By Lady Manager
สาวๆ หลายคนอาจเบื่อผมยาวรุงรังเต็มที อยากจะมัดผมหนีร้อน หลบความอบอ้าว ทว่าการมัดผมหางม้าแสนธรรมดา ก็อาจทำให้คุณดูจืด ครั้นจะมวยผมเป็นก้อนเก็บไว้บนหัวก็สุ่มเสี่ยงที่จะดูป้า! เราเลยสรรหาแนวทางการตัดแต่งทรงผม แบบมัดก็ดูเลิศ ปล่อยก็ยังดูเก๋ มาฝาก
งานนี้เราคว้าสาวเซอร์หน้าใส คุณกู๊ด-บุศรินทร์ ธูปทรัพย์แสง โปรดิวเซอร์รายการ “แฮปปี้ดีนะ” ทางช่องซุปเปอร์บันเทิง (ออกอากาศทางทรูวิชั่นช่อง 70) มาเป็นนางแบบ ร่วม Makeover ทรงผมเก๋ไก๋เท่ซ้าไม่ว่าจะมัดหรือปล่อย…
หลังแต่งเซอร์สไตล์สาวซ่ามานาน คุณกู๊ดเริ่มอยากปรับลุค เปลี่ยนทรงผม ให้ดูดีมีสไตล์ แถมมัดได้เก๋ๆ ไม่รุงรังเวลาทำงาน
…รับทราบความต้องการแล้ว เรา-Lady Manager จัดให้ด่วนเลยค่าโปรดิวเซอร์คนสวย ^_^
เราเกี่ยวก้อยคุณกู๊ดมาพบกับ คุณเต้-วิพุธ จารุธรรมากร สไตล์ลิสต์ (stylist) หนุ่มแห่งร้านริคิว (Rikyu) ร้านทำผมสัญชาติญี่ปุ่น ที่อิมพอร์ตเทคนิค วิธีการตัดแต่งทรงผมจากแดนอาทิตย์อุทัย มาให้สาวไทยได้สวยเด้งกันถ้วนหน้า
เราถือคติว่า หากอยากสวยก็มิควรรอช้า ฉะนั้นมาดูกันเลยดีกว่า ว่าสไตล์ลิสต์หนุ่มจะมีเทคนิคอะไรมาตอบโจทย์นางแบบของเรา
สเก็ตช์ภาพ ออกแบบทรงผมให้ตรงใจ
ขั้นตอนแรกที่ถือเป็นจุดเด่นดึงดูดลูกค้าของร้านนี้คือ การร่างภาพทรงผม (sketch) ให้ลูกค้าได้ชมก่อนลงมือตัดผม เพื่อให้สไตล์ลิสต์และลูกค้ามีความเข้าใจที่ตรงกัน จะได้ตัดผมออกมาให้เป๊ะ! ดั่งใจลูกค้าที่สุด
“การออกแบบทรงผม เราไม่ได้เปิดจากนิตยสาร แล้วให้ลูกค้าเลือก แต่จะใช้เป็นลักษณะของการคุยกันว่า ลูกค้าอยากได้อะไร เขามีจุดไหนที่มั่นใจ หรือใบหน้าของเขามีจุดเด่นอยู่ที่ตรงไหน พอหลังจากเรารู้แล้วว่าลูกค้าต้องการอะไร สไตล์ลิสต์ก็จะนำเสนอการออกแบบทรงผม ให้ลูกค้าทราบผ่านการสเก็ตช์ภาพให้ดูว่า เราจะทำแบบนี้นะ จะได้เห็นตรงกัน” สไตล์ลิสต์คนไทยหน้าญี่ปุ่นกล่าว
หลังสเก็ตช์ภาพ และพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างผมหนุ่มวิเคราะห์แนวทางการออกแบบทรงผมให้กับคุณกู๊ดว่า
“โครงหน้านางแบบเป็นเหมือนรูปหัวใจ คือ ช่วงคางเล็ก แต่ช่วงโหนกแก้มจะใหญ่นิดนึง ดังนั้นคิดว่า ถ้าใส่ layer มาปิดช่วงแก้มด้านบน น่าจะดี ส่วนผมด้านหน้า ก็อยากตัดเป็นหน้าม้าเพื่อให้เห็นตาชัดขึ้น เพราะนางแบบตาสวย น่าจะโชว์ตาให้ชัด
ส่วนเรื่องสีผมที่สีผมด้านนอกมีความสว่างกว่าด้านใน เพราะจากการคุยกันนางแบบ บอกว่าทำสีเอง ซึ่งโดยปกติคนทำสีเองจะเป็นลักษณะนี้ คือ ผมตรงไหนหวีได้ สีจะลงเยอะกว่า ทำให้ได้สีผมไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นคิดว่าน่าจะทำสีใหม่ โดยใช้โทนสีที่ drop ลงเพื่อให้เหมาะกับสีผิวนางแบบ
นอกจากนั้นก็จะทำเป็น พ้อยท์คัลเลอร์ (Point Colour) คือ ทำสีเป็นบางจุด เพราะดูจากบุคลิก การแต่งตัวแล้วนางแบบไม่ได้เป็นสาวหวานซะทีเดียว แต่ทำไมเขายังไว้ผมยาว แสดงว่าเขาคงอยากจะให้ตัวเองดูทะมัดทะแมง แต่ยังมีผมที่ยาวพอจะรวบได้ หรือแต่งเติมอะไรกับผมได้”
ตัดฟรีแฮนด์เพื่อให้ ได้ความยาวเป๊ะ!
หลังออกแบบทรงผม และสเก็ตช์ภาพจนทั้งนางแบบและช่างผมมีความเข้าใจที่ตรงกันแล้ว คุณเต้จึงหยิบกรรไกรมาบรรจงตัดผม ด้วยสไตล์ฟรีแฮนด์ หรือตัดผมในขณะที่ผมยังแห้งอยู่
“ส่วนใหญ่ทางร้านเราจะตัดฟรีแฮนด์ คือ ตัดผมตอนที่ผมแห้ง เพราะบางคนผมหยักศก แล้วเราไปตัดตอนผมเปียก พอเป่าแห้งแล้วผมจะสั้นขึ้นไปเยอะกว่าที่เราคิดไว้มันจะไม่สวย แต่การตัดผมแห้งหรือตัดฟรีแฮนด์ จะทำให้เราเห็นภาพรวมได้ชัดกว่า ซึ่งวิธีการตัดคือ เราตัดเหมือนเราวาดรูปในกระดาษ ถ้าการเขียนแบบจะดร๊าฟดินสอเป็นเส้น ดังนั้นเวลาตัดก็เช่นกัน เราก็ใช้กรรไกร ตัดเป็นเส้นที่เราเล็งไว้ โดยที่เราก็กำหนดเส้นในหัวไปเรื่อยๆ และทุกครั้งเวลาตัดเสร็จเราจะเช็คกับกระจกเสมอ ถ้ายังไม่ได้ความยาวตามที่เราต้องการ เราก็ค่อยมาตัดอีกที อันนี้เป็นสไตล์ของที่ร้านซึ่งต่างจากที่อื่น”
เมื่อหั่นความยาวได้ถึงระดับบ่า ตรงตามความต้องการของนางแบบ เราแอบถามถึงเทรนด์ฮิตว่าช่วงนี้ ผู้คนนิยมตัดผมที่มีความยาวระดับใด สไตล์ลิสต์หนุ่มแห่งร้านริคิวตอบเสียงดังฟังชัดว่า
“จริงๆ ความยาว ผมว่าแล้วแต่ความชอบของคนที่จะเลือกครับ และทุกซีซั่น มันก็จะมีทุกความยาว แต่ความเห็นส่วนตัว ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมยาวประมาณบ่า ไม่ยาวเกินไปกำลังมาแรง คือ ไม่ถึงขั้นสั้นเป็นบ็อบ แต่เป็นผมยาวระดับบ่า ที่ดูแล้วสามารถเล่นอะไรกับผมได้เยอะกว่า”
ปรับสีผมให้เหมาะกับสีผิว + แอบเก๋ด้วย “Point Colour”
“ผมรู้สึกว่าสีผมนางแบบสว่างเกินไป ก็อยากจะดรอปสีลง ไม่ให้มันออกเป็นโทนแดง แต่อยากให้มันออกเป็นโทนน้ำตาลที่หม่นๆ เพราะผมว่าด้วยสีผิวนางแบบ ถ้าทำสีผมอ่อนเกินไปจะดูสุขภาพไม่ดี จากนั้นจะทำพ้อยท์คัลเลอร์ ด้วยสีสดๆ อยู่ข้างในช่วงท้ายทอยสัก 1-2 ช่อ เพื่อที่เวลารวบผมแล้ว ให้เห็นเป็นริ้วขึ้นมา” สไตล์ลิสต์หน้าใสอธิบายความต่างระหว่างพ้อยท์คัลลเอร์กับไฮไลท์
“พ้อยท์คัลเลอร์ต่างจากไฮไลท์ เพราะเราไม่ได้ทำทั้งหัว แต่จะทำเป็นช่อบางๆ ไม่ทำเยอะมาก และทำเป็นบางจุดให้อยู่ด้านใน จะได้ไม่รู้สึกว่าเปรี้ยวซิ่งเกินไป”
หลังลงสีน้ำตาลทั่วหัว คุณเต้ หยิบผมช่วงท้ายทอยมาฟอกประมาณ 10 นาที แล้วหยิบสีชมพู กับสีม่วงมาเติมที่ช่อผม ที่วางแผนเอาไว้ว่าจะทำเป็นพ้อยท์คัลเลอร์ ลูกเล่นที่ฮิตกันในบรรดาสาวญี่ปุ่น
“ตอนแรกที่คุยกัน นางแบบบอกว่าชอบสีชมพู ก็เลยจะทำพ้อยท์คัลเลอร์เป็นสีชมพู แต่ผมจะผสมสีม่วงเข้าไปนิดหน่อยให้มันดูมีมิติมากขึ้น เพราะถ้าสีชมพูอย่างเดียวจะดูไม่มีลูกเล่น”
คุณเต้ว่าจริงๆ แล้วพ้อยท์คัลเลอร์มีหลายรูปแบบ บางคนทำเป็นทูโทน (two tone) นั่นคือ โคนสีหนึ่ง และปลายอีกสีหนึ่ง ..ก็สามารถค่ะ
“จริงๆ แล้ว พ้อยท์คัลเลอร์มีหลายรูปแบบ บางคนทำแบบทูโทนก็ได้ เช่น ตรงโคนผมสีนึง และปลายอีกสีนึง แต่ถ้าเป็นทูโทน ควรจะเลือกเป็นสีที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น สีเข้มกับสีอ่อน คนละระดับไป แต่ของนางแบบ ผมทำเป็นสีเดียวกันตั้งแต่โคนถึงปลาย เพียงแต่เราใช้สีม่วงซึ่งเป็นโทนเดียวกับสีชมพูเข้าไปผสมในช่อใกล้ๆ กัน เพื่อให้ทำออกมาแล้วดูมีมิติมากขึ้น”
จัดแต่งทรงให้เท่กิ๊บเก๋ ถึงขีดสุด
หลังทำสี จนได้สีน้ำตาลหม่น และแถบพ้อยท์คัลเลอร์ชมพูอมม่วง ที่โดนใจนางแบบแล้ว สไตล์ลิสต์ของเราขอตัดแต่งผมให้เนี้ยบอีกสักรอบ ก่อนจะแนะนำวิธีตัดแต่งผมทรงนี้ให้เก๋เท่ห์ถึงขีดสุด….และอย่างที่บอกว่าเราเฟ้นหาทรงผมที่ปล่อยก็ดีเก๋ มัดก็ยังดูเท่ห์ จึงถึงเวลามัดผมเพื่อโชว์พ้อยท์คัลเลอร์แล้ว
“วิธีมัดเพื่อโชว์พ้อยท์คัลเลอร์ คือ ไม่ต้องเก็บผมหมด ให้ปล่อยผมด้านข้างมาปิดไว้ เพราะอย่างที่ผมตัดไว้คือ ตั้งใจให้ผมด้านข้างสามารถปล่อยเป็นไรผมมาปิดแก้มไว้บ้าง และควรจะมัดหลวมๆ ไม่ต้องหวีจนเรียบแปล้ หรือมัดจนดึงเกินไป เอาให้ดูคลายๆ เป็นธรรมชาติดีกว่า” คุณเต้-วิพุธ สไตล์ลิสต์แห่งร้านริคิว อธิบายปิดท้าย
“ชอบมากค่ะ ตอนแรกก็กลัวว่าทำสีชมพูแล้วจะเด่นเกินไป แต่ทำออกมาแล้วไม่เลย… อยากรวบผมโชว์บ่อยๆ เลยค่ะ” คุณกู๊ด นางแบบของเรายิ้มกว้าง บอกถึงความพอใจผมทรงใหม่นี้
ชมคลิป คุณเต้-วิพุธ จารุธรรมากร แฮร์สไตล์ลิสต์แห่งร้าน Rikyu พูดถึงคอนเซ็ปต์การปรับเปลี่ยนทรงผมทำอย่างไรไม่ให้ดูโทรม หากดูทะมัดทะแมงเหมาะกับบุคลิก
ขอบคุณ! ร้าน Rikyu สุขุมวิท49 โทร.02-6628485
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.