ไม่ทันไร “หนูนวล-สาริศา คชเสนี” ลูกสาวสุดที่รักของคุณแม่น้อยหน่า-เพ็ญสุภา คชเสนี ก็เรียนจบกลับมาอยู่ข้างกายคุณแม่เป็นที่เรียบร้อย แถมยังขอสานต่อแพสชั่นที่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยการเข้ามาช่วยงานคุณพ่อที่บริษัท Winnergy Medical ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
“จริงๆ ไม่ได้เรียนจบมาด้านการแพทย์หรือสายธุรกิจ แต่เรียนจบด้าน Anthropology (มนุษยวิทยา) จากสหรัฐฯ ตอนแรกเลยไม่ได้คิดว่าจะมาช่วยงานคุณพ่อ เพราะธุรกิจของคุณพ่อ เน้นไปสาย B2B ค่อนข้างไกลตัว จนกระทั่ง บริษัทของคุณพ่อมีไอเดียจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์มาจับกลุ่ม B2C มากขึ้น เลยมองว่าน่าสนใจ และอยากมาช่วยงานคุณพ่อ”
หนูนวลเล่าอย่างออกรสก่อนเสริมว่า อีกเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจมาช่วยงานคุณพ่อแบบไม่ลังเล เพราะตั้งแต่สมัยเรียนที่จิตรลดา เคยไปวัดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่แล้วเห็นห่อผ้าขาวที่บรรจุกระดูกเป็นของศพไร้ญาติ ถามไปถามมา ถึงรู้ว่าศพเหล่านี้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ก็รู้สึกสะเทือนใจ พอต่อมาได้มีโอกาสไปฝึกงานที่แผนกคัดกรองมะเร็งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก็ยิ่งอินกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่ยังไม่ได้มีโอกาสนำมาต่อยอด
“ด้วยความที่เรียนมาทางด้าน Anthropology ซึ่งจะหลอมรวมหลายศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งสังคมวิทยา ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ทำให้เราค้นพบว่า ถึงโลกยุคนี้จะไร้พรมแดนมากขึ้น สุดท้ายแล้ว เลนส์ในการมองโลกของคนเราไม่เหมือนกัน เรื่องเล็กๆ ที่คนในซีกโลกหนึ่งมองข้าม อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ของคนอีกซีกโลก เพราะคนเราเติบโตมาในวัฒนธรรม และการเลี้ยงดูที่แตกต่าง ซึ่งตอนที่เรียนเรามีแพสชั่นกับสิ่งที่เรียนมาก จนพอมาบวกกับสิ่งที่เคยเจอ ทำให้มีไอเดียว่าอยากจะทำอะไรสักอย่าง ที่สร้างอิมแพคกับโลกใบนี้”
จากแพสชั่นดังกล่าว ทำให้พอเห็นคุณพ่อจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์เอวา (AVA) ซึ่งมีสองผลิตภัณฑ์หลักคือ ผลิตภัณฑ์สำหรับตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูก HPV (กล่องสีเขียว) และผลิตภัณฑ์สำหรับตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่า 12 ชนิด (กล่องสีฟ้า) โดยทั้งสองแบบสามารถตรวจได้ด้วยตัวเอง และมีบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่และส่งหลอดเก็บตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจวิเคราะห์ได้สะดวก เลยอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันผลิตภัณฑ์เอวาให้เป็นที่รู้จัก
“เข้ามาทำได้เกือบปีแล้ว ตั้งแต่หลายๆ อย่างยังไม่ลงตัว เข้ามาช่วยดูภาพรวม ทำทุกอย่าง ตั้งแต่การยื่น อย. การตลาด การประชาสัมพันธ์ การดีลกับลูกค้า ตอนนี้ทีมที่ทำงานมีประมาณ 6-7 คน เราทำงานเหมือนสตาร์ทอัพ เวลาจะของบก็ต้องพิชเหมือนสตาร์ทอัพ ได้ Learning Curve เยอะมาก ทั้งเรื่องธุรกิจและการดูแลสุขภาพ หลายคนไม่รู้ว่า ผู้หญิงไทยเสียชีวิจเพราะมะเร็งปากมดลูกมากกว่าที่คิด ทั้งที่จริงๆ แล้วโรคนี้ถ้ารู้เร็วสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ ฉะนั้น การตรวจเพื่อให้รู้ตัวแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ทั้งนี้ การจะลดการเสียชีวิตได้ ไม่ใช่แค่มีอุปกรณ์ตรวจที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ในราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพ แต่การให้ความรู้กับสังคมก็สำคัญ หนูนวลจึงได้เพิ่มช่องทางในการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยใช้ชื่อว่า “เพศสุภาพ” ซึ่งมาจากคำว่า เพศ สุขภาพ และสุภาพ เพราะเป็นการให้ sex education อย่างสุภาพและเข้าใจง่าย โดยเริ่มจากอินสตาแกรม แล้วขยายไปเฟซบุ๊กและ Tiktok
“ด้วยเนื้องานที่ทำถึงจะไม่ง่าย แต่ตรงกับแพสชั่นมาก ทุกวันนี้เลยสนุกกับงานมาก อย่าง เพศสุภาพ ทำไปทำมาก็เป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่กว่าที่เราคิดไว้ สิ่งที่เราอยากเห็นคือ อยากให้คนที่ป่วยหรือเสียชีวิตเพราะมะเร็งปากมดลูกลดน้อยลง ไม่อยากให้มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งท็อปสามที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทย”
สำหรับข้อดีของการได้มาทำงานกับคุณพ่อ หนูนวลบอกว่าได้เรียนรู้หลายอย่างจากคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม และการร่วมงานกับคนนอกทีมที่อาจจะอายุมากกว่า การแพลนงานล่วงหน้า รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่สำคัญคือ เรื่องการตัดสินใจ คุณพ่อจะสอนให้เห็นถึงความสำคัญของการตัดสินใจว่า สำคัญกว่าผลลัพธ์ที่ออกมา เพราะบางครั้งผลลัพธ์ที่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราตัดสินใจดี แต่ถ้าการตัดสินใจที่ดี ย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี
“นอกจากเรื่องงานที่ตอนนี้ทุ่มให้เกินร้อย ถ้ามีเวลาว่าง จะอ่านหนังสือ เล่นพิลาทีส ว่ายนํ้า ทำอาหารหรือขนมให้ที่บ้านชิม หรือไปแฮงก์เอาท์กับเพื่อน อีกหนึ่งกิจกรรมที่ชอบมาคือ ขี่ม้า ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ทำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วหยุดไป เพิ่งกลับมาเริ่มขี่ใหม่ได้ 2-3 ปี และตอนนี้กำลังทำร้านเสื้อผ้าออนไลน์ชื่อ “Chirimoya designs” เป็นเสื้อผ้าแนว Hand Blocked Prints ทำเพราะคุณแม่ ป้าๆ น้าๆ ชอบใส่ เขาบอกว่าใส่สบายมากค่ะ ส่วนอนาคตคิดว่า ภายในสองปีถ้าทุกอย่างเข้าที่ก็น่าจะไปเรียนต่อ แต่ตอนนี้ขอเต็มที่กับการสั่งสมประสบการณ์การทำงานก่อนค่ะ” หนูนวลกล่าวทิ้งท้าย
Comments are closed.