เดือนสิงหาคมนี้ นับว่าเป็นเดือนแห่งผ้าไทย ที่ผ่านมา หลายองค์กรต่างจัดงานที่เกี่ยวข้องกับผ้าไทย เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกคนเห็นคุณค่าของผ้าไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ สืบสาน รักษา และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย และก้าวไกลไปสู่ระดับสากล
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ก็ได้ทรงสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพระดำริในการทรงสนับสนุน ส่งเสริม อนุรักษ์ผ้าไทย และงานด้านศิลปหัตถกรรม เพื่อให้งานหัตถศิลป์ไทยได้เป็นที่รู้จักสู่สากล
พร้อมกันนี้ เหล่าดีไซเนอร์ไทยชั้นนำหลากหลายแบรนด์ดัง ต่างร่วมสนองพระราชปณิธาน ด้วยการนำผ้าไทยมาออกแบบเป็นชุดต่างๆ ให้ร่วมสมัยขึ้น แถมยังใส่ได้ทุกเพศและวัย เพื่อลบล้างความคิดเดิมๆ ที่ว่า ใส่ผ้าไทยแล้วแก่ ไม่ทันสมัย จนเกิดคำจำกัดความที่ว่า “ใส่ผ้าไทยให้สนุก” โดยต่างออกแบบชุดผ้าไทยอันเป็นเอกลักษณ์ประจำแต่ละแบรนด์ของตัวเองออกมา เพื่อเชิญชวนให้คนไทยหันมาสนับสนุนความเป็นไทย
วันนี้ CelebOnline จึงขอร่วมนำเสนอชุดผ้าไทยแต่ละลุคของดีไซเนอร์ไทย เพื่อให้เห็นถึงความเก๋ที่ไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติหรูๆ มาลองดูกันว่าแต่ละลุคที่เหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำออกแบบนั้น ล้ำขนาดไหน เผื่อเป็นไอเดียนำมาออกแบบให้เข้ากับบุคลิกของตัวเอง แถมยังช่วยส่งเสริมให้ใช้ผ้าไทยกันในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย
เริ่มที่ แบรนด์ “อาซาว่า” (ASAVA) ของ พลพัฒน์ อัศวะประภา กับชุดผ้าไทยที่ตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ ที่หยิบยกเอาซิกเนเจอร์ซิลลูเอทในแบบฉบับอาซาว่า มาผสมผสานและร้อยเรียงเข้ากับอัตลักษณ์ความงดงามและประณีตของผ้าไหมไทย กับโครงชุดที่มีความเรียบง่ายคลาสสิก อันเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ชุดเดย์แวร์สวมใส่ง่าย อย่าง เชิ้ตเดรส เคปเบลาส์และกระโปรง ไปจนถึงลุคที่มีความเรียบโก้ อย่าง เทรนช์เบลาส์แขนกุดสวมใส่คู่กับกางเกงขายาวทรงตรงเข้าชุด เทรนช์เดรสแขนกุด และชุดราตรียาวแต่งเคป
ต่อกันที่ แบรนด์ “อิชชู่” (ISSUE) โดย ภูภวิศ กฤตพลนารา ซึ่งนำ “ผ้าลายขอพระราชทาน” จากชุมชนหมู่บ้านทางภาคใต้ มาตัดเย็บเป็นเสื้อ กางเกง เดรส และเสื้อคลุม ยกระดับศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้ ทั้งยังพัฒนาต่อยอด สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนอีกด้วย
เป็นครั้งแรกที่ แบรนด์ “เธียเตอร์” (THEATRE) โดย ศิริชัย ทหรานนท์ ได้ทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าไหมไทย ในคอลเลกชัน Theater Silk Resort Collection 2022 ซึ่งนำผ้าทั้งหมดมาจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้แก่ ผ้ามัดหมี่ลายต่างๆ และผ้าไหมพื้นหลากสี มาตัดเย็บเป็นชุดลำลอง เดรส ที่มีการใช้ผ้ามา patch work แต่งให้มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป โดยออกแบบมาเพียงชุดเดียว และได้เพิ่มรายละเอียดในงานปักประดับที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ส่วน แบรนด์ “วิชระวิชญ์” (WISHARAWISH) โดย วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ได้ออกแบบคอลเลกชัน Fancy-free ที่ผสมผสาน “สี” และ “รูปทรง” ให้เกิดมิติ พร้อมเติมเต็มด้วยดีเทล ซิลลูเอทและวอลลุมที่น่าสนใจ เพื่อสวมใส่ได้ในหลายโอกาส ให้ความรู้สึกเบาสบายและผ่อนคลาย
สำหรับ “เอก ทองประเสริฐ” (Ek Thongprasert) ได้นำความงามของผืนผ้าบาติกทางภาคใต้จากสงขลาและยะลา มาพัฒนาให้ร่วมสมัยขึ้น
ด้าน “โฮม สตูดิโอ ชอป” (HOMEStudioSHOP) มาพร้อม Half and Half Collection ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเติมเต็มครึ่งด้วยอีกครึ่ง เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ในมุมมองใหม่ นำมาขยายความต่อเป็นชิ้นงานผ้าทอมือที่ถูกนำมาคัดสรร เลือกมาแมตช์กับผ้าทอที่แตกต่างกัน
“อินดิโก้สกิน” (Indigoskin) โดย ธัชวีร์ สนธิระติ กับลิมิเต็ดเอดิชัน Indigoskin MA-1 Jacket “Kraam” ที่นำผ้าลายไทยต่างๆ โดยเฉพาะ ผ้าย้อมครามของคนไทยมาใช้ เริ่มจากเสื้อแจ็กเกตสไตล์นักบิน (MA-1 Jacket) ผสานการออกแบบของ Indigoskin ซึ่งใช้ผ้าย้อมครามริมแดง ที่สั่งทอพิเศษเสมือนผ้ายีนส์คุณภาพสูงมาใช้เป็นผ้าหลัก
“คณาพจน์” (KANAPOT) คอลเลกชันนี้ จะเป็นการใช้สีหรือการผสมผสานลายผ้าและวัสดุแปลกใหม่ เช่น ขนนก ผ้า tulle ผ้าทอแจ็กการ์ด หรือวัสดุอื่นๆ ที่ให้มิติหลากหลายมากขึ้น โดยวัสดุหลักยังคงเป็นผ้าไหมจากศูนย์ศิลปาชีพที่มีคุณภาพดี สีสันสดใสและลวดลายมัดหมี่โบราณ
“เติมเต็ม สตูดิโอ” (Termtem Studio) โดย แพรวา รุจิณรงค์ กับคอลเลกชัน Mother’s Love ที่ถ่ายทอดความรักในรูปแบบหลากหลายของแม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งสีหลัก อย่าง สีขาว ถูกผสมตัดต่อกับผ้าลายทางในสีสันที่ขัดแย้ง และเนื้อผ้าที่แตกต่างของผ้าฝ้าย ที่ถูกนำมาเย็บตัดต่อรวมกับผ้าไหม
ปิดท้ายกับ “ทิพา บาย ทิพยพงษ์” (TIPA By Tipayaphong) แบรนด์ระดับโอต์กูตูร์ที่สร้างสรรค์ผลงานอันประณีต กับคอลเลกชัน Distracted Positive ที่สะท้อนความรู้สึกแบบสวนทาง ทั้งความสดใส หนักแน่น และความล้ำสมัย ผสมผสานกลายเป็นความรู้สึกผ่อนคลายและโรแมนติก
นี่แค่น้ำจิ้ม เพราะยังมีดีไซเนอร์ไทยที่เก่งๆ อีกมากมาย พร้อมที่จะนำภูมิปัญญาของไทยมาอวดสายตาชาวโลกแบบไม่ต้องอายใคร ชอบลุคไหนแบบใดเลือกกันได้เลย
Comments are closed.