ชีวิตวัยรุ่นของว่าที่ราชินีแห่งสเปน ‘เจ้าหญิงเลโอนอร์ แห่งอัสตูเรียส’

“เจ้าหญิงเลโอนอร์” เป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ของ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน และทรงอยู่ในอันดับแรกของลำดับการสืบราชบัลลังก์สเปน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา พระองค์ทรงฉลองคล้ายวันประสูติครบรอบพระชันษา 17 ปี

ความจริงแล้วเรื่องความผิดพลาดไม่เข้าท่า หรือเรื่องอื้อฉาวใดๆ นั้น ไม่เคยปรากฏกับเจ้าหญิงเลโอนอร์ จึงดูเป็นการสมควรแล้ว ที่พระองค์ทรงได้รับความไว้วางพระทัยจากพระราชบิดาและพระรามารดา ได้สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น “เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส” เพื่อสืบราชบัลลังก์สเปนลำดับถัดไป

แต่เจ้าหญิงเลโอนอร์ ทรงเป็นที่พอพระทัยไปเสียทุกเรื่องก็คงไม่ใช่ เพราะเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว พระองค์เสด็จออกจากราชสำนักในมาดริดเป็นครั้งแรก เพื่อทรงศึกษาต่อที่ UWC Atlantic College ใกล้เมืองคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่มีนักเรียนจากชนชั้นสูงทั่วโลก และภาษาต่างประเทศที่เจ้าหญิงทรงเลือกเรียนคือ ภาษาจีนกลาง

ต้นเดือนมกราคมปีนี้ หนังสือพิมพ์ El Economista ของสเปนรายงานข่าวว่า เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงตกหลุมรักเพื่อนนักเรียนชายอายุ 16 และเรียนอยู่เกรด 11 เหมือนกัน แหล่งข่าวมาจากพระสหายคนสนิทที่เล่าว่า “เขาตัวสูง ผอมเพรียว น่ารักมาก” และหนุ่มน้อยคนนั้นไม่ใช่คนสเปน

สมเด็จพระราชินีเลติเซีย ทรงเคยตัดสินพระทัยผิดพลาดมาแล้วในอดีต ตอนวัย 17 เคยตกหลุมรักอาจารย์ที่โรงเรียน และต่อมาได้จดทะเบียนสมรส พระองค์จึงทรงตระหนักดีว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับพระราชธิดา ยิ่งเมื่อทรงได้ประจักษ์กับพระเนตรของพระองค์เอง ระหว่างที่เด็กหนุ่มไปเยือนพระราชวังช่วงเทศกาลอีสเตอร์ พระองค์ทรงไม่ปลื้มสไตล์ของเด็กหนุ่มคนนี้เลย เพราะนอกจากเขาจะไว้ผมยาวแล้ว ยังไม่สวมเนคไทเข้าวังอีกด้วย พระองค์จึงทรงรับสั่งให้เจ้าหญิงเลโอนอร์ ใช้สมาธิกับการเรียนให้มากขึ้น

ช่วงปิดภาคเรียนเดือนตุลาคม ‘October Break’ เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงวางแผนจะเสด็จกลับสเปน เพื่อฉลองวันคล้ายวันประสูติแบบส่วนตัวกับสมาชิกครอบครัว พระองค์ทรงเสด็จด้วยเครื่องบินส่วนพระองค์ ซึ่งบินตรงจากสนามบินฮีทโธรว์ไปยังราชรัฐอัสตูเรียส แคว้นปกครองตนเองริมชายฝั่งทางภาคเหนือ ทรงร่วมปฏิบัติภารกิจกับพระราชบิดาและพระราชมารดา ในชุมชนคาดาเบโด ต่อจากนั้นทรงจัดงานฉลองวันสำคัญของพระองค์เอง

หลังจากนั้นก็เสด็จไปพักผ่อนกับครอบครัว ที่มาญอการ์อีกสองสัปดาห์ ก่อนจะเสด็จกลับไปคร่ำเคร่งกับการเรียนปีสุดท้ายของชั้นมัธยมฯ ปลาย ที่สหราชอาณาจักรต่อไป