Interview

“บ้านปลอดภัย” ของ ม.ล. รจนาธร ณ สงขลา ที่ไหนๆ ก็ไม่อบอุ่นใจเท่าแผ่นดินเกิด

Pinterest LinkedIn Tumblr


เพราะไม่มีที่ไหนสุขใจเท่ากับถิ่นบ้านเกิดแผ่นดินแม่ “แคนดี้-ม.ล. รจนาธร ณ สงขลา” พระราชปนัดดาในรัชกาลที่ 5 ราชนิกุลหญิงที่เกี่ยวพันกับ 4 ราชสกุล (จิรประวัติ, โสณกุล, นพวงศ์และกุญชร) ซึ่งเธอมีศักดิ์เป็นเหลนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ซึ่งเติบโตแบบไทยๆ ในวังบ้านหม้อ เป็นธิดาคนที่ 4 ของ ม.ร.ว. วัฒนาธร จิรประวัติ และรจนา ไรซ์ ที่ผันตัวเป็นนักออกแบบจิวเวลรีชื่อดังระดับนานาชาติ ตัดสินใจย้ายจากประเทศอังกฤษกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร


“บ้านปลอดภัย” ที่ตั้งอยู่กลางใจมหานครเมืองใหญ่ย่านธุรกิจ อย่าง สาธร จึงกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อผู้เป็นเจ้าของบ้านกลับมาปักหลักและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดไป


“เมื่อก่อนดี้จะเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านที่ประเทศอังกฤษและที่บ้านปลอดภัย แต่พอลูกชายใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ เราจึงตัดสินใจจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร เพราะเราต้องปล่อยให้เขาต้องรู้จักรับผิดชอบและทำอะไรเองบ้าง”


แคนดี้เล่าว่าบ้านปลอดภัยหลังนี้มีอายุมากกว่า 90 ปี เป็นบ้านเดิมที่เธอได้รับมรดกตกทอดมาจากคุณปู่คุณย่า ลายคนอาจมองว่าบ้านอายุ 90 ปียังไม่เก่ามาก แต่สำหรับบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางความเจริญของกรุงเทพมหานครนั้น ทำให้เจ้าของบ้านต้องแทบรื้อบ้านใหม่หมดทั้งหลังเลยก็ว่าได้ เพื่อตกแต่งให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยคนใหม่ แต่ยังคงความเป็นบ้านโบราณหลังเดิมของคุณปู่คุณย่าไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว


“บ้านหลังนี้อายุ 90 กว่าปีแล้วค่ะ จริงๆ แล้วก็ไม่นานนะคะเพราะบ้านที่เมืองนอกอายุหลายร้อยหรือเป็นพันปีก็เยอะ แต่สำหรับกรุงเทพฯ 90 กว่าปีถือว่านาน เพราะกรุงเทพฯ เพิ่งอายุแค่ 200 กว่าปี แต่กรุงเทพฯ ก็เป็นเมืองที่เจริญเติบโตเร็วมีการก่อสร้างใหม่ๆ พอเรากลับมาเปิดบ้านดี้ก็ลงมือเลยค่ะ ทาสี ซ่อมแซม จัดบ้านใหม่หมด เดิมเป็นเหมือนบ้านโบราณ ของเก่าเยอะมาก ตอนหลังเอาของเก่าแบ่งให้น้องไปเลยมีของใหม่ๆ เข้ามาแต่งบ้านบ้าง เช่น งาน sculpture ที่เป็นโมเดิร์นอาร์ตสไตล์เรา แล้วก็ทำห้องเป็นสีโน้นสีนี้ให้มันเป็นเรา เราอยู่เราก็อยากให้เป็นเรา ตอนแรกคุณปู่คุณย่าทำไว้ก็สวยคลาสสิกโบราณทุกจุดท่านเนี้ยบมาก แต่พอดี้มาอยู่เองของเก่าก็น้อยลง มีของโมเดิร์นเข้ามาเลยกลายเป็นคอนเทมโพรารี ไม่ได้คลาสสิกเสียทีเดียว แล้วดี้เป็นคนชอบเรื่องสี ทีนี้ก็เลยเอาใหญ่ เลยต้องมีพรมที่มีสี ชอบลายมีสีแมตช์กัน”


บ้านปลอดภัยนี้นอกจากให้ความอบอุ่นร่มรื่นแก่ผู้พักอาศัยแล้ว ยังดูสนุกสนานและชวนมองไปเสียทุกซอกมุม เพราะเจ้าของบ้านรักและชื่นชอบงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น ทุกมุมของบ้านจะมีรูปวาดงานศิลปะแขนงต่างๆ ไว้อวดโฉมรอต้อนรับผู้มาเยือน ให้มีความสุขไปกับภาพวาดสีสันสวยงาม อันสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกของเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน


“ดี้จำได้พอเริ่มหาเงินเองได้สิ่งแรกที่สะสมคือ ซื้อรูป ดี้สะสมรูปมาตลอดชีวิตจนบ้านดี้ทุกบ้านเกือบจะทุกกำแพงแทบไม่มีที่ว่าง ดี้รักรูปรักงานศิลปะทุกรูปแบบดี้ไม่มีข้อจำกัดความงามของงานศิลปะ ดี้ชอบในความแตกต่าง ชื่นชมในความเป็นตัวเอง และถ่ายทอดออกมาในงานของแต่ละคน” แคนดี้อธิบายถึงรูปวาดที่เธอสะสมไว้ทุกซอกทุกมุมของบ้าน


พอว่างจากงานออกแบบจิลเวลรี ที่แคนดี้ยังคงถ่ายทอดความงดงามของศิลปะลงบนเพชรเม็ดงามให้ลูกค้าได้ประทับใจ และภูมิใจในชิ้นงานแบบลิมิเต็ดเอดิชัน อีกหนึ่งมุมของบ้านที่เธอมักจะมานั่งทอดอารมณ์ในวันหยุดสบายๆ คือ การทิ้งตัวลงบนโซฟาหนานุ่มในห้องรับแขก แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมดาโลก


“ถ้าถามว่าบ้านของดี้คือที่ไหน ก็ต้องบอกว่าบ้านปลอดภัยและบ้านอัลบาม่าที่ลอนดอนค่ะ มันเป็นชีวิตเรียบง่ายธรรมดา แต่มีความสุขมาก ถึงตอนนี้ที่ชีวิตเราผ่านอะไรมาพอสมควร ดี้คิดว่าอะไรๆ ก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่โตในชีวิตอีกต่อไปแล้วค่ะ” แคนดี้ทิ้งท้ายไว้พร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นในจิตใจ

IG : rojanatorn_na_songkhla

Comments are closed.

Pin It