คุ้นหูกันไหมคะกับ “บีบีครีม” (BB Cream) คุณสาวๆ หลายคนคงจะมีไว้ประจำโต๊ะเครื่องแป้งกันอยู่แล้ว เพราะช่วยปกปิดทำให้หน้าเนียนใสได้อย่างง่ายดาย ดูไม่โบ๊ะเหมือนรองพื้น ไม่บางเบาเหมือนเบส เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสียเวลาในขั้นตอนการแต่งหน้านานๆ
บีบีครีม ก็คือ เบส + รองพื้น + สารบำรุง บางยี่ห้อจะผสมสารกันแดดด้วย
ก่อนอื่นคุณสาวๆ คงอยากจะทราบที่มาของเจ้าบีบีครีมว่ามาจากไหน เรามาไขข้อมูลต้นกำเนิดบีบีครีมกันค่ะ BB Cream ย่อมาจาก Blemish Balm Cream มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมัน คิดค้นมาจากศัลยแพทย์ชาวเยอรมัน เป็นครีมฟื้นฟูผิวหนังสำหรับคนที่ทำเลเซอร์สกินทรีทเมนต์ (Laser Skin Treatment) เพราะผู้หญิงเราสมัยก่อน อยากจะหน้าสวยใส จึงมักใช้การลอกผิวหน้า เช่น การทำเลเซอร์ ซึ่งเห็นผลเร็ว แต่ข้อเสียคือ หลังจากเลเซอร์ไปแล้ว เกิดการอักเสบ บวมแดง ไม่สามารถออกแดดได้ ทีนี้ศัลยแพทย์ชาวเยอรมันท่านนี้ก็เลยคิดว่า มีอะไรบ้างที่พอจะช่วยผู้หญิงเหล่านี้ได้ จึงคิดค้นครีมขึ้นมาตัวหนึ่ง ซึ่งครีมตัวนี้จะช่วยให้ผู้หญิงหลังการทำศัลยกรรมลดการอักเสบ ป้องกันแสงแดด ดูแลผิวที่เกิดใหม่ขึ้นมาให้เรียบเนียน ศัลยแพทย์ท่านนี้จึงตั้งชื่อว่า “BB Cream” ต่อมาดาราเกาหลีนำมาใช้ เลยกลายเป็นกระแสฮอตฮิตติดลมบนเกาหลีฟีเวอร์
ความที่ฮิตมากในเกาหลี สาวไทยเราก็แห่ตาม เพราะอยากหน้าสวยเนียนแบบดาราเกาหลี แน่นอน ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลีอย่าง Etude, Skinfood มีวางจำหน่ายบ้างแต่น้อยชนิด สาวไทยเราจึงมักซื้อกันทางอินเทอร์เน็ต ทั้งหลากหลาย ทั้งราคาถูก แต่ต้องระวังนะ หากเกิดของปลอมแทรก หรือค้างนานหมดอายุ หน้าเห่ยไม่รู้ด้วย
ด้วยกระแสที่แรง เครื่องสำอางสัญชาติไทยอย่าง Mistine และอเมริกันอย่าง Melbelline ก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์บีบีครีมออกมาวางจำหน่าย กระทั่งบริษัท Eternity ได้นำเครื่องสำอางจากแดนโสมเข้ามาอย่างจริงจัง โดยล่วงหน้าขายบีบีครีมยี่ห้อ Caticlair กับ Palgantong กระตุ้นต่อมหน้าเนียนเด้งแบบเกาหลี
ล่าสุดเพิ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ คือ ลีโอเอเล่ (Lioele) บีบีครีมยอดนิยมทั้งในดินแดนกิมจิ และปลาดิบทีเดียวเชียวล่ะ
Try & Test มาแล้วจ้า
บีบีครีมที่เราเลือกมามี 4 ตัว ได้แก่ Mistine BB Wonder Cream , Maybelline Clear Smooth Minerals BB Cream สองตัวนี้วางตลาดให้สาวๆ เชยชมมาสักพักหนึ่งแล้ว ขณะที่ Lioele Water Drop BB , Lioele Triple the Solution BB Cream เพิ่งเปิดตัวหมาดๆ นี่เอง
เรามาดูกันค่ะว่า บีบีครีมยี่ห้อไหนเหมาะกับผิวหน้าสาวไทยอย่างเรา หมายเหตุเสียก่อนว่า สภาพผิวนางแบบ เป็นผิวผสม ค่อนทางมัน รูขุมขนกว้าง มีกระสีน้ำตาลอ่อนประปรายบริเวณข้างๆ และโหนกแก้ม จุดด่างดำ และรอยสิวไม่มากนัก ผิวเหลือง มีรอยแดง เส้นเลือดฝอยค่อนข้างมาก
กลุ่มแรก กรุยตลาดก่อน
* Mistine BB Wonder Cream
ลองแล้ว หลังทาแล้ว ผิวดูเนียนแห้งทีเดียวค่ะ ริ้วรอยต่างๆ กลบได้เกือบมิด หน้าดูสว่างนิดหน่อย ไม่คุมมัน และไม่เป็นคราบระหว่างวัน รู้สึกว่าระหว่างวันหน้าหมอง และค่อนข้างอุดตันง่าย ราคาไม่แพง
เหมาะกับ ทั้งสาวผิวเหลือง และสาวผิวคล้ำ เพราะเนื้อครีมไม่สว่าง หรือหมองเกินเหตุ
วางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ ปริมาณ 15 กรัม ราคา 180 – 190 บาท แล้วแต่ร้านคะ
* Maybelline Clear Smooth Minerals BB Cream
ลองแล้ว เนื้อครีมมีลักษณะค่อนข้างเหลว บางเบา ดูไม่โบ๊ะ เหมาะสำหรับอากาศเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ไม่มีกลิ่น แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวที่มีร่องรอยจากการเกิดสิว จุดด่างดำ ความมัน บนใบหน้าได้มากเท่าไหร่ ขณะที่ระหว่างวันหน้าไม่หมองคล้ำ ถือว่าใช้ได้เลยคะ ถูกและดี
เหมาะกับ สาวผิวเหลือง ด้วยเนื้อครีมที่ค่อนข้างสว่าง สาวผิวคล้ำกรุณาถอยห่างคะ
วางจำหน่ายตามเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป รวมทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ปริมาณ 18 มล.ราคา 199 บาท
กลุ่มสอง เพิ่งมาแต่แรงเชียว
* Lioele Water Drop BB
ลองแล้ว เหมาะที่ซู้ด กับอากาศร้อนเมืองไทย ตอบโจทย์สาวไทยเราได้หมดเลย เกลี่ยง่าย เนื้อครีมตัวนี้ละเอียดมาก พอโดนผิวสัมผัสกับอุณหภูมิเรามันจะกลายเป็นน้ำ แล้วจะซึมเข้าสู่ผิวได้จริง ไม่ใช่ทาแค่ปกปิด แต่บำรุงผิวด้วย รู้สึกถึงความบางเบา และเย็นด้วยเนื่องจากเป็นชนิดน้ำ กลิ่นสะอาดๆ ผสมกันแดด เหมาะกับสาวๆที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ต้องกังวลว่าหน้าเยิ้มค่ะ
เหมาะกับ สาวผิวเหลืองค่ะ แต่ไม่ห้าม..หากสาวผิวคล้ำอยากลอง
วางจำหน่ายที่วัตสันเท่านั้น ปริมาณ 50 มล. ราคา 580 บาท
* Lioele Triple the Solution BB Cream
ลองแล้ว กลบสิว จุดด่างดำได้ดีมาก ส่วนริ้วรอยกลบได้มิดพอสมควร ร่องตื้นขึ้นด้วยความที่เนื้อครีมเข้มเข้น ผสมกันแดด SPF30 จึงอาจอุดตันได้ง่าย แพกเกจน่าใช้คะ สีชมพู เป็นหัวปั้ม ดูสะอาดเชียว น่าใช้สำหรับสาวออฟฟิศที่นั่งทำงานท่ามกลางแอร์เป็นประจำ แต่ไม่น่าใช้สำหรับสาวที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะใบหน้าอาจมันเยิ้มได้หากเจอแดดเปรี้ยง
เหมาะกับ ทั้งสาวผิวเหลือง และสาวผิวคล้ำ แต่ห้ามทาหนานะคะ ทาบางๆ พอ ไม่งั้นจะแลดูหน้าวอก
วางจำหน่ายที่วัตสันเท่านั้น ปริมาณ 50 มล. ราคา 680 บาท
เกร็ดต้องรู้ สำหรับสาวบีบี
1. บีบีบางแบรนด์มีให้เลือกระหว่างโทนสีเหลืองกับสีชมพู ซึ่งสีเหลืองเหมาะกับสาวไทยผิวขาวเหลือง ขณะที่สีชมพูเหมาะกับสาวผิวคล้ำ ทีนี้วิธีการดูว่าสีผิวเราเป็นสีใด ให้ดูสีเส้นเลือดบนข้อมือค่ะ ถ้าเส้นเลือดเป็นสีม่วงๆ แสดงว่าเป็นคนผิวคล้ำ ควรใช้บีบีครีมโทนชมพู ส่วนคนที่เส้นเลือดเป็นสีเขียว แสดงว่าเหมาะกับบีบีครีมโทนสีเหลืองค่ะ
2. หลังทาบีบีครีมแล้ว แนะให้ตบด้วยแป้งฝุ่น ปัดด้วยแปรง จะเพิ่มลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่อย่ามากไป อาจเป็นคราบได้ เคาะแป้งออกจากแปรงก่อน แล้วค่อยมาปัดทั่วหน้า ไม่แนะนำแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นนะคะ เพราะทำให้ดูหนา หรือหากจำเป็นควรใช้แปรง อย่าใช้พัพฟ์ในการแตะแป้ง จะทำให้ดูเนียนเรียบและไม่เป็นคราบ
3. คนที่มีผิวคล้ำมากไม่แนะให้ใช้บีบีครีม เพราะมันจะวอกเกิน ส่วนคนที่ขาวอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ คนที่ผิวออกโทนเหลือง อาจจะเจอปัญหาบีบีครีมบางชนิดทำให้หน้าดูเป็นสีเทา เกิดขึ้นช่วงบ่ายๆ แก้ได้โดยการซับมันหน้าเบาๆ แล้วก็เอาแป้งปัดทับนะคะ
4. ส่วนการทำความสะอาด ไม่ยากเลยคะ แต่ต้องล้างให้สะอาดล้ำลึกจริงๆ มิฉะนั้นอาจอุดตันเกิดสิวได้ แนะให้ล้างหน้าด้วยออยล์ หรือเมกอัพรีมูฟเวอร์ก่อน จากนั้นต่อด้วยคลีนซิ่ง ล้างอีกทีด้วยโฟมล้างหน้าที่ใช้ประจำ
Comments are closed.