By Lady Manager
กรีดตา งัดดั้งโด่ง เสริมคาง ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับปัจจุบันนี้ เพราะตอนนี้ศัลยกรรมที่มาแรงฮอตเว่อร์ในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะเปลี่ยนหน้าให้สวยได้รูปขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความสดใส หน้าตายิ้มแย้ม และทำให้โหงวเฮ้งดี รับทรัพย์รับบอยอีกด้วยแน่ะ!
ค่ะ เรากำลังพูดถึงการศัลยกรรม “ริมฝีปาก”
“ในแต่ละวัน จะมีคนไข้มาปรึกษาเรื่องศัลยกรรม “ปาก” อย่างเดียวประมาณ 90% ส่วนที่เหลือเป็น จมูก ตา บ้างประปราย หมอผ่าตัดปากวันนึงประมาณ 6-7 เคส” หมอภู-นพ.ภูศิษฐ์ จิตติละอองวงศ์ ผู้ก่อตั้ง ภูณิศา คลินิก กล่าว
ถือว่าหมอภูเป็นศัลยแพทย์คิวทอง จนได้ฉายา “หมอภูปากบาง” ผู้บุกเบิกเทรนด์ “ปากกระจับ ปากปีกนก” เรียกได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มศัลย์ปากให้เป็นรูปทรงคนแรกๆ ในเมืองไทย
คนไข้แห่เข้าคิวนัดผ่าปากกันพรึ่บ เพียงแค่เดือนกุมภาฯ คิวยาวยันพฤษภาฯ จนคุณหมอต้องปิดรับคิว! มิฉะนั้นอาจจะคิวข้ามปีกันทีเดียวเชียว ฮอตจริงอะไรจริง แอบเห็นคนไข้มานั่งรอคุณหมอหน้าคลินิกตั้งแต่ 9 โมงเช้า ร้านยังไม่เปิด
แฟชั่นศัลย์ปาก กระจับ ปีกนก ดูน่ารักใสแบ๊ว!
“การศัลยกรรมปากให้เป็นรูปทรง อาจะเป็นเพราะความแปลกใหม่ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้จะมีแค่การทำปากบางอย่างเดียว ไม่มีอะไรโดดเด่น ผมเป็นคนแรกๆ มั้งครับที่ทำปากกระจับ ปากปีกนก
คนไข้ผ่านมือมาแล้วประมาณ 7,000 เคส ในเวลา 3 ปี คนต่างชาติก็มีมาทำเช่นกัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว ทางยุโรป ฝรั่งก็มี เขาจะทำปรับทรงปาก และมาในเรื่องอุบัติเหตุก็มี เด็กแรกคลอดปากผิดปกติ
นวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นมามากขึ้น เพราะในอดีตยังไม่มี สมัยก่อนอาจจะมีแค่ทำตา จมูก ส่วนปาก จะเป็นในรูปแบบการทำปากให้บาง เฉยๆ แค่นั้น แต่ปัจจุบันนี้ทำเป็นรูปทรง เช่น ปากปีกนก ปากกระจับ ซึ่งทำแล้วจะดูน่ารักขึ้น เสริมสีสันให้ใบหน้าดูสวยขึ้น เหมือนเป็นแฟชั่นด้วย เพราะตอนนี้ปากกระจับ ปากบางกำลังมาแรง
ส่วนใหญ่คนไข้จะมักชอบแค่ 2 แบบ แบบแรก ปากกระจับ จะมีลักษณะกลมๆ อ้วนๆ แบบที่สองคือ ปากปีกนก จะแหลมๆด้านข้าง บางๆ แหลมๆ เหมือนยิ้มตลอดเวลา
ในอดีตผู้หญิงที่มาทำปากเยอะกว่าผู้ชายอยู่แล้วก็ประมาณ 70% ผู้ชายประมาณ 30% แต่ปัจจุบันนี้สัดส่วนเปลี่ยน 60/40 ผู้ชายทำเพิ่มขึ้น 10% เลยทีเดียว” หมอภู กล่าวถึงเทรนด์ศัลยกรรมปากว่าทำไมช่วงปีที่ผ่านมาจึงฮอตนักหนา
ทหาร-ตร.ตบเท้าผ่าปาก เสริมโหงวเฮ้ง รวย เฮง งานตรึม!
“หมอเคยมีประสบการณ์ไปคุยกับหมอโหงวเฮ้งนะ เขาบอกว่า ปากที่ดี ควรจะริมฝีปากด้านบนที่บางกว่าริมฝีปากล่าง ข้างบนเล็กประมาณครึ่งหนึ่งของปากล่าง ส่วนรูปทรงถ้าปากดูยิ้มขึ้น จะดูลักษณะโหงวเฮ้งดี รับทรัพย์
ล่าสุด คนไข้ของหมอเองที่เป็นเมกอัพอาร์ทติส เขาบอกว่า หลังจากศัลยกรรมปากแล้ว หน้าดูดี เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ปกติเขารับงานแต่งหน้าทั่วไป งานไม่ค่อยเยอะ แต่หลังจากทำปากบน ล่าง ไปแล้ว งานเข้า! แต่งหน้าให้ทั้งดาราตัวพ่อ ตัวแม่ เรียกว่างานชุกเลยครับ”
นอกจากนี้ หมอภู ยังบอกด้วยว่า ขนาดผู้ชายจริงๆ อย่าง ทหาร ตำรวจก็ยังมาทำศัลยกรรมปากกันเลย เพราะนอกจากจะหล่อขึ้นแล้ว โหงวเฮ้งเรื่องหน้าที่การงานก็แหล่มตามไปด้วย
ปาก 4 เคสไม่ควรผ่า อายุ 45+ อย่าเสี่ยง!
มิใช่ว่า การศัลยกรรมปากจะทำได้ทุกคน คุณหมอภู ให้ข้อมูลเคสที่ไม่ควรทำว่า
“ก่อนที่หมอจะผ่าตัดจะบอกกับคนไข้ก่อน ว่าวันผ่าตัดให้มาคุยกันก่อนอีกรอบ เตรียมข้อมูลมา ว่าอยากได้รูปปากแบบไหน แต่จะบอกเขาก่อนว่า อาจจะไม่ได้แบบนั้นนะ เพราะต้องยึดโครงสร้างของคนไข้เป็นหลัก เราต้องบอกคนไข้ตามตรงว่าทำได้แค่ไหน เพราะถ้าไม่บอกผลที่ออกมาจะทำให้คนไข้ผิดหวังได้
ก่อนผ่าตัดหมอจะประเมินก่อน ว่าเคสไหนควรผ่าไม่ควรผ่า เคสไหนที่ไม่น่าทำก็ไม่ทำ เช่น
1) คนไข้ที่มีปัญหายิ้มเห็นเหงือก ทำปากบางไม่ได้ 2) คนที่ปากบางมาก ถ้าจะทำให้เป็นทรงมากขึ้น หรือตัดเนื้อออกอีกก็ไม่สามารถทำได้ 3) คนที่ปากไม่เท่ากัน มองขวาซ้าย ข้างหนึ่งตก ข้างหนึ่งสูง ก็ไม่ควรทำ และ 4) ปากคว่ำ ทำออกมาแล้วไม่สวย จะได้แค่ทรงกระจับ แต่ปากก็ยังตกอยู่ ยกเว้นว่าคนไข้จะชอบ แต่ในความเห็นของหมอ คิดว่า ไม่สวยนะ ปากที่สวยต้องปลายเชิดขึ้น ดูเหมือนปากยิ้มนิดนึง จะดูสวย น่ารัก”
ส่วนเรื่องอายุก็เป็นเรื่องสำคัญ ใช่ว่า จะทำกันได้ทุกช่วงวัย
“อายุเยอะสุดคุณหมอจะให้ไม่เกิน 45 ปี เพราะพออายุเยอะปากจะตก ตามธรรมชาติพอแก่แล้วปากจะห้อย พอปากห้อยจะทำไม่สวย ทำไปคนไข้ก็เจ็บตัวเปล่าๆ ทำออกมาก็ไม่ได้ดั่งใจ
ยกเว้นคนที่อายุเยอะเช่น 50 ปี แล้วแต่ดูแลตัวเอง เช่น เขาทำเลเซอร์ ร้อยไหมหน้า ดูแลตัวเองมาตลอด หน้ายังตึงเปรี๊ยะอยู่ ก็อนุโลมทำให้ได้” คุณหมอ แนะนำ
ผลข้างเคียงของศัลยกรรมคือ ความไม่เป๊ะ!
“ความยากอย่างหนึ่งของการศัลยกรรมปากที่แตกต่างจากอวัยวะอื่น คือ ความเนี้ยบ เราต้องทำให้เนี้ยบ ปราณีตมากกว่าอวัยวะส่วนอื่นบนใบหน้า ปากด้านขวากับซ้ายต้องเย็บให้เท่ากัน ต้องมาทำกระจับตรงกลางอีก ต้องทำรูปทรงอีก ในขณะที่จมูกก็แค่วางซิลิโคนทำให้ตรงอย่างเดียวเท่านั้น จะง่ายกว่า แต่ปากจะมีรายละเอียดเยอะกว่า
ส่วนผลข้างเคียง จะเหมือนศัลยกรรมทั่วไป อาจจะผิดรูป เบี้ยว เอียง ไม่เท่ากันได้ เพราะผลข้างเคียงของการศัลยกรรมก็คือความไม่เป๊ะ กับความไม่พอใจ นั่นเอง ดังนั้นการศัลยกรรมต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนด้วย เช่น หมอบอกว่า ปากแบบนี้บางพอแล้วนะ แต่คนไข้บอกว่า ไม่เอา จะเอาบางอีก ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะนี้ครับ ส่วนผลข้างเคียงที่ซีเรียสจะไม่ค่อยมี เช่น ปากเบี้ยว ปากชา ปากตก
การผ่าตัดปาก หมอจะใช้ยาชาอย่างเดียว ทำเสร็จครึ่งชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้ ปากบนครึ่งชั่วโมง ปากล่างครึ่งชั่วโมง หากทำทั้งสองก็ 1 ชั่วโมง เย็บปากด้วยไหมละลาย นัดวันตัดไหม 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็นัด 1 เดือน 3 เดือน เพราะการทำศัลยกรรมส่วนใหญ่จะเข้าที่ประมาณ 3 เดือน”
:: ข้อต้องรู้
บ้วนปากให้สะอาด -> หลังผ่าตัด งดการแปรงฟันประมาณ 3 วันแรกหลังการผ่าตัด บ้วนปากให้สะอาด หรือใช้แปรงสีฟันเล็กๆ หลังทำความสะอาดแผลให้ใช้ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อทาบริเวณแผลให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา
อย่าใช้ลิ้นดุน -> หรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก และระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก เพราะอาจทำให้เลือดออกมากได้
ประคบเย็น+ร้อน -> ประคบเย็นบริเวณรอบปาก 3 วันแรกหลังจากนั้นประคบอุ่นต่ออีก 3 วัน
เลี่ยงอาหารรสจัด -> รสเผ็ด รสเปรี้ยว หลีกไกลอาหารร้อน เย็น
ดื่มน้ำโดยใช้หลอด -> ควรดื่มน้ำให้มากๆด้วยหลอดและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
อนาคตปากจะบางลงอีก -> คุณหมอภู เตือนด้วยสำหรับคนที่ทำปากบางเยอะเกินไป จนหน้าผิดธรรมชาติ ต้องระวัง เพราะในอนาคตเมื่ออายุมากขึ้น ปากจะบางลงอีก เพราะคอลลาเจนมันเสียไปตามอายุที่มากขึ้น
ต้องทาลิปสติกกลบรอย -> เพราะหลังจากทำปากไปแล้ว บางคนอาจจะต้องใช้ลิปสติกช่วยกลบรอย เพราะอาจจะเห็นรอยจากการผ่าตัดให้เห็น
นวดปากด้วยยาทาแก้แผลเป็น -> จะช่วยเรื่องลดแผลเป็น ร่วมกับการนวดด้วยประมาณ 3-6 เดือน จะทำให้รูปทรงสวยขึ้น พยายามถ่างปากด้วยการยิ้มเยอะๆ ได้เลยยิ่งดี เพราะจะปากได้ยืดออก คลายตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ไวขึ้น ดังนั้นเรื่องการยิ้ม การพูดคุย จะเป็นปกติ ไม่ต้องกลัว
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Punisa Clinic
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.