World Celeb

ทัวร์ 5 คอกม้าของ 5 ราชวงศ์

Pinterest LinkedIn Tumblr


คอกม้าของราชวงศ์ต่างๆ มีไว้เลี้ยง ดูแล เพาะพันธุ์ม้าสำหรับใช้ในราชสำนัก ทั้งเป็นม้าเทียบรถพระที่นั่ง รวมทั้งม้าสำหรับมหาดเล็กหลวง

:: ราชวงศ์อังกฤษ


เรียกคอกม้าในพระราชวังบักคิงแฮมว่า รอยัลมิวส์ เดิมตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแยกแชริ่งครอส ก่อนจะย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังบักคิงแฮมตั้งแต่ทศวรรษที่ 1820


นอกจากม้าแล้ว ภายในรอยัลมิวส์ยังจัดแสดงรถม้าพระที่นั่ง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเปิดให้คนเข้าเยี่ยมชมได้ เช่นเดียวกับส่วนพระราชวัง ซึ่งผู้เข้าชมจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนและม้า รวมทั้ง รถม้าและรถยนต์พระที่นั่ง ทั้งองค์เก่าแก่และที่ยังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน


รอยัลมิวส์ มีมาตั้งแต่ปี 1534 หลังจากอาคารเดิมถูกไฟไหม้ จึงมีการสร้างขึ้นใหม่เป็นคอกม้า แต่ยังใช้ชื่อของอาคารเดิมว่า มิวส์ หลังจากสร้างใหม่ อาคารนี้ก็เรียกกันว่า คิงส์มิวส์ หรือคอกม้าของพระมหากษัตริย์ และบางทีก็เรียกว่า คอกม้าราชวงศ์ และคอกม้าของสมเด็จพระราชินี รอยัลมิวส์ ก่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 1732 ด้วยการออกแบบของวิลเลียม เคนท์ และเปิดให้เข้าชมในศตวรรษที่ 19


ในปี 1820 มหาดเล็กหลวงก่อกบฏ ด้วยการสนับสนุนของพระนางคาโรไลน์แห่งบรุนสวิค ที่พระเจ้าจอร์จ ที่ 4 ทรงหย่าขาด และนับเป็นการปิดตำนานของคอกม้าราชวงศ์ที่แชริงครอสไป โดยก่อนหน้านี้ พระเจ้าจอร์จที่ 3 ทรงเคยโปรดให้ย้ายม้าและรถม้าที่ทรงบ่อยๆ มาไว้ที่พระราชวังบักคิงแฮมอยู่แล้ว พระเจ้าจอร์จที่ 4 จึงโปรดให้ย้ายทั้งคอกมาอยู่ทางตอนใต้ของสวนในพระราชวังเสียเลย


อาคารใหม่ของคอกม้าราชวงศ์ ออกแบบโดย จอห์น แนช สร้างเสร็จในปี 1825ปัจจุบันมีม้าราว 30 ม้า พร้อมจัดแสดงรถม้าพระที่นั่ง รวมทั้งรถยนต์พระที่นั่งด้วย ใครไปเยี่ยมชม ยังจะได้เจอกับ นักขี่ม้า คนคุมรถม้า และคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

:: ราชวงศ์สวีเดน


สวีเดนเรียกคอกม้าราชวงศ์ว่า คุงลิกา ฮอฟสตัลเลต เป็นลักษณะเดียวกับคอกม้าราชวงศ์อังกฤษ คือ มีทั้งม้าและรถม้าพระที่นั่งของราชวงศ์สวีเดน ซึ่งทรงใช้ในวโรกาสสำคัญๆ ต่างๆ


คอกม้าราชวงศ์สวีเดน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1535 เดิมสร้างบนเกาะเล็กๆ ชื่อว่า เฮลกันด์สโฮลเมน ใกล้ๆ พระราชวังสตอกโฮล์ม แต่ปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่สตรันวาเกน ในเอิสเตอร์มัลม์ กลางกรุงสตอกโฮล์ม บริหารงานโดย คราวน์ อีเควร์รี ตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยกษัตริย์แห่งสวีเดน


คุงลิกา ฮอฟสตัลเลต เปิดให้สาธารณชนเยี่ยมชม ม้า 20 ม้า รวมทั้ง รถม้าและรถเลื่อนพระที่นั่ง กว่า 50 องค์ รวมทั้งรถยนต์พระที่นั่ง


ม้า 20 ม้า ในคอกม้าราชวงศ์สวีเดน คัดสรรเฉพาะม้าสีเบย์อิน (น้ำตาลแดง) และจะต้องมีความสูง 170 เซ็นติเมตร รวมทั้งต้องมีท่วงท่าสง่างาม พวกเขาจะได้รับการประคบประหงม ฝึกฝนอย่างดี เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้งานในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายของเมืองใหญ่ได้ ส่วนใหญ่จะต้องผ่านการฝึกฝนไม่ต่ำกว่า 2 ปี ก่อนนำมาใช้งานจริง

:: ราชวงศ์เดนมาร์ก


ราชวงศ์เดนมาร์กเรียกคอกม้าว่า เดอ คอนเกลิเก สตัลเด ที่อาศัยของม้าและรถม้าพระที่นั่งของสมาชิกราชวงศ์เดนมาร์ก ตั้งอยู่ที่พระราชวังคริสเตียนสบอร์ก บนเกาะสลอทโชลเมน กลางกรุงโคเปนเฮเกน ในปี 1789 มีม้าทั้งหมด 270 ม้า ปัจจุบันเหลืออยู่ 20 ม้า

แต่เดิม คอกม้าราชวงศ์เดนมาร์ก อยู่ในพระราชวังโคเปนเฮเกน โดยมีเส้นทางลับๆ จากที่ประทับของกษัตริย์คริสเตียนที่ 5 ไปยังคอกม้าเพื่อประทับรถม้าพระที่นั่ง


หลังจากขึ้นครองราชย์ในปี 1699 กษัตริย์เฟรเดอริค ที่ 4 ก็ทรงโปรดให้ขยายคอกม้าราชวงศ์ โดยสร้างอาคารสไตล์บาโรกให้ม้าอยู่ พร้อมทั้งมีตำแหน่งคราวน์ อีเควร์รี ประจำการ ใกล้ๆ กับคลองเฟรเดอริคโฮล์ม ปัจจุบันอาคารดังกล่าวเป็นที่ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรม


คอกม้าราชวงศ์เดนมาร์กปัจจุบัน สร้างในสมัยกษัตริย์คริสเตียนที่ 6 โดยการนำเอาคอกม้าราชวงศ์ชั่วคราวที่พระราชวังเฟรเดอริค พระราชวังชาร์ลอตเทนบอร์ก และพระราชวังโรเซนบอร์ก มารวมกับในอาคารที่ออกแบบโดยอีไลอัส เดวิด เฮาส์เซอร์ กับ นิโคไล อิกต์เวด ที่ใช้เวลาตั้งแต่ปี 1738 – 1745 ที่ออกแบบให้มีลานฝึกขี่ม้ารอบๆ ตัวอาคาร และในปี 1946 มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนเพิ่มความหรูหรา


ม้าในคอกของราชวงศ์เดนมาร์ก ผสมผสานระหว่างสายพันธุ์คลาดูเบอร์สจากสาธารณรัฐเชก และวอร์มบลัด ของเดนมาร์กเอง ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวเดนมาร์กมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19

:: ราชวงศ์สเปน


เรียกคอกม้าราชวงศ์ว่า คาบาเยริซาส เรยัล ตั้งอยู่ในกอร์โดบา แคว้นอันดาลูเซีย ตัวอาคารอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของเมือง ใช้เป็นที่เลี้ยงมาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อันดาลูเซียนที่ดีที่สุด


นับตั้งแต่รัชสมัยของกษัตริย์เฟลิเปที่ 2 ราวปี 1567 ได้มีการเพาะพันธุ์ม้าสายพันธุ์สเปนแบบมีมาตรฐานขึ้น ซึ่งคอกม้าราชวงศ์ก็ได้ก่อตั้งขึ้นที่กอร์โดบา โดยกษัตริย์เฟลิเปที่ 2 ได้ทรงมอบหมายให้ ดิเอโก โลเปซ เด อาโร อี โซโตมายอร์ สร้างคอกม้าขึ้นในที่ดินส่วนหนึ่งของป้อมปราการอัลคาซาร์ อาคารก็เลยออกมาในสไตล์ทหารๆ จากสภาพแวดล้อมที่เป็นป้อมปราการอยู่เดิม


โลโก้ของม้าจากคอกนี้ ประกอบด้วยตัว R (ราชวงศ์) ในตัว C (กอร์โดบา) และมีรูปมงกุฏ อยู่บนตัว C อีกที ปัจจุบันยังใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของม้าที่ผสมพันธุ์ไปจากกอร์โดบา

:: ราชวงศ์กาตาร์


อัล ชากับ ในกาตาร์ ใช้เป็นที่ฝึกม้าอาราเบียน โปรดให้สร้างโดยเชคฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล-ตานี ประมุขแห่งกาตาร์ในปี 1992 ก่อนที่จะกลายเป็นมูลนิธิในปี 2004


ร้อยๆ ปีก่อนที่จะค้นพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันปิโตรเลียม กาตาร์ เป็นดินแดนที่รุ่งเรืองร่ำรวยมาแต่ไหนแต่ไร พวกเขาเลื่องลือในเรื่องม้าอาราเบียน เมื่อบรรพบุรุษของอัล ตานีมาปกครองอาณาจักรกาตาร์ พวกเขายังคงรู้ซึ้งถึงคุณค่าของม้าอาราเบียนอยู่เสมอ


อัล ชากับ มาจากชื่อของสงครามที่พวกเขามีกับชาวออตโตมันในปี 1893 อันเป็นสงครามที่ทำให้พวกเขาได้เอกราชในทุกวันนี้


อัล ชากับ มีเนื้อที่ 980,000 ตารางเมตร สามารถบรรจุม้าได้ 400 ม้า เป็นอาคารทรงเกือกม้าที่ล้ำสมัยมาก มีทั้งที่เพาะพันธุ์และแสดงโชว์ม้า แถมยังมีที่พักระดับ 5 ดาว มีสนามสำหรับขี่ม้าข้ามเครื่องกีดขวางแบบติดแอร์ คอกม้าอีก 2 คอก มีคลับเฮาส์ที่มีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ห้องออกกำลังกาย สนามแข่งม้าในร่มและกลางแจ้ง ฯลฯ


หลักการของอัล ชากับ คือ การอนุรักษ์ม้าพันธุ์อาราเบียน ที่พวกเขาเชื่อว่าสวยงาม แข็งแรงปราดเปรียว และนิสัยดี ฝึกง่าย ซึ่งมีทั้งสายพันธุ์จากอียิปต์ และสายพันธุ์กาตารีแท้

Comments are closed.

Pin It