"เต่า" เทรนด์สัตว์เลี้ยงใหม่ ความสุขแบบสโลว์ไลฟ์ แถมอายุยืน!?

ปกติ​แล้ว​เราจะเห็นภาพสัตว์เลี้ยงตัวโปรดคู่กายคนดัง เป็นสารพัดสัตว์หน้าขน อย่าง สุนัข แมว ที่น่ารักน่าชัง นุ่มนิ่ม อุ้มได้ กอดสะดวก แต่ตอนนี้มีอีกหนึ่งเทรนด์สัตว์เลี้ยง ที่เหล่าเซเลบริตีกำลังให้ความสนใจ เป็นสัตว์ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง อย่าง “เต่า” ที่แม้จะไม่ได้น่าเอ็นดู น่าทะนุถนอมเหมือนอย่างสัตว์ชนิดอื่น แต่ก็มีเสน่ห์ที่หลายคนตกหลุมรัก เพราะเลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังเป็นสัตว์ที่มีอายุยาวนาน แบบไม่ต้องกลัวจะพลัดพรากจากกันให้ต้องเศร้าใจอีกด้วย

หนึ่งไฮโซที่ตกหลุมรักสัตว์แปลกๆ อย่าง “เต่า” คือ เสี่ยใหญ่แห่งบิวตี้เจมส์ “หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล” ที่มาตกหลุมรักสัตว์เลี้ยงสุดประหลาดนี้ได้ จากการตกบันไดพลอยโจนเลี้ยงเจ้าเต่าแอฟริกาเพศผู้2ตัว แบบไม่ได้ตั้งใจมาได้ 5ปีแล้ว และตลอด 5ปีที่ผ่านมาล้วนเต็มไปด้วยความสุข ที่ได้เห็นสิ่งที่ฟูมฟักมาค่อยๆ เติบโตทีละช้าๆ

“เมื่อ5ปีที่แล้ว ระหว่างที่ “น้องพูม-ภานุกร ศรีอรทัยกุล”ลูกชายคนโตกลับมาซัมเมอร์ที่ประเทศไทย น้องไปเดินเที่ยวที่สวนจตุจักร แล้วเห็นเต่าเลยซื้อมาเลี้ยง โดยให้เหตุผลว่าเหงา แต่พอน้องต้องกลับไปเรียนที่อเมริกาต่อ เต่าจึงต้องตกมาอยู่ในความดูแลของผมแทน และเราก็เลี้ยงเขาเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้”

จากเต่าตัวเล็กเมื่อ5ปีที่แล้ว ตอนนี้เจ้าเต่าเพศผู้พันธุ์แอฟริกาวัย5ปี อย่าง เจ้าBig OneและLittle Oneได้กลายร่างมาเป็นเต่ายักษ์ที่มีขนาดใหญ่ถึง2 ฟุต หากแต่เขาก็ยังคงดูแลประคบประหงม ไม่ต่างจากวันแรกๆ ขนาดลงทุนเนรมิตพื้นที่บ้านประมาณ3-4เมตร ทำเป็นสวนขนาดย่อม ให้เจ้าเต่าแสนรักได้คลานเล่นกันอย่างมีความสุข

“แรกๆ มันก็เป็นเต่าตัวเล็กๆ น่ารักดี แต่ผ่านไปสัก2-3 ปี มันเริ่มตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันกินเก่งมาก ผมจึงให้แม่บ้านทำสวนให้มันอยู่ โดยภายในสวนเราจะปลูกผักบุ้ง และมะละกอ ไว้ให้เจ้าเต่ากินทุกวัน ที่สำคัญ การเลี้ยงเต่าต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีอย่าให้มีความชื้นโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เต่าป่วยตายได้”

แม้จะยอมรับว่า ไม่ได้ผูกพันกับเจ้าเต่าต้วมเตี้ยม เท่ากับเจ้าสุนัขสี่ขาเพื่อนรักสักเท่าไหร่นัก แต่ทุกยามเย็นที่มีเวลาว่าง เสี่ยหนึ่งมักจะมานั่งมองเต่าคลานเล่นกันเป็นประจำทุกวัน แบบนี้เรียกว่ารักหรือเปล่าไม่รู้

“เต่ากับสุนัขไม่เหมือนกัน สุนัขมันจะมาคลอเคลียเพื่อเอาใจเรา แต่กับเต่ามันไม่เคยคลานมาคลอเคลียกับเรา เราจะกอดมันก็ไม่ได้ติดกระดองแข็ง จะจับมันก็จะงับมือเอา แต่เวลาที่ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน มักจะเข้ามาที่สวนแล้วนั่งมองเต่ามันค่อยๆ คลานแบบต้วมเตี้ยม พอเราเห็นการคลานอันแสนเชื่องช้าของมันแล้ว ทำให้ชีวิตของเราช้าและเย็นไปตามอิริยาบถของเต่า และที่สำคัญทุก ครั้งที่เรามองมัน ทำให้เราเห็นถึงความสุขุมลุ่มลึกของเต่า ที่แฝงอยู่ในท่าทีอันเชื่องช้า เพราะถ้าเต่าไม่มีดีจริงจะชนะการวิ่งแข่งกับกระต่ายแสนซนได้อย่างไร” เดอะหนึ่ง เล่าถึงความผูกพันกับเจ้าเต่าสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักอย่างอารมณ์ดี

ถัดมาที่หนุ่มหล่อสายติสท์ อย่าง “ต้น-บดินทร์ พลางกูร” อินทีเรียหนุ่มแห่งContext Studioที่เมื่อคิดจะหาสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา ด้วยความเป็นหนุ่มโสด งานเยอะเลยไม่มั่นใจว่า จะดูแลสัตว์เลี้ยงที่ต้องการเวลาและความเอาใจใส่จากเจ้าของได้เพียงพอหรือไม่ ดังนั้น จึงลงเอยด้วยการเลี้ยง “เต่าซูคาต้า” ซึ่งได้ชื่อว่าเลี้ยงง่าย แถมอายุยืน โดยตั้งชื่อให้ว่า “หนูเต่า”

“ผมเลี้ยงมาได้6ปีกว่าแล้ว จากตอนแรกที่ซื้อมาจากที่จตุจักร ขนาดตัวเล็กเท่ากล่องไม้ขีดเองครับ แต่ตอนนี้ตัวโตมาก หนักเกือบ20กิโลกรัม แรกๆ ก็เลี้ยงไว้ในห้องนอน มีมุมวางกระบะให้เขาอยู่ แล้วก็ต้องฉายไฟให้อบอุ่น เพราะเต่าเป็นสัตว์เลือดเย็น กลางวันต้องได้รับความร้อนเพื่อให้ระบบภายในร่างกาย ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ พอเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ แค่กระบะในห้องนอนเริ่มไม่พอแล้ว จนพอตั้งใจจะทำโฮมออฟฟิศ ก็เลยทำบ้านให้หนูเต่าไปด้วยเลย ใช้พื้นที่สนามหญ้าข้างๆ ทำเป็นบ้านใหม่ให้เขา ได้ออกมาใช้ชีวิตเอาต์ดอร์บ้าง”

ต้นบอกว่า เขาหลงเสน่ห์สัตว์เลี้ยง อย่าง เต่า เพราะความน่ารักในแบบของเขาเอง เป็นสิ่งผ่อนคลายของชีวิต เวลาคิดงานไม่ออก หรือเบื่อๆ แค่พาเขาออกเดินเล่น หรือแค่นั่งมองเขาก็เพลินแล้ว ที่สำคัญ เห็นแบบนี้เขาแสนรู้นะ แถมเชื่องมาก เวลาเรียกก็มา เขาจำเราได้ว่าเป็นคนที่ให้อาหาร เวลาหิวจะเดินมาหา นี่กำลังคิดอยู่ว่าอยากหาภรรยาให้เขา

“ผมอยากเห็นโมเมนต์ตอนไข่เต่าฟักออกมาเป็นตัว แต่คิดว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะต้องรอหนูเต่าครบ10ขวบก่อน ยังพอมีเวลาค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ ว่าจะเลี้ยงอย่างไรให้ดีที่สุด ให้ถูกวิธี เพราะอยู่กับเขาแล้วผูกพัน ด้วยธรรมชาติของเขา อายุยืนมาก คืออยู่ได้ถึง80ปีเลย ตอนนี้ก็เลยต้องวางแผนไว้แล้ว เพราะเขาน่าจะอายุยืนกว่าเรา ว่าถ้าเราไปก่อน ก็ต้องให้หลานๆ เลี้ยงต่อ เป็นมรดกส่งให้หลานดูแลต่อครับ”(หัวเราะ)

นอกจาก2หนุ่มแล้ว สาวเปรี้ยว อย่าง “จินนี่-เอมษิกา โชติวิจิตร”(หรือที่คุ้นหูกันในชื่อเก่าว่า เขริกา โชติวิจิตร)ก็เลี้ยงเต่าพันธุ์ซูคาต้าเช่นกัน เช่นเดียวกับบ้านของ เปิ้ล-นาคร กับ จูน–กษมา ภรรยา และลูกๆ วัยซน4ออ ก็ตัดสินใจเลี้ยงน้องเต่าจำนวน4ตัวเช่นกัน ซึ่งเลี้ยงตั้งแต่เล็กจนตัวโตขึ้นเรื่อยๆ และกินจุทั้งผักและผลไม้ ขนาดที่สาวจูนถึงต้องออกปากบ่นว่า ต้องหันมาปลูกผักให้แก๊ง4ตัวนี้กินแล้ว

ส่วนเซเลบหนุ่ม “ราจิต แสงชูโต” ผู้กำกับโฆษณาฝีมือดีที่ไม่เพียงแต่หลงใหลในรถเต่า แต่เต่าจริงๆ ก็รักไม่แพ้กัน โดยเลี้ยงไว้ถึง3ตัว ทั้ง บลู,ร็อกเกต และ กรูท ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งครอบครัวที่ตกหลุมรักการเลี้ยงเต่า อย่าง บุ้ง-สะธี ใบหยก และสามี เวฟ–วิภพ ที่มีลูกเล็กวัยกำลังโต ก็เลี้ยงน้องเต่าคลานต้วมเตี้ยมไปพร้อมๆ กันอีกด้วย