Art Eye View

ของฟรีมีในโลก เรียนศิลปะ กับ ครูซ่าส์

Pinterest LinkedIn Tumblr


ART EYE VIEW — “ของฟรีไม่มีในโลก” นั่นอาจเป็นแค่คำพูดในเชิงเหน็บแนม เพราะความจริงส่วนใหญ่ ที่เราได้สัมผัส โลกก็เป็นเช่นนั้น

แต่ใช่ว่าของฟรีจะไม่มีอยู่เลย อย่างน้อยก็มีอยู่ที่ ชั้น 2 ของ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ข้างๆร้านกาแฟ ใกล้กับพื้นที่ซึ่ง โรเบิร์ต อดีตผู้กำกับศิลป์ของค่ายเพลง และเพื่อนศิลปินใช้ปักหลักรับจ้างเขียนภาพเหมือน

โดยในช่วงบ่ายของทุกวัน โรเบิร์ต หรือ ครูซ่าส์ ของลูกศิษย์ จะสละเวลาส่วนหนึ่งจากการเขียนภาพหาเลี้ยงชีพ เพื่อ “สอนศิลปะฟรี” ให้กับผู้สนใจทุกเพศทุกวัย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย

ทว่าที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของครูซ่าส์มีทุกวัย เพราะเริ่มสอนฟรีมาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลป์

“ใครอยากรู้ผมก็สอนทุกคน บางคนอายุระดับปู่ เวลาเจอกันต้องแย่งกันไหว้ จนผมต้องคอยบอกว่า ปู่อย่าไหว้ผม”
โรเบิร์ต หรือ ครูซ่าส์
>>>เหตุที่ต้องสอนฟรี

ที่มาของการสอนศิลปะฟรี ครูซ่าส์บอกเล่าว่า เกิดจากความฝังใจเมื่ออดีตของตัวเอง ที่เคยอยากจะติวศิลปะ ก่อนสอบเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา แต่ไม่มีเงิน

“สมัยที่อยู่บ้านนอก ผมพยายามไปเรียนเขียนรูป เรียนแบบครูพักลักจำ ชอบไปอยู่ตามหน้าโรงหนัง ไปดูเขาเขียนคัทเอาท์ ก็เลยได้ความรู้จากคนเหล่านั้นที่สอนผมมา

พอช่วงที่เข้ากรุงเทพ จะสอบเข้าวิทยาลัย ช่างศิลป์ ผมไม่ได้ติวอะไรเลย รู้แต่ว่าต้องฝึกให้เยอะ ฝึกให้หนักด้วยตัวเอง ผ่านไปเห็นสถานที่ติวศิลปะ เห็นคนเรียนเยอะ ยังแปลกใจว่าเค้ามีเรียนกันอย่างนี้ด้วยเหรอ จากนั้นด้วยความที่อยากเรียน ผมไปขอเขาเรียน แต่คนที่เป็นเจ้าของสถานที่ติว เขาถามว่า มีตังส์ไหม

ถ้ารู้ความจริงหลายคนอาจจะตกใจ ผมมาเรียนกรุงเทพฯ ด้วยเงิน 760 บาท ของแม่ ที่ยัดใส่มือมา และรู้ดีว่าเป็นเงินที่แม่ไปยืมมา มือผมกำเงินจำนวนนั้น จนเหงื่อแตกพลั่กๆ ยืนหันหลังให้แม่ เพราะรู้ดีว่าแม่ยืนร้องไห้อยู่

760 บาท เป็นจำนวนเงินที่ผมต้องใช้จ่าย เพื่อยืนหยัดอยู่ให้ได้ในกรุงเทพฯ ดังนั้นค่าเรียนศิลปะ จึงไม่ใช่สิ่งที่ราคาถูกเลย สำหรับผม

ตั้งแต่นั้นมาผมจึงระลึกเสมอว่า ถ้ามีเด็กสักคนที่เป็นอย่างผม ไม่มีตังส์ ไม่มีโอกาสได้เรียนศิลปะ ถ้าผมมีโอกาส ผมจะสอนให้ฟรี และผมก็ทำมาตั้งแต่สมัยที่เรียน ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ”


>>>ค่าเรียนฟรี หากระบี่มาเอง

เมื่อ ค่าเรียนไม่ต้องจ่าย ครูซ่าส์จึงขอเพียงว่า ให้ลูกศิษย์ทุกคนมีหน้าที่ซื้อหาอุปกรณ์มาเอง

“เพราะทุกวันนี้ผมก็ต้องเขียนรูปเพื่อเลี้ยงชีพด้วย ฉะนั้นเมื่อผมสอนคุณฟรี อุปกรณ์มันเป็นส่วนที่คุณต้องรับผิดชอบ ถ้าคุณอยากเรียนรู้ คุณก็เหมือนจอมยุทธ ต้องมีกระบี่ส่วนตัว คุณไปยืมกระบี่ผมไปฆ่าใครไม่ได้”

ส่วนผู้ปกครองที่พาลูกมาฝากเรียน ต้องเปิดใจยอมรับวิธีการสอนในแบบครูซ่าส์ให้ได้

“จังหวะที่คนเข้ามาให้ผมเขียนรูป ในราคา รูปละ 200 – 300 บาท และผมต้องใช้เวลาเขียน รูปละ 10 กว่านาทีเนี่ย คุณจะสละให้ผมได้ไหม ขอให้ผมได้ทำมาหากิน เสร็จแล้ว ผมก็จะกลับไปสอนต่อ

และเวลาที่ผมสอนเด็ก ผมคุยกับมันเหมือนเป็นเพื่อนมัน ผมไม่ใช่ครูบาอาจารย์แบบที่ต้องมาพูดไพเราะ คุณครับ หนูขา มีแต่กู่กับมึง อะไรวะ พวกมึงทำอะไรกัน แบบนี้ ต้องยอมรับให้ได้

แต่ผมก็ไม่ได้สอนให้ลูกคุณไปทำเรื่องที่เลวร้ายนี่ ผมสอน ผมให้เต็มที่ การแสดงความความสนิทสนมในแบบผมกับเด็ก มันทำให้เด็กกล้าที่จะเปิดทุกอย่าง เขาพร้อมที่จะเป็นแก้วที่ว่างเปล่า แต่เมื่อไหร่ที่สอนเป็นวิชาการ เด็กจะนั่งนิ่งมาก

ผมเคยทดลองสอนแบบนั้น แล้วลองสังเกตปฏิกิริยาของเด็ก ทุกคนจะนั่งนิ่ง นั่งตรง ดูเขาไม่มีความสุขในการเรียน เวลาที่สอนเขา ผมจะคิดว่าผมก็เป็นเด็กคนหนึ่ง

ทุกวันนี้ ถ้าใครถามว่าผมอายุเท่าไหร่ ผมจะบอก กูเพิ่งเรียนศิลปะอยู่เลย ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอายุประมาณ 25 ปี เวลาสอนหรือคุยกับเด็ก ผมรู้สึกว่า ยังสนุกกับชีวิต

บางทียังถามผู้ปกครองเด็กเลย ว่า คุณเคยรู้เรื่องที่ลูกคุณมาคุยกับผมไหมเนี่ย เขาก็บอก ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้ครับ เพราะบางเรื่องเด็กไม่เคยคุยกับพ่อแม่ แต่คุยกับผมทุกเรื่อง ผมรู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบ ทำให้เด็กกล้า

ผมเคยสอนเด็กประเภทที่ทุกคนอาจมองว่า เหี้ย สารเลว ชาติชั่วมาก แต่คุณรู้หรือเปล่าลูกศิษย์บางคนที่ผมสอน ทุกวันนี้เขาเรียนปริญญาโท มหาวิทยาลัยศิลปากร

บางคนเคยพกระเบิด พกปืน ไปไล่ยิ่งกับชาวบ้าน เป็นเด็กวัด ผมเรียกมานั่งด่า จนมันหน้าสลด จนร้องไห้ แต่ท้ายที่สุด มันมุมานะจนสอบติดมหาวิทยาลัย

วันที่ผมดีใจคือ เค้ามาไหว้ผม ขอบคุณครับครู เวลาที่ผมเห็นภาพนี้ทีไร ผมมีความสุขจริงๆนะ (น้ำตาเอ่อจะร้องไห้)”

>>>มืออาชีพ ไม่ต้องรออารมณ์

สอนลูกศิษย์มาหลายรุ่น ครูซ่าส์ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเสียเวลา สำหรับการทำมาหากินและการทำงานศิลปะส่วนตัวแต่อย่างใด ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ชอบมากๆ หากว่าลูกศิษย์คนไหน ชอบอ้างเรื่องไม่มีเวลา

“เรื่องเวลา เคยมีผู้ปกครองมาพูดกับผมครั้งหนึ่ง เช่น ผมถามเด็กว่า ทำไมไม่ทำงานมาส่งครูลูก พ่อแม่ก็จะบอกว่าเด็กไม่มีเวลาเลยครู เออ… ดีเนาะ ทุกคนไม่มีเวลาเลย มีแต่ผมที่มีเวลา 24 ชั่วโมง

เวลาไม่เกี่ยว มันอยู่ที่ทุกคนจัดสรร คุณทำงานที่ไหนก็ได้ เหมือนผมกลับบ้านไป ผมก็เขียนภาพ ทำงานศิลปะ จนศิลปะอยู่ในเส้นเลือดผม และมันเป็นลมหายใจไปแล้ว

คุณรู้หรือเปล่าเวลาเขียนรูป ผมรู้สึกเหมือนเราอยู่คนเดียวในที่เวิ้งๆ ไม่ได้ยินอะไรเลย อยู่กับตัวเองจนข้ามวันข้ามคืน จนลืมไปเลยว่า ยังมีสิ่งรอบข้างอยู่

หลายคนบอกต้องสร้างอารมณ์ ผมบอกว่าไม่เกี่ยวครับ ผมไม่จำเป็นต้องใช้อารมณ์ มันอยู่ที่ตัวคุณ ผมไม่จำเป็นต้องให้ใครมากระตุ้น ผมอาจจะโดนสั่งสอนมา เพราะช่วงที่ผมเรียนจบไป ผมได้ทำบริษัทโฆษณา และเป็น Art Director ที่อาร์เอส และแกรมมี่

นายจ้างเค้าสอนผม คุณเรียนศิลปะมาก็จริง แต่เวลาทำงาน ถ้าผมจะเอางานตอนนี้ คุณจะมาบอกต้องรออารมณ์ไม่ได้ คนที่เป็นมืออาชีพ สั่งงานปุ๊บ มันต้องได้ปั๊บ ดังนั้นเวลาทำงานผมไม่มีเวลาที่จะมาสร้างอารมณ์หรอกครับ”

ครูซ่าส์ออกตัวว่า การให้สังคมในแบบของตน ไม่ได้เป็นการเรียกร้องให้คนอื่นมาทำตาม หากใครคิดจะสอนแบบเก็บค่าเรียนก็ได้ แต่ต้องในราคายุติธรรม และเวลาสอนควรจะให้เด็กเต็มที่

“ผมไม่ได้บอกให้ใครมาทำเหมือนผม แต่ใครก็ได้ที่สามารถ ผมมองว่าระบบการศึกษาไทยมันเพี้ยนไงครับ คุณสอนให้รู้แต่เรื่องการหาเงิน ที่มันทำให้เด็กวิ่งหาแต่เงิน ไม่เคยมีความงามในใจ ทุกคนมองแต่เงินเป็นพระเจ้า ใช้ชีวิตมักง่าย ทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อ

มันเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน เพราะถ้าจิตใจคุณงาม คุณก็จะสามารถเอาเงินไปทำเรื่องดีงามได้ แต่ถ้าจิตใจคุณสกปรก คิดถึงแต่เงิน คุณก็จะเอาเงินไปต่อเงิน

แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่ดีงาม มองทุกอย่างเป็นเรื่องดีงาม เป็นเรื่องสวยงาม เงินที่ได้มาก็จะถูกนำไปสร้างเรื่องความงาม ไม่จำเป็นต้องสร้างงานศิลปะก็ได้ แต่อาจจะเอาไปทำธุรกิจที่เป็นเรื่องดีงาม”
 น้ำ และ นก

>>>ศิลปะ ไม่แช่แค่การวาดรูป

พัชวรี ภัทรเจียรพันธ์ (น้ำ) และ มัลลิกา แสงเจริญ (นก) นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเขมะสิริอนุสรสรณ์ เป็นตัวอย่างของลูกศิษย์ที่เรียนศิลปะกับครูซ่าส์มานาน หลังจากที่ได้ยินคำบอกเล่าจากปากของเพื่อนว่ามีการสอนฟรี

“เรียนกับครูซ่าส์สนุกดี เป็นการเรียนที่ไม่ใช่แค่การเรียนวาดรูป แต่สามารถทำให้เราวางจิตใจไปจากความว้าวุ่น เวลาวาดรูป จิตใจเราจะนิ่งอยู่กับรูป

และมันก็บอกถึงนิสัยของเราได้ด้วยว่าเป็นคนยังไง เป็นคนอารมณ์ร้อน หรืออ่อนไหว โดยดูจากเส้น จากการลงเงาของเรา

ครูซ่าส์ไม่ได้สอนศิลปะอย่างเดียว แต่สอนเรื่องการใช้ชีวิต การวางตัวด้วย และจะบอกเสมอว่าอย่าเหลิง ฝีมือดีแล้วอย่าเหลิง จนลืมฝึกฝน”

By ฮักก้า

ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซคชั่น Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art เซคชั่น Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com

Comments are closed.

Pin It