เหตุเพราะ “ฌอง ปอล โกลติเยร์” นำภาพ ‘The Birth of Venus’ (กำเนิดวีนัส) ผลงานของ ‘ซานโดร บอตติเชลลี’ ซึ่งแขวนอยู่ในหอศิลป์อุฟฟีซีในฟลอเรนซ์ ไปใช้ในคอลเลกชันของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เขาต้องถูกฟ้องข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ความจริงแล้วดีไซเนอร์ฝรั่งเศสวัย 70 ปี เคยกลายเป็นข่าวพาดหัวไปเมื่อต้นปีนี้กับชุดเดรสเปลือย ที่เขาออกแบบให้กับนางแบบอิตาลี ‘มาเรียคาร์ลา บอสโคโน’ ไปเดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส คราวนี้เขาตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อไปเกี่ยวพันกับภาพผลงานของศิลปินอิตาลี เหตุของเรื่องเกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โกลติเยร์จัดโชว์ ‘Le Musée’ และคอลเลกชันแคปซูลของเขา ประกอบด้วยเสื้อผ้าต่างๆ ที่เขาพิมพ์ลายผ้าด้วยผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียง ส่วนหนึ่งของไลน์มีเสื้อและกางเกงที่พิมพ์ลายภาพจิตรกรรม ‘กำเนิดวีนัส’ ของ ซานโดร บอตติเชลลี
หอศิลป์อุฟฟีซีในฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานภาพวาดต้นฉบับ ได้ยื่นฟ้องห้องเสื้อของฝรั่งเศสต่อศาลฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ในอิตาลีมีประมวลกฎหมายว่าด้วยมรดกวัฒนธรรม ซึ่งระบุว่าผู้ที่ต้องการใช้ภาพที่เป็นสาธารณสมบัติ จะต้องได้รับอนุญาตและชำระค่าธรรมเนียมเสียก่อน แต่ดีไซเนอร์ฝรั่งเศส ได้นำภาพวาดของบอตติเชลลีไปใช้เป็นลายพิมพ์ผ้า โดยไม่ได้ขออนุญาตหรือจ่ายค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
ในจดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ของหอศิลป์อุฟฟีซีระบุว่า ทางหอศิลป์แจ้งไปที่ดีไซเนอร์ให้ระงับการขายคอลเลกชัน รวมทั้งระงับการเผยแพร่ภาพคอลเลกชันดังกล่าว หรือให้ยื่นขออนุญาตและชำระค่าธรรมเนียม แต่โกลติเยร์เมินเฉยต่อจดหมายแจ้งของหอศิลป์ ตามรายงานของสื่อ ค่าธรรมเนียมการใช้ภาพดังกล่าว เป็นจำนวนเงินตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นเท่านั้น ไม่ใช่จำนวนหลักล้าน
แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล แรงจูงใจจากภาพวาดที่โกลติเยร์นำไปใช้ตามอำเภอใจนั้น ก็จะมีค่าชดเชยเพิ่มขึ้นถึงหลักแสนยูโร ผู้อำนวยการหอศิลป์ยังติดค้างในใจด้วยว่า เป็นเรื่องแปลกที่โกลติเยร์ไม่ตอบจดหมาย “นักออกแบบแฟชั่นมักใช้ภาพวาดของเราอยู่เป็นประจำ ทางหอศิลป์ก็ไม่เคยจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของใคร ผลงานศิลปะของบอตติเชลลีเองก็มักถูกนำไปใช้บ่อย แต่ส่วนใหญ่ก็มักปฏิบัติตามกฎระเบียบ”
ฌอง ปอล โกลติเยร์ ได้ชื่อว่าเป็น ‘Enfant terrible’ เด็กแสบคนแรกของวงการแฟชั่นฝรั่งเศส ที่มักออกแบบเสื้อผ้าเรียกเสียงฮือฮาอยู่เสมอ ผลงานของเขามีอารมณ์ขัน สง่างาม และก้าวข้ามเรื่องเพศหรือเรื่องต้องห้ามต่างๆ แต่การถูกแขวนในคราวนี้ดูจะฮือฮาผิดแผกไปจากครั้งก่อนจริงๆ
Comments are closed.