Advice

เลี้ยงลูกยุคดิจิทัลอย่างไร? ให้โตไปไม่ติดจอ!

Pinterest LinkedIn Tumblr


การเลี้ยงดูลูกในยุคดิจิทัลท่ามกลางข้อมูลข่าวสารแบบไร้พรมแดน กับสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นโจทย์ที่ท้าทายคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก ลองมาดูคำแนะนำของ นพ. พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ช่วยไขเคล็ดลับสู่พัฒนาการที่สมวัยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่มีพฤติกรรมติดจอ


2 ขวบปีแรกเน้นสื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟ ควรเลือกใช้สื่อที่เล่นด้วยกันกับลูก อย่าง สมุดภาพ ของเล่นที่มีเสียง ตั้งแต่แรกเกิดควรชวนลูกพูดคุย ร้องเพลง เพื่อให้มีพัฒนาการในการฟังและเปล่งเสียงอ้อแอ้ จนถึงพูดประโยคที่ยาวและซับซ้อนได้ พร้อมฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก สัมผัสร่างกายของพ่อแม่ จับขวดนม ใช้ช้อนตักข้าว ต่อบล็อก ขีดเขียน จนถึงการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการชันคอ พลิกคว่ำ คลาน ยืนและเดิน

ไม่ควรนำเทคโนโลยีมาใช้กับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ขวบ หรือถ้าจะใช้เป็นเครื่องมือในการดึงดูดความสนใจ ควรใช้ในเวลาสั้นๆ และมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิด อย่าง การเปิดการ์ตูนในยูทูปให้เด็กดูตลอดเวลา ซึ่งเด็กวัยนี้ไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง จึงมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษา ทำให้พูดช้า ขาดการโต้ตอบ ซึ่งหากมีการสะสมเรื้อรัง จะทำให้พัฒนาการช้ากว่าวัย มีแนวโน้มแยกตัวจากโลกภายนอก หรือมีพฤติกรรมที่ไม่รู้จักการรอ เป็นเด็กสมาธิสั้นได้

เด็กอายุ 2-5 ปี ควรใช้เวลาอยู่หน้าจอวันละไม่เกิน 1 ชม. เพราะทำให้ขาดการเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกายที่เหมาะสมตามวัย มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วน และไม่ควรปล่อยให้อยู่หน้าจอตามลำพัง เช่นเดียวกับเด็กโตที่เริ่มคิดอย่างมีเหตุผล แต่ยังขาดการไตร่ตรอง ผู้ปกครองต้องดูแลใกล้ชิด เพื่อให้คำแนะนำและคัดกรองสื่อ โดยเฉพาะ การจำกัดสื่อที่มีการใช้ความรุนแรง

“ครอบครัว” มีส่วนสำคัญในการสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดี อย่าง ออกกำลังกายร่วมกัน ทานอาหารกันพร้อมหน้า ทำกิจกรรมนอกบ้าน และสังเกตว่าลูกชอบหรือเก่งด้านไหน พร้อมสนับสนุนให้เก่งขึ้น หรือชื่นชมเพื่อให้เด็กภาคภูมิใจ และกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม

Comments are closed.

Pin It