Interview

"เอมี่ รพีพร" สาวเก่งเอไอเอ ห่วงอนาคตเด็กไทย ผลักดัน "สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี"

Pinterest LinkedIn Tumblr


คุ้นหน้าคุ้นตากันมานานสำหรับผู้หญิงเก่งอย่างคุณเอมี่ – รพีพร วงศ์ทองคำ สาวสังคมระดับแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหลังๆ เรามักจะเห็นเธอจากงานด้าน CSR เป็นส่วนใหญ่ ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย ที่ต้องดูแลภาพลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในองค์กร บวกกับต้องคอยเป็นแม่งานในการจัดงานเพื่อสังคมซึ่งเป็นพันธกิจหลักของ AIA ในการมุ่งช่วยเหลือและพัฒนาสังคม ชุมชน และคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ ต้องการเป็นผู้นำด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) และเมื่อไม่นานมานี้ AIA ได้จัดพิธีมอบรางวัลโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี (AIA Healthiest Schools Program) ปีที่ 1 ซึ่งนับเป็นโครงการใหญ่ระดับเอเชียของเอไอเอที่ประเทศไทยของเราได้มีส่วนร่วมด้วย วันนี้เราจึงมาอัปเดตโครงการใหญ่ในครั้งนี้ของเธอ


คุณเอมี่ เล่าถึงที่มาของโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี (AIA Healthiest Schools Program) ว่า “เป็นโครงการใหญ่ระดับเอเชียของกลุ่มบริษัทเอไอเอที่ริเริ่มขึ้นเป็นปีแรกในปี 2565 ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ตอบโจทย์พันธกิจ AIA One Billion ของเอไอเอ ในการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วเอเชีย ให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573 ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’

เอไอเอ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้คนหลายล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเราเล็งเห็นความสำคัญของการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน จึงได้จัดให้มีโครงการนี้ขึ้นเพื่อจุดประกายให้โรงเรียนใส่ใจและดูแลสุขภาพของนักเรียนมากขึ้นอย่างเป็นระบบแบบแผน เพื่อเป็นรากฐานของความสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งย่อมนำไปสู่สังคมสุขภาพดีในอนาคต

โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี จึงเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเยาวชน ในปีแรกมีประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วม คือ ประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง ไทย และเวียดนาม ส่วนปีต่อๆ ไปจะขยายโครงการไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย”


สำหรับรูปแบบของโครงการ เอไอเอได้จัดให้เป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้โรงเรียนจากทั่วทุกภูมิภาคและแบ่งแยกสังกัดสมัครเข้าร่วม ซึ่งแต่ละโรงเรียนได้มีโอกาสเข้าไปดาวน์โหลดสื่อการเรียนการสอนที่เราเตรียมไว้ให้ ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบของบทเรียน แบบฝึกหัด และวิดีโอสาระความรู้ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถนำไปเชื่อมโยงกับหลักสูตรให้กับคุณครูเพื่อนำไปปรับใช้กับแผนการสอนที่มีอยู่แล้ว สามารถนำไปต่อยอดใช้ได้ต่อหลังจบโครงการ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาด้านสุขภาพทั้งนักเรียน บุคลากรในโรงเรียน รวมถึงชุมชนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน

“รูปแบบของโครงการคือการแข่งขันกันส่งเสริมสุขภาพให้กับนักเรียน โดยเน้นหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง การมีสุขภาพใจที่ดี และการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน และนำเสนอวิธีการพัฒนาด้านสุขภาพที่แต่ละโรงเรียนร่วมกันทำ ซึ่งตรงนี้จะเป็นการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์รวมถึงแบ่งปันวิธีการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีภายในชุมชนให้กับผู้อื่นด้วย

โดยโรงเรียนที่ชนะทั่วทั้งภูมิภาคจะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของนักเรียนในแต่ละโรงเรียน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันด้านการศึกษาและสนับสนุนกิจกรรมด้านสุขภาพต่อไป”


นอกเหนือจากความภาคภูมิใจของแต่ละโรงเรียนที่ได้รับรางวัลจากโครงการนี้แล้ว โรงเรียนที่ชนะการแข่งขันทั้งในระดับประถมและมัธยมศึกษา ยังได้ไปร่วมเวทีการแข่งขันในระดับนานาชาติกับโรงเรียนที่ชนะเลิศจากประเทศออสเตรเลีย เวียดนาม และฮ่องกง ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย และต้องขอแสดงความยินดีกับโรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) โรงเรียนจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับประถมศึกษา (Regional Primary School Competition Winner) ในการแข่งขันในระดับนานาชาตินี้

ส่วนคุณเอมี่เอง ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย ที่ใกล้ชิดกับโครงการมาตั้งแต่ต้น เมื่อมีโรงเรียนจากทั่วประเทศให้ความสนใจโครงการมากมายจนทำให้โครงการครั้งแรกประสบความสำเร็จ ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานจึงแปรเปลี่ยนเป็นความปลื้มใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้

“ดีใจมากค่ะที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการดีๆ ที่เอไอเอมีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำเพื่อสังคม สำหรับในปีแรก ถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย มีโรงเรียนจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 260 แห่ง ซึ่งเอไอเอถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ได้ส่งต่อแนวคิดในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน เป็นการสร้างแนวคิดเชิงบวกให้ทั้งโรงเรียนที่ได้เข้าร่วมในปีนี้ และจุดประกายเรื่องสุขภาพให้กับโรงเรียนอื่นๆ ด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกความร่วมมือทั้งกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้โครงการในปีนี้ประสบความสำเร็จ โดยในปีต่อๆ ไปก็อยากให้มีโรงเรียนเข้าร่วมมากขึ้นอีก เพื่อให้ประเทศไทยของเราเป็นสังคมสุขภาพดีดังที่เอไอเอ ตั้งใจไว้”


หลังจบโครงการในปีแรกไปแล้ว คุณเอมี่และเอไอเอ ประเทศไทย คาดหวังให้เกิดแรงผลักดันเชิงบวกที่ทำให้เด็กๆ อยากมีสุขภาพดี ตลอดจนครูอาจารย์และบุคลากรในโรงเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับเด็กๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้

“สิ่งที่เอไอเอต้องการสื่อสารไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ คือความสำคัญของการปลูกฝังการดูแลสุขภาพของทุกคนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เราจึงเริ่มต้นปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก โดยผลงานที่แต่ละโรงเรียนส่งเข้ามาประกวดทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนและครูที่ร่วมกันคิดโครงการดีๆ ขึ้นมา มีหลายโครงการที่เรามองว่าสามารถต่อยอดไปช่วยพัฒนาชุมชนในด้านอื่นได้ด้วย ทำให้ความคาดหวังของเราไปไกลกว่าเดิม เพราะเมื่อเกิดการส่งต่อแนวคิดดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จะเกิดผลดีในระยะยาวกับสังคมไทยแน่นอน”


สุดท้ายคุณเอมี่ยังฝากถึงโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี (AIA Healthiest Schools Program) ที่เอไอเอ เตรียมจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ไว้ด้วยว่า “อยากให้ทุกโรงเรียนมีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพราะนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนแล้ว ยังเป็นกิจกรรมสร้างความสามัคคีในโรงเรียนและชุมชนที่ทุกคนจะต้องภาคภูมิใจเมื่อทำได้สำเร็จ”

สำหรับโรงเรียนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “AIA Healthiest Schools – สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี” ปีที่ 2 สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ ahs.aia.com/th/th/ ซึ่งจะเริ่มเปิดรับสมัครพร้อมดาวน์โหลดสื่อการเรียนการสอนได้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

Comments are closed.

Pin It