Advice

รักษาความรักอย่างไรให้คงทน?

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>จากคราวที่แล้วที่ “พิม-พัฒนียา อุชชิน” ได้พูดถึงสไตล์ความรักและความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวยุค Gen Me ที่พิมเชื่อว่า “การเอาแต่ใจตัวเองหรือความเห็นแก่ตัว” เป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียความรักไป แต่พิมเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีไร้ที่ติไปทุกอย่าง เพราะความหมายที่แท้จริงของความรักก็ยังหนีไม่พ้นการยอมรับ ทำความเข้าใจ เอื้ออาทร ให้อภัยและซื่อสัตย์ต่ออีกฝ่ายอยู่ดี

พิมเชื่อเสมอว่าปัญหาส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวเกิดจาก “การสื่อสารที่ผิดพลาด” เราเลือกที่จะเงียบในตอนแรกของความสัมพันธ์ทั้งๆ ที่เราเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ เราจึงยอมปิดตาข้างหนึ่ง และคนส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจว่าตนเองต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ จึงไม่สามารถสื่อสารออกมาให้อีกฝ่ายทราบได้อย่างแน่ชัด และทำให้เกิดปัญหารักร้าวเรื้อรังที่แก้กันไม่มีวันจบสิ้น

พิมมีหนังสือโปรดเล่มหนึ่งที่เขียนโดย แกรี่ แชปป์แมน ชื่อว่า “5 Love Languages” หนังสือเล่มนี้ทำให้เข้าใจแพตเทิร์นของการแสดงความรัก พร้อมทั้งยังได้เข้าใจว่า เราเองก็ต้องรู้เช่นกันว่า คนรักของเราตกอยู่ในความต้องการภาษารักแบบไหน ทั้งยังอธิบายและช่วยผู้คนมากมาย ให้รู้วิธีแสดงความรักและการรับความรักจากอีกฝ่าย ทางภาษารักทั้ง 5 แยกออกเป็น การบอกรัก การใช้เวลาด้วยกันอย่างคุ้มค่า การปรนนิบัติคนรัก การให้ของขวัญ และการสัมผัส ซึ่งเราแต่ละคนก็จะมีภาษารักที่เราปรารถนาอยากจะให้อีกฝ่ายเติมเต็มเราแตกต่างกันออกไป

สำหรับบางคนคำพูดสามคำว่า “ฉันรักเธอ” เป็นเหมือนดั่งพันธสัญญาที่จะต้องบอกให้รู้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่พูดแปลว่าไม่รู้สึก หลายคนอาจไม่เข้าใจและคิดว่าการบอกรักนั้นไม่สำคัญเท่าการกระทำ แต่เราลืมนึกไปว่าคำพูดที่เหมือนจะพูดง่าย และจริงๆ สำคัญพอๆ กับการกระทำ ขึ้นอยู่แต่ละมุมมองของคนรักของคุณต่างหาก เมื่อผู้ฟังได้ยินเข้าก็จะรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเสมอ หากคนรักของคุณมีภาษารักประเภทนี้ก็ต้องระวังในการใช้คำพูดให้ดี เพราะพวกเขาจะรู้สึกอ่อนไหวต่อคำพูด ลักษณะการพูดและโทนเสียงในการพูดมากที่สุด

แต่ถ้าคนรักของคุณมีภาษารักประเภทที่ต้องการใช้เวลาด้วยกันอย่างคุ้มค่า คุณจำเป็นที่จะต้องให้เวลาเธอหรือเขามากพอที่จะทำให้เขารู้ว่าเขาสำคัญ และยังเป็นที่ต้องการ เพราะประเด็นสำคัญคือ “การให้ความสนใจ” ถ้าเจอหน้ากันทุกวันแต่ไม่ให้คุณค่าและเวลาก็คงไม่มีความหมาย ควรหมั่นให้ความสนใจแก่คนรักอย่างสม่ำเสมอ พูดคุยกันโดยที่ไม่สนใจสิ่งอื่นๆ บ้าง

แต่ถ้าคนรักของคุณมีภาษารักประเภทที่รู้สึกว่าคุณรักเขาหรือเธอมากๆ เมื่อคุณให้ของขวัญ อาจไม่พูดถึงของมีค่าราคาแพง แค่ของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็อาจมีมูลค่าทางจิตใจอย่างที่ประเมินราคาไม่ได้ เพียงแค่คุณมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ดอกไม้สักช่อที่แอบซื้อกลับมาระหว่างกลับบ้านจากที่ทำงาน แค่นี้ก็ทำให้คนรักยิ้มแป้นและรู้สึกเบ่งบานไม่แพ้ดอกไม้ที่คุณให้แล้วล่ะค่ะ

ส่วนภาษารักประเภทสุดท้ายก็คือ การแสดงความรักผ่านทางการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการจับมือ โอบไหล่ หรือกอดให้กำลังใจกันในวันที่คุณเหนื่อยล้า ก็ถือเป็นการแสดงออกของภาษารักแบบไม่ต้องมีคำพูดได้ค่ะ

คนแต่ละคนอาจไม่ได้มีภาษารักเพียงประเภทเดียว หากคุณรู้ว่าคนรักมีภาษารักแบบไหนบ้าง ก็ควรที่จะแสดงออกแบบนั้น และคอยสังเกตความต้องการของคนรักอย่างสม่ำเสมอค่ะ

Comments are closed.

Pin It