Interview

ทัวร์ยุโรปช่วงโควิดของ “ปัทม์ บุญเดช” แม้ต้องโดนกักตัวแต่นับว่าสุดคุ้ม!

Pinterest LinkedIn Tumblr


แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปทั่วโลกจะยังไม่มีที่สิ้นสุด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เซเลบสาวนักเที่ยวสุดสตรอง อย่าง “แก้ว-ปัทม์ บุญเดช” ท้อถอยในการเดินทางท่องเที่ยวแม้แต่น้อย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้เธอชีพจรลงเท้าอีกครั้ง มีเหตุให้ต้องไปทำธุระที่ประเทศอิตาลีถึง 18 วัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไหนๆ ก็ยอมเสี่ยงเดินทางไกลถึงยุโรปทั้งที เจ้าตัวจึงถือโอกาสไปเที่ยวชมธรรมชาติ ทั้งที่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส มอลตา แบบสุดแสนเอ็กซ์คลูซีฟ ไร้นักท่องเที่ยว แม้จะกลับมาเมืองไทยแล้วต้องเข้าสู่ระบบกักตัวถึง 14 วันก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ไม่หวั่น แถมยังแชร์ประสบการณ์กักตัวเพียงลำพังแบบไม่เหงาให้ฟังอีกด้วย


ถ้าอยากรู้ว่า 18 วันที่ยุโรปช่วงสถานการณ์โควิด-19 จะตื่นเต้นประทับใจแค่ไหน และช่วงกักตัวที่เมืองไทยไฮโซสาวสุดไฮเปอร์ จะมีกิจกรรมไหนทำให้คลายเบื่อได้บ้าง ตามมากันเลยค่ะ?

แก้วเล่าถึงสาเหตุที่ต้องไปต่างประเทศครั้งนี้ว่า มีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการที่อิตาลี ทำให้ต้องเดินทางในช่วงที่มีโควิดระบาดอย่างหนักในต่างประเทศ แต่โชคดีที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่พอผ่านเข้าอิตาลีแล้ว ไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเหมือนมาจากประเทศอื่น จึงทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“พอดีว่าพี่มีบริษัทอยู่ที่อิตาลีและมีธุระที่ต้องรีบไปจัดการ พี่จึงดำเนินการทำเรื่องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ในกรณีของพี่ค่อนข้างไม่ยุ่งยาก เพราะเราเป็นเจ้าของกิจการอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว และก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง ต้องทำการตรวจโควิด-19 ก่อน และด้วยความที่เรามีพาสปอร์ตจากประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสุดเรื่องมาตรการการป้องกันโควิด-19 พอไปถึงสนามบินปลายทาง เราก็ผ่านระบบทางการทูตตามปกติ และไม่ต้องกักตัวตามมาตรการสาธารณสุขของประเทศเขา เราจึงสามารถเช่ารถยนต์และเดินทางเข้าเมืองเขาได้ทันที”


เซเลบสาวนักเดินทางเล่าบรรยากาศที่ยุโรป ตั้งแต่ฝรั่งเศส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ มอลตา อัมสเตอร์ดัม บาเซโลน่าให้ฟังว่า ทั่งทั้งเมืองแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย จึงทำให้โรงแรมหรูๆ แต่ละแห่งที่เคยไปพักก่อนหน้านี้ ที่ราคาแสนแพง พากันลดราคากระหน่ำ ส่วนสนามบินหลายๆ แห่ง ก็ใช้ช่วงเวลานี้ปรับปรุงให้สวยงามขึ้น เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น

“ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองในยุโรปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จากที่เคยคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวแทบทุกตารางนิ้ว เหลือเพียงแค่ประชากรผู้พักอาศัยของเมืองนั้นๆ ร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ล้วนปิดกันหมด ที่สำคัญ แต่ละเมืองโรงแรมห้องพักราคาถูกมาก อย่าง โรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ สองห้องนอนเหลือคืนละไม่กี่พันบาทไทย แถมยังมีห้องทำครัว ที่ปิ้งย่างให้อีกด้วย และสนามบินอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น อัมสเตอร์ดัม และอีกหลายแห่งล้วนใช้เวลาช่วงนี้ปรับปรุงสนามบินกันใหม่ยกใหญ่ เพื่อเตรียมกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง”


แก้วยอมรับว่า แต่ละเมืองที่เธอไปเยือนครั้งนี้ ไม่ใช่การเดินทางไปครั้งแรก เพราะไปมาหลายรอบแล้ว แต่ที่ตื่นเต้นที่สุดคือ เป็นการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกจริงๆ ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย

“อย่าง บาเซโลน่า ปกติจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นแทบทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวชาวจีน แต่มารอบนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคนเดียว ทั่วทั้งเมืองเงียบมากร้านอาหารปิดหมดเงียบเหงาจนดูน่ากลัว แต่ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เราได้ชื่นชมความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างจุใจ ทั้งภูเขาน้ำแข็งที่สวิตเซอร์แลนด์ หรือรถไฟทั้งโบกี้มีแค่ 2 คน”


เดินทางท่องเที่ยวมาหลายเมือง แต่เห็นทีว่าเมืองที่ทำให้เซเลบสาวขาลุยประทับใจที่สุดคือ สาธารณรัฐมอลต้า ทางตอนใต้ของอิตาลี เพราะนอกจากจะเช่าเครื่องบินเหมาลำไปหาอาหารเลิศรสทานกันแล้ว ยังได้ไปพักที่วิลล่าเก่าแก่ที่สุดบนยอดเขา แม้ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ถึง 3 รอบก็ตาม แต่ก็ช่างคุ้มค่ายิ่งนัก

“ตอนที่ไปยุโรปไม่ว่าจะเป็นที่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส บาเซโลน่า ล้วนล็อกดาว์ประเทศกันหมด หลังสี่โมงเย็นร้านรวงต่างๆ ก็ปิดหมดแล้ว แต่วันที่เราไปมอลต้ายังไม่ล็อกดาวน์ ดังนั้น พี่กับเพื่อนๆ อีก 3 คน เลยตัดสินใจเช่าเครื่องบินเหมาลำบินไปเที่ยวมอลต้า 3 คืน 4 วัน เพื่อไปหาร้านอาหารอร่อยๆ รับประทานกันให้สมกับที่อยากรับประทาน ซึ่งพอเด็กเสิร์ฟในร้านเห็นพวกเราชาวเอเชียไปทานอาหารที่ร้าน ทุกคนดูตื่นเต้นมาก เพราะตั้งแต่มีโควิดระบาดแทบไม่มีชาวเอเชียมาเยือนที่นี่อีกเลย และเราก็ไปพักกันที่วิลล่าเก่าแก่บนยอดเขา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พี่เพิ่งเคยไป เป็นวิลล่าที่สวยมากเรียงตัวกันตามเชิงเขา ซึ่งวิลล่าเหล่านั้นเดิมทีเคยเป็นของมหาเศรษฐีชาวมอลต้า เป็นบรรยากาศที่สวยงามเย็นสบายที่สุด นับว่าเป็นสถานที่ประทับใจที่สุดของทริปนี้เลยก็ว่าได้”


เมื่อดื่มด่ำธรรมชาติจนจุใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับประเทศไทย แก้วบอกว่าต้องผ่านกระบวนต่างๆ มากมาย กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่ประเทศไทยได้ ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากแนะนำให้เดินทางออกนอกประเทศช่วงนี้ อดใจไว้รอให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง

“ก่อนกลับเมืองไทยสิ่งแรกที่ต้องมีคือ เอกสารสำหรับการจองสถานที่กักตัว 14 วันในประเทศไทย ต้องตรวจโควิดก่อนเดินทาง 2 ครั้ง คือตรวจก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง และตรวจที่สนามบินต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง รวมไปถึงต้องมีเอกสารการตรวจร่างกายจากคลินิกต้นทาง กลับมายืนยันที่สนามบินในประเทศไทยด้วย และเมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เราต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีรถของโรงแรมที่เราจองห้องไว้สำหรับกักตัว มารอรับที่สนามบินเพื่อพาไปส่งยังที่พักทันที จากนั้นเราก็จะต้องตรวจโควิดอีก 2 รอบทุก 48 ชั่วโมงภายในโรงแรม เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่มีเชื้อโควิด-19 อย่างแน่นอน”


เซเลบสาวนักเดินทางเล่าประสบการณ์การกักตัว ซึ่งคุณหนูอย่างเธอต้องจัดการชีวิตของตัวเองทุกอย่างให้ฟังว่า

“พี่เป็นคนไฮเปอร์มาก ดังนั้น ก่อนกักตัวเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เบื่อถึง 14 วัน จึงต้องเลือกห้องใหญ่ที่มีห้องนอนและห้องโถงแยกจากกัน เพื่อให้เรามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการดูซีรีส์ และมีพื้นที่หายใจ ส่วนช่วง 5 วันแรกของการกักตัว จะยังไม่มีแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดให้ เพราะต้องแน่ใจเสียก่อนว่าเราปลอดเชื้อจริงๆ ดังนั้น ช่วงนี้พี่ต้องทำงานบ้านเองกวาดพื้น เก็บที่นอน ล้างจานเองทั้งหมด แม้แต่กระทั่งเสื้อผ้าเราก็ต้องซักเอง มีเพียงแค่อาหารเท่านั้นที่สั่งจากข้างนอกมารับประทานได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะเป็นผู้นำมาไว้ให้ที่หน้าห้อง และเมื่อกักตัวครบ 5 วัน เราสามารถออกนอกห้องพักไปว่ายน้ำเดินเล่นที่บริเวณสระน้ำของโรงแรมได้ แต่ต้องจองคิวแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง”


ในความน่าเบื่อที่ต้องอยู่เพียงลำพังภายในห้อง ไม่สามารถพบปะสนทนากับเพื่อนฝูงได้นั้น ก็มีบางอย่างที่ทำให้ตกผลึกในชีวิตอย่างมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เธอจะไม่มีวันลืมเลย

“คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้อยู่กับตัวเองนานที่สุดขนาดนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เรียนรู้จักตัวเองมากขึ้น มีสมาธิและเวลาในการสะสางงานที่ค้างไว้ และตะหนักว่า ในชีวิตนี้เราต้องเรียนรู้และอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำงานบ้านเองเรายังต้องมาทำเลย ดังนั้น ชีวิตเราไม่มีอะไรที่แน่นอนจงอย่าประมาทกับการใช้ชีวิตก็เป็นพอ” เซเลบสาวเล่าปิดท้าย

ภาพจาก IG:Pat_boondej

Comments are closed.

Pin It