World Celeb

2 ยักษ์ใหญ่วงการไอที โชว์สายเลือดยิวตัวพ่อ

Pinterest LinkedIn Tumblr


สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่กำลังครองพื้นที่ข่าวของชาวโลก ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ กำลังส่งผลลามไปถึงการต่อสู้กันทางด้านเชื้อชาติ และกลายเป็นการมุ่งโจมตีเผ่าพันธุ์ การประท้วงเกิดขึ้นในหัวเมืองใหญ่ของผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝั่ง มีการรวมกลุ่มกันระรานชาวยิว มีการเรียกร้องให้บอยคอตแบรนด์สัญชาติอเมริกา อย่าง สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ เพราะอเมริกาสนับสนุนอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ให้โจมตีธุรกิจของชาวยิว แต่ดูเหมือนว่า 2 เจ้าพ่อแห่งวงการไอที จะไม่รู้สึกเดือดร้อนใดๆ และยังแสดงการสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่


:: มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

ผู้ก่อตั้ง Facebook ที่กลายเป็นสื่อโซเชียลในโลกประจำวันของผู้คน เป็นชาวอเมริกัน เชื้อสายยิว ปู่ย่าตายายของเขามีพื้นเพเป็นชาวยิวอพยพจากประเทศออสเตรีย ทั้งพ่อและแม่ของเขาจึงมีเชื้อสายยิว รวมถึงตัวเขาด้วย มาร์กแสดงความเห็นหลังจากเหตุการณ์บุกโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสว่า “ไม่มีเหตุอันสมควรสำหรับการกระทำการก่อการร้ายต่อผู้บริสุทธิ์”

ในไอจี-สตอรีของเขา มาร์กประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสอย่างชัดเจนว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย “ความทุกข์ทรมานที่แผ่ขยายออกไปนั้นเป็นผลร้ายแรง ผมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงาน และครอบครัวของเขาในอิสราเอลและภูมิภาค” มาร์กเติบโตเป็นชาวยิว จากนั้นก็ผ่านช่วงเวลาที่เขาต้องตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย และทำให้เขากลายเป็นคนไม่เชื่อพระเจ้า แต่ตอนนี้เขาหวนกลับมาเชื่อว่าศาสนาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเคยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน “ชาวยิวที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก” โดยหนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์เมื่อปี 2011 และนับตั้งแต่นั้นเขาก็ติดอันดับหนึ่งเรื่อยมา


:: แลร์รี เอลลิสัน

ผู้ก่อตั้ง Oracle ไม่ได้มีการเริ่มต้นชีวิตที่ดีมากนัก แต่เขาใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เข้ามา และค่อยๆ สร้างอาณาจักรไอที จนทำให้เขากลายมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 113 พันล้านดอลลาร์ เอลลิสันเกิดเมื่อปี 1944 ในนิวยอร์กซิตี แม่ของเขาเป็นลูกสาวชาวยิวรัสเซียอพยพ พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าหลังเล็กๆ ในย่านบรองซ์ แต่อายุได้เพียง 9 เดือนเขาก็ถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของญาติที่ชิคาโก และต่อมากับพ่อเลี้ยง

แต่ในฐานะลูกนอกสมรสของผู้อพยพ ที่แม้จะเติบโตขึ้นมาในย่านที่มีชื่อเสียงไม่ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ใครหมดโอกาสในการเป็นมหาเศรษฐี ในดินแดนแห่ง “โอกาสที่ไม่จำกัด” ซึ่งแลร์รี เอลลิสันก็มุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จจนได้ เอลลิสันเคยไปเยือนอิสราเอลครั้งแรกในปี 2007 และให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน เพราะเมื่อเขาก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Oracle ในปี 2014 แล้ว เขาก็แต่งตั้ง “ซาฟรา แคตซ์” ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลขึ้นดำรงตำแหน่งแทน

นอกจากนี้ เอลลิสันยังเป็นเพื่อนสนิทของนายกรัฐมนตรี “เบนจามิน เนทันยาฮู” อีกด้วย ถึงขนาดเคยเชื้อเชิญเนทันยาฮูและครอบครัว ไปพักผ่อนที่วิลลาหรูบนเกาะลาเนียในฮาวาย ที่เขาซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2012 ในราคา 300 ล้านดอลลาร์

Comments are closed.

Pin It