"เบญญา นันทขว้าง" พิษโควิดทำแคเทอริ่งพัง จึงต้องหันมาขายอาหารกล่องพรีเมี่ยม

สถานการณ์โควิด-19 ไม่เพียงทำให้อีเวนต์ใหญ่หายไปในพริบตาเท่านั้น กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับงานอีเวนต์ อย่าง การจัดอาหารนอกสถานที่ หรือ แคเทอริ่ง ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยไม่น้อยเช่นกัน เพราะเมื่องานอีเวนต์ถูกยกเลิกงานบริการอาหารในงานก็ต้องถูกยกเลิกตามเช่นกัน แต่สำหรับ “เบญญา นันทขว้าง” ผู้บริหารร้านอาหารสไตล์เท่ๆ และอร่อยล้ำ อย่าง “ไวท์ คาเฟ่” (White Café) ที่รับจัดแคเทอริ่งนอกสถานที่ แม้จะได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงทุกวันนี้ เธอก็ยังคงหยัดยืนต่อสู้กับไวรัสร้ายอย่างกล้าหาญ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งมันจะดีขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนจากการให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ มาเป็นการทำอาหารกล่องสุดแสนพรีเมียมราคาสู้โควิด ที่ใครหลายคนก็สามารถลิ้มชิมรสอาหารของ “ไวท์ คาเฟ่” ได้

เบญญาเล่าว่า ก่อนที่จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหนึ่งเดือนเธอมีงานจัดเลี้ยงบริการอาหารนอกสถานที่มากกว่า 20 งาน แต่ตั้งแต่ต้นปี 63 จนมาถึงปัจจุบันนี้ งานถูกยกเลิกไปทั้งหมด ทำให้เธอจำใจต้องลดพนักงานของร้านลงไปถึงครึ่งหนึ่ง เพื่อประคองร้านให้ไปต่อ

“ช่วงก่อนที่งานอีเวนต์ในประเทศไทยบูมๆ แคเทอริ่งเรารับงานเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20-30 งาน พนักงานแทบไม่ได้หยุดพักกันเลย แต่พอมาเจอโควิดตั้งแต่มกราคม ปี 63 งานบริการจัดเลี้ยงตามงานอีเวนต์ก็ถูกยกเลิกไปหมด แรกๆ เราก็ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ก็ยังพอประคับประคองกันได้อยู่บ้าง แต่โควิดมันอยู่นานกว่าที่เราคิด ดังนั้น เราจึงต้องลดพนักงานในส่วนของแคเทอริ่ง และบางส่วนถ้าใครอยู่ต่อก็แบ่งไปช่วยงานภายในร้านอาหาร”

ขณะที่ งานรับบริการจัดอาหารที่มีคิวยาวเหยียด มีอันต้องถูกยกเลิกไปอย่างไม่มีกำหนด ร้านอาหารก็ถูกสั่งปิดชั่วคราวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงทำให้ผู้บริหารคนเก่ง แห่ง ไวท์ คาเฟ่ อยู่เฉยไม่ได้ เขาจึงลุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์สู้โควิด ด้วยการรับบริการทำอาหารกล่องจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และเปิดเป็นป๊อปอัพเล็กๆ ในศูนย์การค้าร่วมกับร้านโซดา เพื่อขายอาหารให้พอมีรายได้เข้ามาจุนเจือพนักงานที่เหลืออยู่

“เรามีพนักงานอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล ในขณะที่รายรับไม่มีเลย แต่รายจ่ายเท่าเดิม พี่จึงต้องมาคิดหาแนวทางเพื่อหาช่องทางในการขายอาหารให้มากที่สุด ดังนั้น เราจึงทำอาหารที่มีจำหน่ายในร้านเป็นเซ็ตอาหารกล่องขายผ่านทางเดลิเวอรี่ อย่าง ไลน์แมน ซึ่งเราก็ลดราคาอาหารให้ถูกลงเพื่อให้ทุกคนสามารถซื้อไปรับประทานได้ แต่เรายังคงเน้นคุณภาพของอาหารเหมือนเดิม และทำ Snack box ในราคาพิเศษ สำหรับงาน 15 คนขึ้นไป เฉพาะลูกค้าที่พรีออเดอร์เท่านั้น ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมกับร้านโซดา เปิดเป็นป๊อปอัพเล็กๆ ขายอาหารของไวท์ คาเฟ่ ในศูนย์การค้า ซึ่งพอเปิดได้สักพักก็ต้องปิดเนื่องจากห้างสรรพสินค้าถูกสั่งปิดชั่วคราว แต่ช่วงที่เปิดขายก็มีลูกค้าที่ส่งผ่านเดลิเวอรี่มากพอควร แต่ก็ยังไม่เท่ากับที่เปิดให้นั่งรับประทานในร้าน”

อีกหนึ่งช่องทางในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของเบญญา ในช่วงที่ร้านอาหารและแคเทอริ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือรับบริการทำอาหารกล่อง เพื่อมอบเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ด่านหน้า แม้ราคาจะได้ต่อกล่องไม่สูงมากนัก แต่เธอคิดว่าส่วนหนึ่งอาหารของ ไวท์ คาเฟ่ ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ อีกทั้งยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์

“ด้วยความที่พี่มีเพื่อนฝูงค่อนข้างเยอะ เขาก็จะรวมกลุ่มกันส่งเงินมาให้เราทำข้าวกล่องในนาม ไวท์ คาเฟ่ เพื่อนำไปมอบเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ที่ทำหน้าที่ด่านหน้าในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงส่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่สถานีกลางบางซื่อเป็นประจำทุกวัน ซึ่งรับทำอาหารกล่องในราคาทุน เพราะอย่างน้อยชื่อแบรนด์อาหารของเราก็ยังอยู่ไม่ไปไหน ยังมีคนจดจำได้จากอาหารกล่อง เมื่อเหตุการณ์กลับคืนสู่ปกติแล้ว ไวท์ คาเฟ่ ก็จะยังคงอยู่ในหัวใจของลูกค้าเหมือนเดิม ที่สำคัญ เราเองก็ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย”

เบญญาเล่าว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ไม่ได้เกิดแค่ในประเทศไทยแต่ระบาดไปทั่วโลก ฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนทำได้คือ ต้องร่วมมือร่วมใจกันฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้ อย่ายึดถือว่าเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่จะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

“ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราไม่ควรโทษว่าเป็นความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกต่างต้องเผชิญและต้องอยู่กับมันให้ได้ เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน แบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทำจิตใจให้แจ่มใส ตั้งสติและหาวิธีรับมือกับปัญหา และทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี ไวรัสนี้คงไม่มีทางหมดไปจากโลกแต่เราต้องเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้” เบญญาสรุปทิ้งท้าย