนศิลปวัตถุของไทย ไปจัดแสดง), นิทรรศการ The Postal Connection of Thailand and Singapore (โดย ความร่วมมือของ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรของไทยและสิงคโปร์)
และนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย ไทยไหลนิ่ง (Thai Transience) การจัดแสดงผลงาน จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพยนตร์ หัตถศิลป์ จำนวน 60 ผลงาน ของศิลปินไทย 25 ท่าน ณ Singapore Art Museum หรือ Sam
ชื่อนิทรรศการ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือธรรมะชื่อ “น้ำไหลนิ่ง” ของ หลวงปู่ชา สุภัทโท ที่เกี่ยวกับความไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน ของมนุษย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินแต่ละคนหยิบเรื่องราวเหล่านี้ ไปเล่าผ่านงานศิลปะในแบบของตัวเอง
“จริงๆแล้ววัฒนธรรมร่วมของเรากับเพื่อนอาเซียนมีมากมาย ผมอยากให้ชาวสิงคโปร์ นักเรียน นักศึกษา มาเรียนรู้ศิลปะร่วมสมัยของไทย ผ่านนิทรรศการครั้งนี้
และเทศกาลวัฒนธรรมไทยที่สิงคโปร์ครั้งนี้ อย่างที่ทราบว่า เราไม่ได้มีแสดงแค่ศิลปะร่วมสมัย แต่เรายังมีนิทรรศการจัดแสดง โบราณวัตถุของไทยที่หยิบยืมไปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และ ต่างจังหวัด ที่จะเริ่มเปิดแสดงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงต้นปีหน้า
และนิทรรศการแสตมป์ ซึ่งถือเป็นศิลปะเช่นกัน เพราะการออกแบบแสตมป์เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก นิทรรศการเปิดไปแล้ว (2 ตุลาคม) และคาดว่าจะสัญจรมาเปิดแสดงที่เมืองไทยด้วย”
ไม่แต่เฉพาะผลงานศิลปะที่ขนไปจากประเทศไทยเท่านั้นที่จะไปจัดแสดงเต็มพื้นที่ของ sam แต่ผลงานศิลปะของศิลปินไทยบางท่านที่ sam เคยซื้อไปสะสมไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะถูกนำมาจัดแสดงด้วย
อาทิ มโนราห์ กับเพื่อนแท้ของงูเห่า ภาพยนตร์สั้น ความยาว 30 นาที ผลงานของ สาครินทร์ เครืออ่อน ซึ่งดัดแปลงมาจากวรรณกรรมพื้นบ้านของไทยเรื่อง พระสุธนกับนางมโนราห์
“ผมอยากรู้ว่านางมโนราห์ ซึ่งเป็นตัวแทนของอุดมคติ เมื่อมาท่ามกลางวิถีชีวิตปัจจุบัน จะเกิดอะไรขึ้น
อะไรที่เป็นเรื่องของอุดมคติเมื่อถูกนำมาปะปนกับวิถีชีวิตประจำวัน บางทีมันก็เป็นสิ่งที่นำพาไปสู่ความก้าวหน้า ความหวัง หรือว่าความเจริญรุ่งเรือง
ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามองอุดมคตินั้นอย่างบิดเบือนไป ถูกนำมาใช้อย่างเข้าใจผิด ก็จะทำให้เกิดหายนะได้”
ปัญญา วิจินธนสาร อีกหนึ่งศิลปินที่มีผลงานไปร่วมแสดง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นิทรรศการศิลปะครั้งนี้น่าจะมีผลสะท้อนออกไปไกลมากกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“อยากให้สังคมโลกมองว่าเราเป็นประเทศที่มีรากฐานทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และศาสนา ที่ค่อนข้างมั่นคงและสงบนิ่ง เป็นอิสระในวิถีชีวิตของตัวเอง
ถ้าสังคมโลกเข้าใจ อาจจะต้องหันมามองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใหม่ ไม่ใช่มีเป้าหมาย หรืออยากจะเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคนี้ แค่เรื่องของการเมือง หรือเรื่องของเศรษฐกิจ
ผมอยากให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นศูนย์กลางในมิติทางวัฒนธรรม และ เรื่องของจิตใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมโลกต้องหันมามองมากขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันในภายภาคหน้า”
By ฮักก้า
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซคชั่น Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art เซคชั่น Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
Comments are closed.