Interview

"หนูเต่า" แสนรู้ ความสุขเนิบๆ ของ “บดินทร์ พลางกูร"

Pinterest LinkedIn Tumblr


ด้วยความที่เป็นหนุ่มโสด เมื่อคิดจะหาสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา “ต้น-บดินทร์ พลางกูร” อินทีเรียหนุ่มแห่ง Context Studio เลยไม่มั่นใจว่า จะสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงที่ต้องการเวลาและความเอาใจใส่จากเจ้าของได้เพียงพอหรือไม่ ดังนั้น สัตว์เลี้ยงที่เขาเลือกจึงลงเอยที่ “เต่าซูคาต้า” ซึ่งได้ชื่อว่าเลี้ยงง่าย แถมอายุยืนอีกด้วย

“ตัวนี้ผมไปซื้อที่จตุจักรครับ ตอนไปซื้อ ก็พยายามเลือกตัวที่ดูแข็งแรง สีสวย ตอนแรกที่ซื้อมา “หนูเต่า” (ชื่อที่ต้นตั้งให้) ขนาดตัวเล็กเท่ากล่องไม้ขีด เลี้ยงมาจนตอนนี้หนักเกือบ 20 กิโลกรัม ตอนที่ซื้อมา รักมาก เลี้ยงไว้ในห้องนอนเลย โดยหามุมสำหรับวางกระบะเพื่อเป็นที่อยู่ของหนูเต่า แล้วก็มีไฟไว้ฉายเพื่อให้ความอบอุ่น เพราะด้วยความที่เต่าเป็นสัตว์เลือดเย็น กลางวันต้องได้รับความร้อนเพื่อให้ระบบภายในร่างกายยังสามารถทำงานได้ตามปกติ”


เลี้ยงมา 6 ปี ต้นบอกว่า เพิ่งไม่กี่เดือนนี้เอง ที่เขาตัดสินใจย้ายบ้านให้หนูเต่า ซึ่งตอนนี้ขนาดตัวห่างจากคำว่าหนูลิบลับ

“ตอนนี้หนูเต่าตัวใหญ่ขึ้น ขนาดกระบะที่เคยอยู่ในห้องนอน จากที่ขยายขึ้นเรื่อยๆ จนกินพื้นที่ 1 ใน 3 ของห้องนอนต้น ก็เริ่มไม่พอ พอต้นมีไอเดียทำออฟฟิศอยู่ในรั้วบ้าน เลยถือโอกาสใช้สเปซที่เป็นสนามหญ้าข้างๆ ทำเป็นบ้านใหม่ของหนูเต่า ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้หนูเต่าได้มาใช้ชีวิตเอาต์ดอร์”


ถามว่าความสุขของการเลี้ยงเต่า สัตว์เลี้ยงที่แสนยูนีค ไม่ได้มีโมเมนต์ขี้อ้อน หรือมุ้งมิ้งกับคนเลี้ยง คืออะไร?

ต้นตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “จริงครับ เต่าไม่ได้เป็นสัตว์ที่ให้ความสุขเชิงอีโมชันแนลได้ แต่มันก็น่ารักในแบบของมัน โดยเฉพาะ เรื่องความมุ่งมั่น ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว จะเห็นว่ามันจะพยายามทำจนสำเร็จ ส่วนใหญ่เวลาต้นคิดงานไม่ออก ก็จะพาหนูเต่ามาเดินเล่น หรือบางครั้งแค่นั่งมองหนูเต่าเดินเล่นไปทั่วสนาม ก็มีความสุขแล้ว แต่ในเรื่องความแสนรู้ มีบางครั้งที่ต้นเรียกมันก็มานะ เพราะว่าจำต้นได้ว่าเป็นคนที่ให้อาหารมัน เวลามันหิวก็เดินมาหา ต้นว่าเต่าเป็นสัตว์ที่ฉลาด ที่สำคัญเชื่อง สามารถอุ้มได้”


ถ้าให้นิยามความผูกพันของต้นกับหนูเต่า “ต้นว่าเลี้ยงแล้วก็ผูกพัน เหมือนเราโตมาด้วยกัน จริงๆ ด้วยธรรมชาติของมัน สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 80 ปีเลย อายุยืนกว่าคนเลี้ยงอีก ซึ่งต้นก็วางแผนไว้ในใจแล้วว่า ถ้าวันหนึ่งต้นต้องจากไปก่อน นอกจากมรดกที่คิดว่าจะยกให้หลานๆ อยู่แล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีลูกของตัวเองหรือเปล่า (หัวเราะ) หนูเต่าเองก็เป็นหนึ่งในมรดกที่จะส่งต่อให้หลานๆ แน่นอน

ต้นมีทั้งหลานชายและหลานสาว ให้เขาตัดสินใจกันเองว่าใครจะรับไปดูแล แต่ถ้าให้ประเมินตอนนี้น่าจะเป็นหลานชายมากกว่า เพราะเขาออกแนวรักธรรมชาติ”


สำหรับอนาคตอันใกล้ ต้นวางแผนในใจไว้ว่า จะหาภรรยาให้หนูเต่า ซึ่งก็ยังต้องอาศัยการหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเดี๋ยวนี้คนหันมาเลี้ยงเต่ากันมากขึ้น จึงอยากจะเลี้ยงให้ถูกวิธี เพื่อไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติของสัตว์

“ผมอยากเห็นมันมีลูก อยากเห็นโมเมนต์ตอนไข่เต่าตอนฟักออกมาเป็นตัว แต่ก็คงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะต้องรอหนูเต่าครบ 10 ขวบก่อน เพราะฉะนั้น ตอนนี้ยังมีเวลาครับ” ต้นทิ้งท้าย

Comments are closed.

Pin It