>>รสนิยมกับสังคมดัดจริต คงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดกันเยอะสักเท่าไหร่ ก็เพราะบ้านเราอวยฝรั่งมังค่ามาตั้งกี่ยุคกี่สมัย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหล่าดีไซเนอร์ไทยทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่หวั่นใจเลยแม้แต่น้อย ด้วยพลังความคิดและจิตวิญญาณของคนทำงานออกแบบ คิดค้นจนรังสรรค์คอลเลกชันที่เรียกได้ว่ากระตุ้นต่อมเสียเงินของเหล่าแฟชั่นนิสต้าไทยไม่น้อย
สมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ หรือ BFS (Bangkok Fashion Society) ถือว่าก้าวสู่ปีที่ห้าแล้วในการจับมือกันอย่างเหนียวแน่นของเหล่าดีไซเนอร์ไทย ที่หลายแบรนด์เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งนั่นก็เพียงพอสำหรับการการันตีความสำเร็จของนักสร้างสรรค์เสื้อผ้าแฟชั่นของไทย ที่ได้รับการยอมรับถึงเรื่องแนวความคิดและสิ่งที่ถูกนำเสนอ โดยมีการนำคอนเซ็ปต์ แรงบันดาลใจในด้านศิลปะ ผนวกเข้ากับหลักการออกแบบทางแฟชั่น จนได้คอลเลกชันเสื้อผ้าที่ไม่มีที่ไหนในโลก อีกทั้งเรื่องวัสดุ และการตัดเย็บก็เป็นไปอย่างพิถีพิถัน ไม่แพ้กับแบรนด์ระดับโลก หากแต่จุดประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมนั้นยึดเอาหลักอุดมคติที่ว่า “Bangkok Base Asean Best” ที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองศูนย์กลางด้านแฟชั่นในภูมิภาคนี้ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าดีไซเนอร์ไทยของเรานั้นทำได้!
โดยนอกเหนือจากการรวมตัวเพื่อความเหนียวแน่นทางธุรกิจแล้ว BFS ยังมีหน้าที่เป็นผู้กำหนดเทรนด์ในแต่ละซีซันด้วยว่าจะไปในทิศทางใด เพราะอากาศประเทศเรานั้นคงไม่สามารถยึดตามหลักสากลได้สักเท่าไหร่ ดังนั้น หากคุณอยากอัปเดตเทรนด์ล่าสุดของแต่ละปี ก็สามารถติดตามข่าวสารจากสมาคมแห่งนี้ได้
โดยวันนี้เราจะมานำเสนอคอลเลกชันจากแบรนด์ไทยชั้นนำ 11 แบรนด์ อันได้แก่ อาซาว่า (ASAVA), วิคธีร์รัฐ (Vickteerut), เกรย์ฮาวนด์ ออริจินัล (Greyhound Original), มิลิน (Milin), อิชชู่ (Issue), คลอเส็ท (Kloset), เพนคิลเลอร์ (Painkiller), เพลย์ฮาวนด์ บาย เกรย์ฮาวนด์ (Playhound by Greyhound), คูเรเตด บาย เอก ทองประเสริฐ (Curated by Ekthongprasert), ตุ๊ดตี้ แอนด์ ตุ๊ดตี้ ฟรุตตี้ (Tutti & Tutti Frutti) และซีนาด้า (Senada)
อาซาว่า
มากันที่แบรนด์แรก ASAVA ของคุณ หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา นายกสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ ซึ่งหนาวนี้มาพร้อมกัน 2 คอลเลกชันอันได้แก่ NYC Constructivism กับ Manhattan : The Galaxy of Stars
คอลเลกชันแรก NYC Constructivism อ้างอิงแนวความคิดของศิลปะแบบอนุตรนิยม (Supermatism) ที่คำนึงถึงอารมณ์และความรู้สึกในการตัดสินใจ ผนวกเข้ากับแรงบันดาลใจจากศิลปะเค้าโครง (Constructicism) ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของศิลปะร่วมสมัย
ส่วนคอลเลกชัน Manhattan : The Galaxy of Stars ถูกนำเสนอผ่านปรัชญาและแนวความคิดอย่าง “Concious Living” การใช้ชีวิตด้วยความตระหนักรู้ ซึ่งบวกผสมกับแนวความคิดการใช้ชีวิตอย่างเฉลียวฉลาด และซื่อตรงต่อตัวตนที่แท้จริงจนหล่อหลอมให้ผู้หญิงในแบบอาซาว่าจึงเป็นบุคคลที่พร้อมจะรับมือกับอนาคตข้างหน้าด้วยความตระหนักรู้ในทุกๆ ย่างก้าวของชีวิต
วิคธีร์รัฐ
ตัวแทนความเรียบแท่ในแบบมินิมัล กับการเล่นโครงเสื้อในแบบ Structural ที่เน้นให้เห็นเทคนิคการสร้างแพตเทิร์นใหม่ๆ ซึ่งคอลเลกชันนี้ได้อิทธิพลส่วนหนึ่งจากความชื่นชอบภาพวาดชื่อดัง “Symphony in Black” ของตัวดีไซเนอร์ ทั้งยังมีส่วนผสมของความเป็นอวังการ์ด จนได้ออกมาเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้าที่เรียบหรูดูจริงจัง แต่แฝงไปด้วยแนวคิดและความแปลกตาของแพตเทิร์นใหม่ๆ
เกรย์ฮาวนด์ ออริจินัล
เสน่ห์แห่งความเท่ ปราดเปรียวดั่งสุนัขเกรย์ฮาวนด์ ทั้งยังความเรียบง่ายที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังแฝงไว้ซึ่งลูกเล่นในงานดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Basic with a TWIST” โดยหนาวนี้เกรย์ฮาวนด์ได้ผุดคอลเลกชัน “Collage History” ขึ้นเป็นคอลเลกชันประจำซีซัน ซึ่งเป็นการนำเสื้อผ้าซิกเนเจอร์ของเกรย์ฮาวนด์มาทำใหม่โดยผสมผสานกลิ่นอายของเสื้อผ้าแบบ Sweet Wear ลงไป รวมถึงการตัดต่อเนื้อผ้าต่างชนิดเข้าด้วยกัน เพิ่มความต่างด้วยลายกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์ สะดุดตาด้วยโทนสีสไตล์ Color Block ซึ่งทำให้ฤดูหนาวนี้สนุกกว่าเดิมเยอะ
มิลิน
แบรนด์สาวหวานอมเปรี้ยวขวัญใจวัยรุ่นอย่าง มิลิน ในหนาวนี้ได้มองย้อนกลับไปในสตรียุค 60’s ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ ทั้งยังให้ความสำคัญกับบทบาทของคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ที่มีความชัดเจนและมั่นใจในตัวเองสูงจนเกิดเป็นแนวคิดที่ว่า “I would go without food to buy cloths” โดยสนุกสนานกับการแต่งกายที่สื่อออกมาในสไตล์ MOD อันมีเอกลักษณ์ และถือเป็นแรงบันดาลใจแรกของคอลเลกชันอีกด้วย
อิชชู่
การต่อยอดจากแรงบันดาลใจของ ภูภวิศ กฤตพลนารา ที่ได้ร่างเรียงเส้นทางการเดินทางของกองเสือป่าในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ที่ได้จากการมุ่งจากกรุงเทพฯ สู่ “มลายู” จนเกิดเป็นคอลเลกชันที่เต็มไปด้วยแนวความคิดและจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิวทิวทัศน์ และโครงเสื้อที่ถูกดัดแปลงมาจากการแต่งกายของหญิงชาววังที่มีความหรูหราสง่างาม บวกผสมกับกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรม และถูกนำเสนอออกมาในโทนสีเขียว ชมพูพาสเทล ฟ้า ขาว และดำ
คลอเส็ท
อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นขวัญใจของวัยรุ่น และอยู่คู่กับสาวไทยมายาวนาน Kloset ในหนาว 2015 ได้แรงบันดาลใจจากเพลง Love is a losing game ของ Amy Winehouse จนเกิดเป็นคอลเลกชันที่มีชื่อว่า “Written all over your face” ที่เปรียบเสมือนช่วงเวลารู้เขารู้เรา ผ่านการอ่านสีหน้าและแววตาของอีกฝ่าย ซึ่งเอกลักษณ์คือการใช้ลวดลายของวัตถุต่างๆ จนถูกนำมาตีความใหม่ให้สื่อถึงอารมณ์และความหมายต่างๆ ที่แฝงไว้ด้วยนัยยะขี้เล่น ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ ดวงตา ฯลฯ
เพนคิลเลอร์
Optical Illusion แรงบันดาลใจจากศิลปะแนว Ob Art ซึ่งเป็นการทำให้ภาพสองมิติดูมีการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นการซ้อนทับ หรือลายลวงตา จึงเกิดเป็นคอลเลกชันสุดแนวบนพื้นฐานซิลูเอตที่เรียบง่ายและสะอาดตา
เพลย์ฮาวนด์ บาย เกรย์ฮาวนด์
แรงบันดาลใจจากความแตกต่างระหว่างศิลปินต่างยุคสมัยอย่าง บ็อบ ดีแลน นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง และ พาโบล ดีแลน ศิลปินฮิปฮอป จึงนำกลิ่นอายจากยุคที่แตกต่างกันมาหลอมรวมภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Flok” ซึ่งเทคนิคที่ถูกดึงมาใช้ในคอลเลกชันได้แก่การ Piping สไตล์ตะวันตก การเย็บตัดต่อ รวมไปถึงงานปัก ก็มีให้เห็นในคอลเลกชันนี้
คูเรเตด บาย เอก ทองประเสริฐ
ผู้ที่พร้อมพบแรงบันดาลใจ และไอเดียหลากหลายวัฒนธรรม จากช่วงเวลาที่แตกต่าง โดยคอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทรรศการศิลปะ “The future is always mow” ของ Daniel Arsham และ วรรณกรรม 1Q84 ของนักเขียนชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลก บวกร่วมกับแรงบันดาลใจจากหน้ากากชนเผ่าแอฟริกัน พิธีการบูชายัญ ศิลปะการเพนต์ร่างกาย รวมไปถึงเครื่องประดับอย่างลูกปัด นำเสนอผ่านงานปักที่สร้างมิติใหม่ให้กับเสื้อผ้า
ตุ๊ดตี้ แอนด์ ตุ๊ดตี้ ฟรุตตี้
ความหลงใหลในตุ๊กตากระดาษ ที่มีเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ สีสันสดใสที่สามารถเลือกใส่ได้ในแบบที่เป็นตัวเรา จนถูกดึงมาเป็นคอนเซ็ปต์ Mix & Match โดยเทคนิคที่โดดเด่นคือดีเทลการพับและทับซ้อนของตุ๊กตากระดาษ เช่นชุด Leisha Top และ Silvie Jacket ผสมกับเทคนิคใหม่ของแบรนด์คือการทำ Digital Print ลายลูกไม้บนผ้า Organza เช่นชุด Emilia Top และ Lucille Skirt
ซีนาด้า
แรงบันดาลใจจากดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงาม พร้อมกับกลิ่นหอมที่โชย สีของกลีบดอกหลากสีสัน ถูกนำมาตีความใหม่โดยสะท้อนความงามผ่านลายพิมพ์ที่ผ่านเทคนิคจนได้สีจางละมุน อ้างอิงรายละเอียดอันน่าสนใจของยุค 70’s ทั้งหมดจึงสะท้อนความหรูหราในบริบทใหม่ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของหญิงสาวประจำยุค :: Text by FLASH
Comments are closed.