แม้จะผ่านงานสำคัญของโลกแฟชั่นอย่าง Met Gala มาได้ 3 วันแล้ว แต่กระแสความร้อนแรงและข่าวคราวที่เกี่ยวกับงานนี้ก็ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ชุดของแขกแต่ละคนที่ทำให้เกิดดราม่ากันแบบไม่จบสิ้น
จับโป๊ะมนุษย์คนแรก
เจ้าประจำของงานนี้อย่าง แคนดัล เจนเนอร์ สวมเดรสคอลเลกชั่นของ อเล็กซานเดอร์ แมคควีน ดีไซน์ให้กับแบรนด์ จีวองชี่ ตั้งแต่เมื่อปี 1999 โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้สวมใส่มัน เพราะตั้งแต่ตัดเย็บเสร็จก็ถูกนำไปใส่ในหุ่นจัดแสดงโดยไม่ได้ผ่านเรือนร่างใครมาก่อนเลย แต่หลังจากจบงานไม่นานก็มีภาพที่คนขุดมาว่า วิโนน่า ไรเดอร์ นางเอกหน้าหวานเคยสวมเดรสชุดนี้ใส่ถ่ายแบบมาก่อนแล้ว ทำเอาหลายคนออกมาโจมตีว่าสาวแคนดัลนั้นโม้ ก่อนจะมีคนออกมาช่วยแก้ข่าวให้ว่า ชุดที่วิโนน่าใส่นั่นเป็นตัวที่จำลองมาจากชุดจริง ส่วนชุดจริงๆ ถูกเก็บงำอยู่ในคลังของแบรนด์ นอนหลับไหลมาตลอด 25 ปี ก่อนจะถูกปลุกขึ้นมาให้แคนดัลสวมใส่ และเข้ากับธีม Sleeping Beauty ของปีนี้
ศัลยกรรมกระดูซีโคร่ง?
เรื่องของสาวๆ บ้านคาร์ดาเชียน ยังไม่จบแค่นั่น เพราะพี่สาวของเธอ คิม คาร์ดาเชียน ก็โดนผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ชุดเอวมดตะนอยของเธอกันแบบกระหน่ำ โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 5 ปีก่อนว่าเธอมีเอวขนาด 24 นิ้ว แต่ในงานนี้ชุดเธอมีขนาดเอวเพียง 18 นิ้วเท่านั้น จึงเกิดข่าวลือที่ว่าเธอได้ไปทำศัลยกรรมตัดซีโครงเพื่อให้สามารถสวมใส่ชุดที่เอวคอดขนาดนั้นได้ แต่ทางสาวคิมบอกว่าเป็นเพราะเธอมีเทคนิกออกกำลังกายเฉพาะส่วนต่างหากถึงสามารถปั้นหุ่นออกมาได้แบบนี้
พี่น้องต่างขั้ว
พี่น้องบ้านฮาดิดเองก็มีดราม่าเช่นกัน เมื่อสาวเบลล่า ฮาดิด ที่ถือได้ว่าเป็นดาวเด่นในปีก่อนๆ ไม่ได้ปรากฎตัวในงานปีนี้ โดยคาดกันว่าเธออยากจะโฟกัสไปที่การให้ความสำคัญเรื่องสงครามในอิสราเอล และเรียกร้องเพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์เพื่อนร่วมชาติของเธอแทนที่จะมีเฉิดฉาดบนพรมแดงนี้ ในขณะที่ จีจี้ ฮาดิด พี่สาวของเธอมาร่วมงานในชุดประดับดอกไม้ปักดอกโต ทำให้หลายฝ่ายออกมาตำหนิว่าเธอไม่สนใจประเด็นสำคัญนี้เหมือนน้องสาว โดยแซะว่าฝั่งพี่คนรับแต่สายเลือดชาวฮอลแลนด์ของทางแม่ ส่วนสายเลือดปาเลสไตน์ของพ่ออยู่ที่เบลล่าทั้งหมด
เบื้องหลังดูดีกว่าบนพรมแดง
ชุดน้ำเงินสดของสาวเจนนี่ แบล็กพิงก์ ก็เป็นประเด็นร้อนเช่นกัน เพราะโดนวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็ว่าสวยโดดเด่น ทั้งโทนสี ทั้งสไตล์การจับจีบเรียงพาดที่ทำจากผ้าผืนเดียวที่ยาวกว่า 13 เมตร แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าไม่อลังพอ ไม่ตรงธีม บางก็ว่าไม่เหมาะกับหุ่นเธอ ความสั้นของกระโปรงที่ทำให้เธอต้องขยับตัวอย่างระมัดระวัง ทำให้ท่าทางการเดิน การยืน ดูไม่ค่อยธรรมชาติ แถมพอมีภาพเบื้องหลังที่เธอถ่ายให้กับโว้ก ซึ่งมีพร๊อบเป็นดอกกุหลาบดอกใหญ่ ก็ยิ่งมีคนแปลกใจที่ทำไมไม่เอาไปเดินพรมแดงด้วยจะได้ลุคสมบูรณ์แบบขึ้น
เหยียดเอเชีย .. Asian Hate
ประเด็นร้อนกลางพรมแดงที่ทำเอาสาวก KPOP เดือดเป็นไฟ เพราะในคลิปไลฟ์สด มีเสียงช่างภาพแสดงการเหยียดนักร้องเกาหลีวง Stray Kids ออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน ทั้งบ่นว่าไม่รู้จัก ตะโกนไม่พอใจ รวมถึงพูดว่าให้ระวังโควิด ซึ่งถือเป็นดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก ทำประหนึ่งว่าเป็นแขกที่ไม่ได้ต้องการ แต่บทสรุปออกมา เฟลิกซ์ หนึ่งในสมาชิกของวงกลับเป็นคนที่ครองกระแสเป็นที่กล่าวขวัญถึงได้ติดอันดับท๊อป 3 ของงานนี้เลยทีเดียว
ดาวดวงใหม่
ดาวเด่นแจ้งเกิดที่สุดของงานนี้ต้องยกให้กับ โมนา พาเทล เธอไม่ใช่นักร้อง ดารา หรือ นางแบบ แต่ด้วยการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม และเดรสสุดล้ำของเธอ ที่ทั้งสวยงาม และยังมีกลไกทำให้ผีเสื้อประดับซึ่งเรียงรายอยู่บนสามารถขยับปีกพริ้วไหวได้ตลอดเวลา ทำให้ทุกสายตาจับจ้อง และต้องพากันตามหาข้อมูลว่าสาวคนนี้คือใคร ซึ่งก็ต้องอึ้งกับประวัติสุดเลิศของเธอ นักธุรกิจหญิงเชื้อสายอินเดีย ที่มีดีกรีจบจากสถาบันอย่างฮาร์วาร์ด สแตนฟอร์ด และ MIT เธอเป็น CEO หลากหลายบริษัท มีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน แถมยังช่วยงานการกุศลมากมาย
ลิสต์ชุดเด่น หรือเน้นคนดัง!?
อีกสาวหนึ่งที่ชุดสวยเด่นเด้งแบบสุด ต้องยกให้กับ นักแสดงชาวอินเดีย อาลิยา ภัตต์ นางเอกจากเรื่องคังคุไบ ที่สวมใส่เดรสประดับฝีมือของช่างชาวอินเดียที่ปัดลวดลายละเอียดยิบบนผ้าโปร่งลากยาวหลายเมตร ทุ่มเททั้งแรงคนและเวลาในการตัดเย็บ ทำเอาเหล่าชาวโซเชียลพากันแชร์กระหน่ำ และทำให้เธอทำมูลค่าสื่อสูงที่สุดในงานของปีนี้ไปครอง แต่ก็ไม่พ้นทำให้เกิดประเด็นดราม่าขึ้น เพราะชุดที่ดูอลัง สวยสง่าและตรงธีมขนาดนี้กลับไม่ติดลิสต์ Best Dress ของหลายสำนัก จนหลายคนวิจารณ์ว่าลิสต์ต่างๆ ที่จัดอันดับบางทีก็ไม่ได้เกี่ยวว่า ชุดจะสวยแค่ไหน สไตล์เลิศปานใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับคนที่ใส่ ที่ถ้าเพียงเป็นคนดัง มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก แม้ชุดจะไม่เข้าตาแต่กลับติดอันดับได้อย่างง่ายๆ
Comments are closed.