เข้าหน้าร้อนคราใด หนึ่งในเมนูที่หลายคนนึกถึง หนีไม่พ้น “ข้าวแช่” อาหารชาววังของไทยแต่โบราณ ที่แต่ละตระกูลใหญ่ทำกินเป็นประจำ ด้วยข้าวแช่ในน้ำเย็นที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ไทยนานาชนิด กับเครื่องเคียงที่ปรุงอย่างประณีต แสดงออกถึงความงามเพียบพร้อมของไทยแล้ว ยังช่วยดับอุณหภูมิแถมยังอร่อย
ปัจจุบันไม่ค่อยได้เห็นบ้านไหนทำกินเองแล้ว เพราะยุ่งยาก หลายขั้นตอนจึงมักจะซื้อหารับประทานกันมากกว่า แต่ละร้านต่างๆ ทั้งร้านอาหารไทยมีระดับ หรือร้านในโรงแรมหรูทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันทำเมนูพิเศษนี้เสิร์ฟแข่งกัน แถมยังก้าวข้ามไปถึงการพัฒนานำเอาตำรับข้าวแช่ ไปทำเป็นสูตรสปากันเลยทีเดียว
เริ่มจาก สูตรสปาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวแช่ ของ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ กับ “ข้าวแช่ เทอราพี” แพกเกจสปา 90 นาที ที่ผสมผสานกลิ่นหอมจากพืชพรรณธรรมชาติ เข้ากับคุณสมบัติพิเศษของข้าว และการนวดที่พิถีพิถัน เริ่มจากการขัดผิวด้วยสครับข้าวหอมมะลิ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จากนั้นนวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันรำข้าวกลิ่นข้าวหอมมะลิ อุดมไปด้วยวิตามินบีและสารบำรุงผิวมากมาย เป็นการช่วยบำบัดผิวพร้อมกับผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แพกเกจนี้ให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน เช่นเดียวกับเทศกาลข้าวแช่ คือตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายนเท่านั้น
ส่วนถ้าใครอยากรับประทานข้าวแช่แสนอร่อย ก็ต้องลองเลือกชิม เพราะแต่ละร้านแต่ละตระกูล ล้วนคิดค้นสูตรต้นตำรับในแบบของตัวเอง แตกต่างกันไป อย่าง “ข้าวแช่ตำรับวังเทวะเวสม์” ที่ปัจจุบันได้ ม.ล. ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือเชฟป้อมคนเก่ง กูรูด้านอาหารไทย ทายาทวังเทวะเวสม์โดยตรง สานต่อความอร่อยที่แสนพิเศษ อย่าง การใช้ปลาช่อนแห้งผัดกับน้ำตาล โดยใช้ปลาช่อนแดดเดียวมาทำ หรือ หัวหอมสอดไส้ ที่ต้องใช้หัวหอมก้านยาว แตกต่างจากตำรับอื่นๆ โดยทุกปีเชฟป้อมจะทำขายแบบเดลิเวอรี่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ทั้งยังเปิดคลาสสอน เผยแพร่สูตรข้าวแช่แบบดั้งเดิม ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้กันอีกด้วย
ถัดมาเป็น “ข้าวแช่ตำรับวังศุโขทัย” ที่ ร้านท่านหญิง ถนนประมวญ เป็นตำรับหม่อมเจ้าหญิงสุลัภวัลเลง วิสุทธิ (พระขนิษฐาต่างพระมารดาของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7) ที่สืบทอดมายัง คุณชายแจ๊ค-ม.ร.ว. โสรัจจ์ วิสุทธิ บุตรชายคนเล็ก สูตรนี้ทำสดใหม่ทุกวัน โดยน้ำลอยดอกมะลิจะต้องทำล่วงหน้าหนึ่งคืน เพื่อความหอมกรุ่น และเครื่องกับข้าวทุกอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน พริกหยวกสอดไส้คลุมหรุ่มมีไส้ทั้งหมูและกุ้ง ส่วนลูกกะปิก็ต้องใช้กะปิจากจันทบุรี
ด้าน “ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย” ก็ยึดตามธรรมเนียมชาววังแท้ๆ คัดสรรวัตถุดิบ เครื่องปรุงเครื่องเคียงต่างๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน แถมมีเครื่องเคียงหลากหลาย ทั้งเครื่องทอด อย่าง พริกหยวกสอดไส้ห่มแพไข่รังบวบ พริกชี้ฟ้าแห้งสอดไส้ปลากะพงชุบทอด หมูกุเลา แป้งกรอบสอดไส้ไชโป๊วผัดไข่ เครื่องทอดอย่าง ลูกกะปิทอด และแนมด้วยหมูฝอยหวานเค็ม แถมเครื่องหวาน อย่าง ปลายี่สนผัดหวาน และไชโป๊วผัดหวาน พร้อมผักแนมที่แกะสลักอย่างประณีต มาพร้อมข้าวหอมมะลิที่หุงแบบโบราณ นำไปขัดจนได้เมล็ดข้าวสวยใส พร้อมด้วยน้ำข้าวแช่อบร่ำจากดอกไม้นานาชนิด มีให้บริการถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น
สำหรับเมนูข้าวแช่ที่หารับประทานได้ง่ายช่วงหน้าร้อน เพราะมีสาขามากมาย ต้องยกให้กับ “ร้านเอส แอนด์ พี” ที่นอกจากจะมีเครื่องเคียงครบครันแล้ว ยังเลือกเป็นข้าวสีฟ้าจากน้ำดอกอัญชัน ให้ความสวยไปอีกแบบ หรืออย่างพริกหยวกสอดไส้ ก็เลือกใช้ไส้ปูจ๋า เป็นเนื้อไก่ผสมเนื้อปู ที่ไม่เหมือนใคร เพราะปกติมักใช้หมูกับกุ้ง ทำให้เป็นข้าวแช่รสชาติหนึ่งเดียว ให้บริการถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ ร้านนารา, จิม ทอมป์สัน, รอยัล โอชา, บ้านขนิษฐา และร้านอาหารไทยในโรงแรมระดับห้าดาว ก็ล้วนมีเมนูสุดพิเศษสำหรับฤดูร้อนนี้ ให้ลองลิ้มชิมความอร่อยกันถ้วนหน้า
Comments are closed.