เตรียมรับมือกับแสงแดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะมาช่วยเราดูแลผิวนหน้าร้อน

>>ชีวิตเราในทุกวันนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องฝ่าร้อนลุยแดดที่แผดเผาผิวกายเราให้ต้องไหม้ทุกๆ วัน อากาศก็แสนจะร้อนอบอ้าวอันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อนแล้วไหนจะอากาศที่แปรปรวนของโลกอีก ไม่ว่าจะหญิงหรือชายเมื่อเจอสภาพแบบนี้เข้าไปก็ต้องหาทางเตรียมรับมือกันบ้าง เพื่อผิวที่สดใสแข็งแรงและสุขภาพที่ดีปลอดโรคมะเร็งของเรา จะได้มีแรงยืนต่อไปอย่างไร้กังวลไม่ว่าจะเจอกับสภาพอากาศแบบไหนก็ไม่กลัว

  มาหาวิธีต่อสู้กับแดดร้อนอบอ้าวที่เป็นภัยต่อผิวของเรากันดีกว่า วันนี้ Celeb Online มีเคล็ดการเตรียมผิวต่อสู้กับแสงแดดจาก สมาร์ทซัน (Smartsun) มาฝากกัน แต่ละวิธีก็ไม่ยากเลยสักนิดสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันและไม่เสียตังค์สักบาท ถ้าอยากมีผิวสวยสุขภาพดีห่างไกลโรคมะเร็งแล้วละก็สามารถทำตามเคล็ดไม่ลับต่อไปนี้ได้เลย

ทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญภัยร้ายของแสงแดด

เลือกทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิ ชาเขียว องุ่นแดง บลูเบอร์รี ใบแปะก๊วย มะเขือเทศ ผักโขม นอกจากจะช่วยในการบำรุงสุขภาพแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระยังส่งผลต่อการฟื้นฟูความเสื่อมของผิวพรรณไม่ให้แก่ก่อนวัย ลดการอักเสบของผิวหลังได้รับแสงแดด และยังยับยั้งการเกิดฝ้าบนใบหน้าได้อีกด้วย
หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดด  โดยเฉพาะแดดในช่วง 10.00 – 14.00 น.  เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดมีปริมาณรังสียูวีแรงที่สุดของวัน ขนาดสาวๆ ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ อากาศเย็นฉ่ำยังมีโอกาสได้รับรังสียูวีมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แต่หากต้องอยู่ในแดดจริงๆ ควรใส่หมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกทางหนึ่ง

ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด  เราควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป ควรมีเนื้อครีมที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตัน และมีส่วนผสมที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA เช่น Avobenzone หรือ Mexoryl SX ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยคงค่าการปกป้องผิวเมื่อกระทบกับแสงแดด  อีกทั้งควรทาครีมกันแดดในปริมาณ 2 มิลลิกรัม ต่อผิว 1 ตารางเซนติเมตร เพราะหากทาครีมไม่เพียงพอจะทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดลดลงกว่า 80-90% เช่น SPF 50 จะเหลือค่าการปกป้องเทียบเท่ากับ SPF 7.07 
แม้กระทั่งการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าการปกป้องจะยาวนานขึ้นหากทาในปริมาณที่ไม่เพียงพอ เพราะโดยทั่วไปแล้วประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 มีค่าการปกป้องรังสียูวีประมาณ 98% และ SPF 100 มีค่าการปกป้องรังสียูวีอยู่ที่  99% ซึ่งแทบไม่แตกต่างกันในผลลัพธ์ของการป้องกันแสงแดด แต่หากทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือไปเที่ยวทะเล ควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำเพื่อการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

แต่ ณ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีไฮเทคเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย  ถูกสร้างมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์อย่างเราและแน่นอนว่าปัญหาแสงแดดก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทยที่ต้องคอยต่อสู้กับอากาศร้อนและ UV ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงอย่างมากต่อโรคผิวหนัง จึงเกิดเทคโนโลยีช่วยป้องกันแสงแดดขึ้นมาอย่าง สายรัดข้อมือ สมาร์ทซัน ยูวี อินดิเกเตอร์ ริสต์แบนด์ ทำหน้าที่เตือนผู้ใช้เมื่อถึงเวลาทาครีมกันแดดซ้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันแสงแดดให้ต่อเนื่อง โดยจะทำการเปลี่ยนสีจากเหลืองเป็นครีมอมส้มเมื่อได้รับแสงแดดถึงปริมาณหนึ่ง และเปลี่ยนเป็นสีชมพู เมื่อได้รับรังสียูวีมากเกินปริมาณที่กำหนดในหนึ่งวัน ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง และอาการผิวไหม้ ที่สำคัญสามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว ทั้งกิจกรรมบนบกและใต้น้ำ 

มีตัวช่วยใหม่ๆ มาแบบนี้จะไม่ลองได้อย่างไร? ทั้งสะดวกและยังสามารถช่วยเราป้องกันลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วย อย่าพลาดเลยขอบอก! :: Text by FLASH