พลิกวิกฤตเป็นโอกาสสวย พร้อมวิธีถนอมโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ในช่วงล็อกดาวน์!

อากาศก็ร้อน! ออกไปไหนก็ไม่ได้! ไหนจะใกล้เวลาถึงเวลาโบท็อกซ์อีกรอบแล้วจะทำยังไงดี!? อย่าให้เหตุผลเหล่านี้มาทำให้เราละเลยการดูแลความสวยของตัวเองในช่วงนี้ เพราะครั้งนี้เราได้ต่อสายตรงถึงคุณหมอคนสวย “หมอพลอย-พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล” เซเลบริตี้สาวสวยพ่วงดีกรีคุณหมอ ที่จะมาบิลด์ให้สาวๆ ลุกขึ้นมาพลิกวิกฤตช่วงล็อกดาวน์ให้กลายเป็นโอกาสในการสร้างและทำนุบำรุงความสวย

แน่นอนว่าสิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือ เริ่มจากการดูแลตัวเองโดยวิธีธรรมชาติ แม้จะเป็นคุณหมอทางด้านความสวยความงาม แต่สิ่งที่หมอพลอยเน้นอยู่เสมอก็คือ การดูแลตัวเองขั้นพื้นฐาน! “สิ่งที่รอดจากการล็อกดาวน์ช่วงนี้ดีที่ยังปิดไม่นานอาจจะเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น สำหรับคนที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์อาจจะยังไม่เห็นผลเรื่องความเสื่อมมากเท่าไหร่ ซึ่งเดี๋ยวหมอจะมาแนะนำการคงความสวยของโบท็อกซ์ แต่วิธีทางธรรมชาติที่ไม่ให้ผิวแก่เร็วนั้นเริ่มจากการดูแลเบสิกที่ทุกคนทราบกัน เรามาพลิกวิกฤตช่วงนี้ที่ออกไปไหนไม่ได้มาเป็นการเติมความสวยกัน

1. การนอนหลับ ปกติแล้วคนกรุงเทพฯ ติดนิสัยนอนดึก กว่าจะเลิกงานกลับถึงบ้าน แล้วยังชอบเล่นมือถือจนทำให้นอนดึกอีก ช่วงนี้ในเมื่อเราไม่ต้องออกเดินทางไปข้างนอก หมออยากให้นอนให้เร็วขึ้น ‘โกรทฮอร์โมน’ จะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวไม่แก่ไว

2. อาหาร ก็ต้องกินอาหารที่มีแอนติออกซิแดนต์สูง พวกมะเขือเทศ หรือผักสีแปลกๆ อย่างบีตรูต แล้วก็ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์รับวิตามินที่มาจากอาหารอยู่แล้วอย่างอาหารที่มีโอเมกา 3 เมื่อเรากินอาหารดีๆ ก็ช่วยลดการอักเสบของร่างกายจากภายในเราก็จะไม่ค่อยป่วย

3. เลี่ยงการกินหวาน เพราะน้ำตาลทำให้แก่ไว ถ้าอยากของหวานให้เปลี่ยนมากินผลไม้สดๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการคั้นปั่นใดๆ เพราะนอกจากเราจะได้ความหวานตามธรรมชาติแล้วยังได้ไฟเบอร์อีกด้วย

4. การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เมื่อเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ผิวก็จะสดชื่น เพราะการ Work from Home เรามักจะอยู่กับที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวอาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่น

5. อย่าละเลยการทาครีมบำรุง แม้จะอากาศร้อนแต่ก็ต้องทาครีมบำรุง กระทั่งครีมกันแดดก็ต้องทา อย่าคิดว่านั่งทำงานอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปโดนแดด แต่แสงยูวีทะลุผ่านกระจกเข้ามาในบ้านได้สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวถูกทำร้ายได้เหมือนกัน

6. ลดความเครียด เวลาเครียดร่างกายจะแสดงออกเลยนะ ไม่ว่าจะทางผิวพรรณ หรือร่างกาย ซึ่งหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำงานที่บ้านงานเยอะกว่าทำงานปกติซะอีก ฉะนั้น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็ต้องผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำสิ่งที่ชอบ วางมือถือลงซะ!”

ส่วนสาวๆ สายโบฯ สายฟิลฯ การดูแลในช่วงที่ล็อกดาวน์นั้นแม้จะเป็นเวลาเพียง 1-2 เดือน อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วการทำโบท็อกจะอยู่ได้ 4-6 เดือน ส่วนฟิลเลอร์บางตัวสามารถอยู่เป็นปี

1. การถนอมโบท็อกซ์ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของกล้ามเนื้อ สำหรับช่วงที่ยังไม่สามารถไปเติมโบฯ ได้นั้น ถ้าจะหลีกเลี่ยงได้ก็คืออย่าแสดงสีหน้าเยอะ เพราะโบท็อกซ์เป็นการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ฉะนั้น ถ้าเราไม่แสดงสีหน้ามาก เราก็สามารถฟิตหน้าเราได้ส่วนหนึ่ง แต่ด้วยความเคยชิน ทางธรรมชาติก็อาจต้องมีอยู่บ้าง เช่น เมื่อครุ่นคิดเราก็จะขมวดคิ้ว หรือเวลายิ้มก็ยิ้มจนตาหยี ควรลดการแสดงสีหน้าลงบ้าง หรือในส่วนของกล้ามเนื้อกรามก็พยายามอย่าเคี้ยวของแข็งๆ เช่น เนื้อเหนียวๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อกรามใช้งานเยอะ

2. การถนอมฟิลเลอร์ นั้น ควรหลีกเลี่ยงความร้อนเพราะจะทำให้สลายเร็ว เมื่อโดนความร้อนมากๆ งดการไปเซาน่า หรือเข้าห้องสตรีมในช่วงนี้ไปก่อน

และในตอนท้ายหมอพลอยยังฝากเทคนิคดีๆ สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาสิว เมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะเวลาใส่เหงื่ออาจจะออก หรือมีความมันบนบริเวณหน้าที่ใส่หน้ากาก วิธีที่ง่ายที่สุดคือควรงดการทาครีมบริเวณที่ใส่หน้ากาก เพราะเมื่อเวลาใส่หน้ากากก็จะยิ่งอับ หรือมีเหงื่อออก ยิ่งทำให้เกิดสิวได้ บริเวณนั้นก็ควรหยุดทาครีม หรือถ้าสำหรับคนที่เป็นสิวง่ายสามารถทายาสิวได้ แต่เว้นพวกครีมบำรุง และครีมกันแดดไปก่อน และควรหมั่นเปลี่ยนหรือทำความสะอาดผ้าอยู่เสมอๆ

เทคนิคง่ายๆ หลายอย่างที่หมอพลอยแนะนำในครั้งนี้ คงจะช่วยให้สาวๆ คลายกังวล และลุกขึ้นมาปรับวิกฤตล็อกดาวน์ ให้กลายเป็นโอกาสเพิ่มความสวยกันได้บ้าง!