คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.Den
“รักแล้วไม่ต้องมีคำว่าเสียใจ” เป็นประโยคอันโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง LOVE STORY เมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อขอให้นิยามว่ารักแท้คืออะไร แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องขอคิดก่อน อาจเป็นเพราะรักแท้มีความหมายแตกต่างกันสำหรับแต่ละคน
ดร. เนเดอร์ นิยามรักแท้ว่าเป็นการใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขของอีกบุคคลหนึ่งในระดับที่สูงกว่าสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขของตัวเอง “เมื่อคุณพิจารณาคำพูด ความคิดและการกระทำของคุณอย่างละเอียดถี่ถ้วนและโดยเฉพาะ ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีประโยชน์อย่างไรกับบุคคลพิเศษคนนั้น ก็แสดงว่าคุณ “ตกหลุมรัก”แล้วละ
ดร.คริสเตียน นอร์ธรัป ผู้เขียน “WOMAN’S BODIES,WOMAN’S WISDOM กล่าวว่า “รักแท้คือ เมื่อคุณใส่ใจบุคคลอีกคนหนึ่งมากพอที่จะอุทิศเวลาและสถานที่ที่จำเป็นต่อการใช้ร่วมกัน”
ในทางกลับกัน ถ้าใครบางคนพูดกับคุณว่า “หากคุณรักฉัน คุณจะต้อง…”นั่นไม่ใช่ความรัก ดร.นอร์ธรัปกล่าวและว่า นี่คือการพูดแบบแบล๊คเมล์ทางอารมณ์”และเมื่อความรักเกิดจากจุดนี้ มันก็เกี่ยวกับการควบคุม แต่รักแท้เกิดจาก “ความจริงใจ”และการสนับสนุนโดยไม่มีเงื่อนไข
ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่ารักแท้เกิดขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนจากคำมั่นสัญญาโดยจิตไร้สำนึกมาเป็นคำมั่นสัญญาโดยจิตสำนึก เมื่อคุณได้ยินคนพูดว่า “ความสัมพันธ์เป็นงานหนักจริงๆ” มันก็เป็นการแสดงออกของคำมั่นสัญญาโดยจิตไร้สำนึก แต่คำมั่นโดยจิตสำนึกหมายถึง คุณเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคุณต่อคู่รักและสนับสนุนคู่รักไปตลอดไม่ว่าในยามสุขหรือทุกข์ พูดง่ายๆก็คือ รักแท้ไม่มีเงื่อนไข มีแต่ความจริงใจ ไม่แสวงผลประโยชน์
ดร.ลอรี มัวร์ กล่าวว่า ความรักทั้งหมดมาจากหัวใจที่เปิดกว้าง “เมื่อคุณทั้งคู่อยู่ด้วยกัน มันจะเปิดกว้างและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน” อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่านี่ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่คุณรัก จำเป็นต้องเป็นคู่ชีวิตของคุณเสมอไป
9วิธีที่จะบอกว่าความรักของคุณเป็นของจริง
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์อันยืนยาว? ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญบอก:
1. คุณรู้สึกดี ความสัมพันธ์ที่ดีทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง
2. คุณเฝ้าคอยที่จะใช้เวลาร่วมกับคู่รักของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องอยู่กับคนอื่นๆหรือไปงานต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับคนรัก คุณสนุกกับการใช้เวลาอันมีคุณภาพด้วยกัน แม้ในตอนที่เงียบเชียบ
3. คุณเคารพคู่รักของคุณ คุณได้ยินตัวเองคุยโอ่ถึงคู่รักของคุณ อย่างเช่น “สามีของฉันเป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงที่เก่งกาจ” ถ้าคุณพบว่าคุณพูดถึงแต่ตัวเองอยู่เสมอ คุณก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับคู่รักหรือความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่หรอก
4. คุณรู้สึกสนใจในสิ่งที่คู่รักคิด คุณถามความคิดเห็นของคู่รักเกี่ยวกับประเด็นที่มีความสำคัญต่อคุณ และมันก็โอเคถ้าเขาหรือเธอไม่เห็นด้วยกับคุณ
5. คุณยอมรับความเพี้ยนของคู่รัก ทุกคนมีความเพี้ยนด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่คุณก็มี! ถ้าความเพี้ยนของคู่รักของคุณมันดูน่ารักหรือ พอทนได้ คุณทั้งคู่ก็ยังอยู่ในสถานภาพที่ดี แต่ถ้าความเพี้ยนเหล่านั้นรบกวนจิตใจคุณ คุณก็ควรพิจารณาความสัมพันธ์ให้ละเอียดอีกหน่อยว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยพอใจพฤติกรรมแย่ๆของเขาจนทนไม่ได้
6. คุณสามารถแก้ปัญหาของพวกคุณได้ตลอด เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้างในเส้นทางความสัมพันธ์ของคุณ คนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันย่อมมองเห็นการไม่ลงรอยเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคู่รักของตนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณกำลังสร้างปัญหา หรือถ้าคุณคิดว่า ทุกการทะเลาะเป็น “เรื่องใหญ่”ที่จะนำไปสู่การเลิกรา คุณก็น่าจะทบทวนความสัมพันธ์ของคุณดูใหม่
7. คุณรู้สึกปลอดภัย คุณไม่กลัวการสูญเสียคู่รักของคุณ แสดงว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณมั่นคงดี
8. คูณอธิบายไม่ได้ว่าทำไมพวกคุณจึงอยู่ด้วยกัน คนจำนวนมากตกลงกับคู่ของตัวเองอย่างมั่นเหมาะว่าต้องอยู่ด้วยกัน แต่ลองถามตัวเองก่อนซิว่าพวกคุณอยู่ด้วยกันเพราะต้องการจะอยู่จริงๆใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “ใช่”คุณก็น่าจะอยู่ด้วยกัน ถ้า “ไม่ใช่”แสดงว่าคุณใกล้จะมีปัญหาแล้วละ ถ้ายังไม่มีตอนนี้นะ
9. คุณไม่เปรียบเทียบคู่รักของคุณกับคนอื่นๆ มันมักจะมีใครบางคนที่สวยหรือหล่อกว่า ฉลาดกว่าหรือมีความเป็นนักกีฬามากกว่าคู่รักของคุณเสมอ แต่คุณไม่สน เพราะต้องการอยู่กับเขาหรือเธอเท่านั้น
ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าความรักของคุณจะยืนยาวหรือไม่ ลองใช้คำแนะนำวิธีสุดท้ายของ ดร.มัวร์ดู “เขียนรายการของสิ่งที่คุณต้องการจากใครบางคนที่จะทำให้คุณมีความสุข ถ้าคู่ของคุณทำได้หมด หรือเป็นส่วนใหญ่ คุณก็อาจพบรักอันยั่งยืนแล้ว
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.