Interview

“อภิวุฒิ วุฒิชัย ณ อยุธยา” วิศวะจบใหม่ร้อนวิชา! ผนึกพลังสายวิทย์กับคุณพ่อสายติสต์

Pinterest LinkedIn Tumblr


ถึงจะเปลี่ยนสถานะจากนักศึกษามาชิมลางช่วยดูแลธุรกิจครอบครัว แต่ความชอบและไลฟ์สไตล์ของ “ลุค-อภิวุฒิ วุฒิชัย ณ อยุธยา” ลูกชายคนโตของ “ม.ล. อ๊าร์ต-อภิชิต วุฒิชัย” โดยเฉพาะ ความรักในกีฬาที่เหมือนกับคุณพ่อ และความหลงใหลในกระบวนการคิดที่เป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผลสไตล์หนุ่มวิศวะที่แม้จะฉีกแนวจากคุณพ่อที่เป็นสายอาร์ตเต็มตัวยังไม่เปลี่ยนแปลง ที่น่าสนใจคือ ความเหมือนที่แตกต่างนี้กลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของสองพ่อลูกอย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างรอรับปริญญาและเตรียมตัวไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศตามที่ตั้งใจ หนุ่มหล่ออนาคตไกลไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่เลือกเข้ามาช่วยงานคุณพ่ออย่างแข็งขัน


“เวลาพูดถึงวิศวะฯ อุตสาหการ หลายคนแปลกใจว่าเรียนจบมาแล้วทำอะไร ต้องไปคุมโรงงานหรือเปล่า จริงๆ แล้ว หน้าที่ของวิศวะแบบผมคือ เน้นการวางแผนการผลิตว่าจะผลิตอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด ดีต่อโรงงานที่สุด ลงลึกไปถึงงานระบบ สายการผลิตว่าขั้นตอนไหนใช้เวลาเยอะสุด แล้วพยายามไปแก้ตรงนั้น เพื่อให้การผลิตใช้เวลาผลิตน้อยที่สุด แต่ได้ผลผลิตออกมามากที่สุด”


อย่างไรก็ตาม ถึงจะตอบได้อย่างฉะฉาน แต่ลุคยอมรับแบบแมนๆ ว่า รู้ตัวมานานแล้วว่าอาชีพในฝันของเขาไม่ใช่การทำงานในสายวิศวะแบบที่ฉายภาพให้เห็น เพราะอาชีพในฝันของเขาตั้งแต่เด็กคือ อยากสร้างธุรกิจของตัวเอง

“ผมเลือกเรียนวิศวะฯ เพราะชอบเรียนวิชาฟิสิกส์ แต่ก็ไม่ได้อยากจะเป็นวิศวกรเต็มตัว เลยคิดว่าเลือกเรียนทางด้านวิศวะฯ ที่เอนมาทางสายบริหารจะเข้าทางกว่า เพราะอยากได้กระบวนการคิดที่เป็น Logic แบบวิศวะฯ ซึ่งสาขาที่ผมเรียนถือว่าตรงมาก ได้ทั้งระบบความคิด การจัดการ แก้ปัญหา”

ส่วนเรื่องธุรกิจลุคหมายมั่นว่า จะขอไปเติมความรู้ด้านบริหาร หรือการเป็นผู้ประกอบการตอนปริญญาโท แล้วค่อยกลับมาเริ่มต้นความฝัน

“เดิมทีผมวางแผนว่า ปลายปีนี้จะไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียก่อน แล้วปีหน้าค่อยไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ แต่พอเจอโควิด-19 เข้าไป เลยต้องปรับแผนนิดหน่อย เพราะด้วยสถานการณ์ทำให้ถึงจะเรียนจบตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เข้าพิธีรับปริญญา ได้แค่สวมชุดครุยไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก่อน ส่วนแผนเรียนต่อยังไม่เปลี่ยน เพียงแต่อาจจะต้องยืดเวลาไปเล็กน้อย คิดไว้ว่าอาจจะไม่ได้ไปเรียนภาษา แต่ไปเรียนต่อปริญญาโทเลย”


ถามว่าอนาคตสนใจธุรกิจด้านไหน หรือจะมาสานต่อธุรกิจคุณพ่อ ลุคตอบได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า อยากทำธุรกิจอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เพราะเป็นงานอดิเรกที่ชอบ มีคุณพ่อเป็นโค้ชส่วนตัวสอนเล่นทั้งฟุตบอลและเทนนิสมาตั้งแต่เด็ก

“ผมชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่ ป.1 ได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนตั้งแต่ ป.5 จนจบมัธยมปลาย พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังแบ่งเวลามาซ้อมอยู่เสมอ ส่วนเทนนิส ตอนเด็กๆ ได้ตีเทนนิสกับพ่อบ่อยมาก แต่หลังๆ พอทุ่มเทเวลาไปกับการเรียนและฟุตบอล ทำให้ไม่มีเวลาตีเทนนิสเหมือนเก่า ด้วยความรักในกีฬานี้เอง ผมเคยมีความฝันแบบเด็กๆ ว่า อยากเปิดสนามฟุตบอล หรือไม่ก็สนามแบตมินตัน เพราะไหนๆ เราก็เล่นอยู่แล้ว เปิดสนามเองเล่นเองแถมสร้างรายได้ด้วยน่าจะดี แต่พอโตขึ้นถึงความฝันยังอยู่ แต่ก็มองในภาพกว้างมากขึ้น

อย่างตอนนี้ผมสนใจไอเดียการทำธุรกิจของ ร้าน Ari ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์ แอกเซสซอรีของคนชอบฟุตบอล เขาเริ่มต้นจากเล็กๆ จนตอนนี้กลายเป็นว่า เวลานึกถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับฟุตบอล ทุกคนจะนึกถึงที่นี่ ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นไอเดียธุรกิจที่เป็นแรงบันดาลใจที่ดี น่าจะนำมาเอามาต่อยอด หรือแตกไลน์ไปกีฬาอื่น อย่าง บาสเกตบอล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ผมชอบ และเคยเจอประสบการณ์ตรงว่า อยากได้เสื้อบาสฯ แต่สั่งซื้อในเมืองไทยไม่มี ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเท่านั้น เลยคิดว่าตรงนี้เป็นช่องว่างในตลาดที่น่าสนใจ คิดไปไกลว่า ถ้าเรียนจบโทกลับมาแล้วยังไม่มีใครทำ ผมจะทำ” ลุคเฉลยไอเดียในใจแบบไม่กั๊ก และไม่หวั่นว่าจะมีใครตัดหน้าทำไปก่อน


อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้เริ่มเดินตามความฝันที่แน่วแน่ เวลานี้ลุคเลือกที่จะนำความรู้ที่มีมาช่วยงานคุณพ่อ เพื่อเก็บเกี่ยวชั่วโมงบินในโลกการทำงานก่อน ด้วยการเข้ามาช่วยดูแล วิมาลา สวีท ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 โดยคุณพ่อของเขาได้สร้างเป็นที่พักสุดยูนีค ให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์การพักผ่อนแบบ “Private Living Museum” ตลอดจน อาทิตย์ ธารา บ้านพักริมน้ำบางปะกงที่ได้ชื่อว่ามีวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดในปราจีนฯ และบ้านสวรรคโลก โฮมสเตย์ริมน้ำบางประกงที่เพิ่งเปิดให้บริการหมาดๆ

“ถามว่าทำอะไรบ้าง จริงๆ ตอนนี้ทำทุกอย่าง (หัวเราะ) แต่ส่วนใหญ่จะเน้นงานโอเปอเรชัน อย่างเวลาจะมีอีเวนต์ เราก็ต้องเข้ามาดูแลสถานที่ ตั้งแต่จำนวนแขกที่มา มีการ Room inspection ว่าห้องเรียบร้อยมั้ย หรือบางทีในส่วนที่ต้องมีการรีโนเวทเพิ่มเติม ผมก็จะช่วยเสนอไอเดียให้กับพ่อ”

หลังจากเข้ามาช่วยงานได้ประมาณ 1 ปี ผลงานชิ้นโบแดงที่ลุคแสนภูมิใจคือ การได้เข้ามาช่วยดูแลงานรีโนเวทที่ วิมาลา สวีท ที่สุขุมวิท 26 ซึ่งเคยรีโนเวทไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มีการทุบผนังบางส่วนเพื่อให้ห้องโล่งขึ้น ลุคก็ได้เข้ามาช่วยคุมงาน ประสานงานกับช่าง

“อีกผลงานที่เข้าไปมีส่วนร่วมเยอะเหมือนกันคือ บ้านสวรรคโลก ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เข้ามาช่วยพ่อ จำได้เลยว่าเดินถือแพลนสำรวจเลยว่าต้องติดไฟตรงไหนบ้าง ส่วนเรื่องงานออกแบบ ด้วยความที่พ่อจะเป็นสายอาร์ตมากกว่า เพราะฉะนั้น ไอเดียส่วนใหญ่มาจากพ่อ ผมจะเป็นแนวเอาสิ่งที่พ่อต้องการมาคุยกับช่าง”

ส่วน อาทิตย์ธารา ลุคบอกว่า เคยมีโอกาสมาเช็คอินตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกแปรงโฉมให้เป็นที่พักอย่างเช่นทุกวันนี้ “ผมมีโอกาสมาที่นี่ตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเลย จนตอนนี้มีห้องพัก 12 ห้อง หลายคนอาจมองว่า มาเช็คอินปราจีนบุรีไม่ค่อยมีอะไร แต่ผมว่าจริงๆ แล้วเป็นจังหวัดที่น่าสนใจมาก มีเสน่ห์ และสวยมากๆ”


นอกจากจะทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ แต่หากว่างเว้นจากการทำงานเมื่อไหร่ ลุคไม่เคยลืมที่จะเทเวลาให้กับกีฬาที่รัก อย่าง ฟุตบอลและแบดมินตัน

“ทุกอาทิตย์ต้องไปเล่นครับ ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว เพราะผมไม่เข้าฟิตเนส อย่างมากก็ซิทอัพ ไม่เล่นเวท เพราะคิดเองว่าถ้าตัวใหญ่หรือหนาขึ้นจะทำให้วิ่งช้าลง ซึ่งเวลาเล่นบอลผมเล่นตำแหน่งเป็นตัวปีกที่ต้องการทักษะคล่องแคล่ว วิ่งเร็ว เลยคิดว่าถ้าตัวใหญ่อาจจะทำให้ไม่พลิ้วเหมือนเดิม (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ผมเหมือนพ่อที่สุด จะมีแค่สกีซึ่งเป็นกีฬาที่พ่อชอบ แต่ผมไม่ถนัดจริงๆ เคยฝึกแล้วไม่ไหว ผมเลยเลือกที่จะเป็นคนขับเรือให้พ่อแทน (ยิ้ม)”

ส่วนงานอดิเรกอื่นๆ ลุคเริ่มจากความสนใจในแฟชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนหนุ่มรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ “ถ้าให้นิยามสไตล์ของตัวเอง ผมมองว่าไม่เชิงสตรีทจ๋า เพราะบางโมเมนต์ก็ชอบเสื้อผ้าแบรนด์ที่คัตติ้งเนี้ยบๆ ใส่แล้วช่วยเสริมบุคลิกเหมือนกัน นอกจากแฟชั่น งานอดิเรกของผมคือ การเป็นนักสะสม สมัยเด็กผมชอบสะสมเลโก้ แต่พอมีเยอะก็เริ่มหาที่เก็บยาก ตอนนี้เลยเบนเข็มมาสนใจพวกแบร์บริคและโมเดลฟิกเกอร์ที่เป็นเรซิน กำลังสนใจและอยากเริ่มสะสม อย่าง แบร์บริค ผมจะซื้อตามคาแรกเตอร์ที่ชอบ เช่น ถ้ามี สตาร์ วอร์ส ซื้อแน่นอน เป็นแฟนพันธุ์แท้ หรือถ้ามีตัวละคร ดีไซเนอร์ที่ชอบก็ซื้อแน่นอน แต่ถ้าเป็นโมเดลฟิกเกอร์เรซิน ผมจะซื้อตามตัวการ์ตูนที่ชอบ ข้อดีคือเราได้ต่อ ไม่ได้ซื้อมาสำเร็จเป็นชิ้นเลย”


สำหรับตัวการ์ตูนที่เป็นขวัญใจ ถึงจะดูทั้งวันพีช นารูโตะ ดราก้อนบอล แต่ที่หนึ่งในใจคือ วันพีช ซึ่งตราบที่ยังไม่จบก็ยังตามอ่านต่อไป “อย่างน้อยเรามีกำลังใจว่า ตอนนี้คนเขียนก็บอกว่ามาเกินครึ่งแล้ว (หัวเราะ) ผมก็ตามอ่านมาตลอด โดยผมเลือกที่จะซื้อการ์ตูนมาอ่านเป็นเล่มๆ แทนที่จะอ่านออนไลน์เป็นรายอาทิตย์แบบเพื่อนๆ เพราะบางทีอ่านทีละตอนแล้วลืม เลยชอบอ่านหนังสือออกมาทีละ 7 ตอน เดือนละเล่มบ้าง สองเดือนเล่มบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยถ้าจำไม่ได้ก็กลับมาอ่านซ้ำได้เรื่อยๆ”

อีกกิจกรรมที่เชื่อว่าคงเหมือนกับหลายๆ คน ในช่วงที่ใช้เวลาอยู่บ้านเยอะคือ ใช้เวลาอยู่หน้าจอดูยูทูบและ เน็ตฟลิกซ์

“ผมดูทั้งซีรีย์ฝรั่งและเกาหลี เรื่องที่เปิดโลกซีรีย์เกาหลีคือ ช่วงที่ซีรีย์ Descendants of the Sun ดังมาก น้องสาวก็มาแนะนำให้ดู หลังจากนั้นก็เลยดูซีรีย์เกาหลีมาเรื่อยๆ ครับ โดยส่วนใหญ่จะเลือกดูเวลาที่ต้องการคลายเครียด เพราะบางทีซีรีย์ฝรั่งที่ชอบดู มักจะดูแล้วเส้นเลือดปูด เป็นแนวหนักๆ ดูแล้วก็เครียดตาม(หัวเราะ) แต่ผมจะมีวินัยในการดูนะครับ จะดูแค่วันละ 1 ตอน เพื่อจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย” ลุคทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดี

Comments are closed.

Pin It