เซเลบเบื้องหลังวงการบันเทิง! นั่งแท่นเจ้าของค่าย-โปรดิวเซอร์-ผู้กำกับ

ข่าวใหญ่ของช่วงนี้ คงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าการที่ดาราสาวออกมาแฉเบื้องหลังเว็บพนันชื่อดัง ที่ทำให้เกิดกระแสการขุดคุ้ยประวัติของบรรดานักธุรกิจสีเทา ที่ค่อยๆ มีข้อมูลทยอยออกมาให้ติดตามกัน ล่าสุด กับการเผยว่าสารวัตรคนดังที่ว่ากันว่าเป็นขาใหญ่ของวงการพนันออนไลน์ มีการแตกแขนงกิจการออกไปสู่ธุรกิจวงการบันเทิง ผ่านทางเพื่อนหญิงคนสนิท ซึ่งจะว่าไปแล้วไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นที่สนใจเข้ามาแบ่งเค้กในธุรกิจนี้ แต่ยังมีนักธุรกิจอีกหลากหลายวงการและเซเลบริตีทั้งหลาย ที่ต่างก็ก้าวเข้ามาร่วมเดินบนเส้นทางบันเทิงกันอีกหลายคนเลยทีเดียว

อย่างตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งในแวดวงสังคม คือการที่บรรดาเซเลบริตีคนดัง หันมาให้ความสนใจวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจเปิดบริษัทโปรดักชั่น สร้างสรรค์ผลงาน หรือจะเป็นการนั่งแท่น ผู้กำกับ หรือโปรดิวเซอร์ หลบหลังกล้อง แสดงฝีมือและความสามารถในอีกแง่มุมหนึ่ง

เริ่มจาก เซเลบหนุ่มหน้าใส “ณัฐ-ณัฐพล จุฬางกูร” แห่งซัมมิท กรุ๊ป ที่หลังจากต้องช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัวมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ทั้ง สนามกอล์ฟ โรงแรม โรงเรียนนานาชาติ Berkeley ฯลฯ มานานหลายปี เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก็ได้เวลาเริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเอง ที่สนใจในเรื่องวงการบันเทิงมาโดยตลอดกว่า 15 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุ โทรทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับซุปตาร์สาวสวยสุดฮอต อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มากว่า 20 ปี รวมทั้งนักแสดงดังๆ และผู้จัดอีกหลายราย

ด้วยการลงทุนทุ่มงบหลักร้อยล้านบาท เปิดบริษัท แอคท์ แทรคชั่น จำกัด ที่เป็นทั้งโปรดักชั่น เฮาส์ ผลิตละคร และค่ายเพลง โดยจับมือกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายแขนงของวงการบันเทิง อย่าง วีเจเอก-รัฐวิชญ์ พีระศราโรจน์ และครูล๊อต-จิรันธนิน ปานประเสริฐโชค ลุยสร้างผลงานทั้งซีรีส์วัยรุ่น วงบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป ปั้นนักแสดงและนักร้องหน้าใหม่ประดับวงการ โดยจุดมุ่งหมายไม่ได้มีเพียงแค่ตลาดในประเทศไทย แต่ยังตั้งใจจะนำเอาผลงานสัญชาติไทยไปบุกตลาดโลกอีกด้วย

หรืออย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ก็แตกไลน์ธุรกิจใหม่ บริษัท ออริจิ้น มิวสิค จำกัด ช่วยผลักดันกระแส T-POP ให้เติบโต ทั้งทำค่ายเพลง ผลิตศิลปินนักร้องหลากสไตล์ และสร้างสรรค์คอนเทนต์บันเทิงต่างๆ ทั้งโฆษณา ซีรีส์ ไปจนถึงจัดงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต ด้วยเหตุที่ว่าทั้งมองเห็นช่องทางธุรกิจ และช่วยเติมเต็มบริการของบริษัท และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่มุ่งมั่นสร้างธุรกิจที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

นอกจากเหล่านักธุรกิจแล้ว บรรดาเซเลบทั้งหลายที่คลุกคลีกับวงการบันเทิงมามากมาย ก็ขยับจากคนหน้ากล้องสู่การทำงานเบื้องหลัง อย่าง “มัดหมี่–พิมดาว พานิชสมัย” ที่ทำมาแล้วแทบทุกอย่าง ทั้งนักร้อง นักแสดง พิธีกร มีผลงานตั้งแต่ออกอัลบัม ถ่ายละคร ภาพยนตร์ ไปจนถึงละครเวที ละครเพลง เรียกได้ว่ารับบทบาทมาหมดแทบทุกแขนง

คราวนี้เธอมาในฐานะผู้กำกับการแสดง มีผลงานภาพยนตร์สั้น อย่าง เรื่อง Starlight และ MAYA ที่กวาดรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ที่ประเทศต่างๆ มาครอง กลายเป็นผู้กำกับสาวดาวรุ่งที่น่าจับตามอง แถมเรื่องแรกนั้นเธอทั้งเขียนบท กำกับ และแสดงเอง เรียกได้ว่าเหมาหมดทุกหน้าที่

อีกรายที่ซุ่มสร้างผลงานคือ ทายาทแห่งบ้านวัชรพล “สรัญ–สรัญวุฐิ วัชรพล” ลูกชายคนเล็กของคุณแม่นิด-อรพรรณ ที่ผันตัวจากนักกีฬาเนื่องจากอาการบาดเจ็บ มารับบทเป็นยูทูบเบอร์ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันมาหลงใหลด้านการถ่ายทำ การตัดต่อคลิป จึงได้ทำเป็นภาพยนตร์สั้นลงในช่องยูทูบ เขาเรียนรู้เทคนิคต่างๆ อย่าง การทำคอมพิวเตอร์กราฟิก ทำภาพแอนิเมชั่น การทำกรีน สกรีน ฯลฯ ตอนนี้กำลังทุ่มเททำหนังสั้น 2 เรื่อง อย่างเรื่องต้องรอด Survivor ที่เป็นแนวแอคชั่น เต็มไปด้วย CG แพลนจะปล่อยออกมาให้ชมกันช่วงเมษายนนี้ 4 ตอน และกำลังขะมักเขม้นทำภาพยนตร์สั้นแนวแอนิเมชั่น ที่น่าจะได้ดูกันอีกทีปีหน้าเลย เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมงานอดิเรกที่จริงจังไม่ใช่เล่น

ปิดท้ายกันที่หนุ่มน้อยที่ก้าวมาสู่ฐานะโปรดิวเซอร์แบบไม่ตั้งใจ สำหรับ “ทราย-สิรณัฐ สก็อต” อีกหนึ่งเจนเนอเรชั่นใหม่ของค่ายสิงห์ เขาเป็นหลานตาของจำนงค์ ภิรมย์ภักดี ที่หลังจากเรียนจบจากสหรัฐอเมริกา ก็ช่วยงานธุรกิจครอบครัว ในฝ่ายการพัฒนาทรัพยากรอย่างยั่งยืน บมจ.สิงห์ เอสเตท เน้นการดูแลเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเขาทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยในชื่อ “Sea You Strong” ทั้งช่วยรณรงค์เรื่องขยะ ดูแลสภาพแวดล้อมของชายหาดและท้องทะเล

ด้วยหัวใจนักอนุรักษ์นี้ ทำให้เขาไม่เพียงแต่ทำโครงการอย่างเก็บขยะบริเวณชายหาด หรือให้ความรู้กับชาวบ้านในการอยู่กับทะเลอย่างยั่งยืน แต่ยังคิดสร้างสรรค์วิธีการเผยแพร่แนวคิดอนุรักษ์ผ่านทางภาพยนตร์สั้นเรื่อง MERMAN ในยูทูบ มีเนื้อหาสะท้อนภาพการถูกรุกรานและทำลายท้องทะเลผ่านเหล่ามนุษย์เงือก ซึ่งนอกจากจะเป็นโปรดิวเซอร์ ออกทุน ออกไอเดียแล้ว เขายังร่วมแสดงด้วย โดยหวังให้เป็นสื่อถ่ายทอดสู่คนกลุ่มใหญ่ได้แบบเห็นภาพ และก็น่าชื่นใจ ที่ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้รับความสนใจ และได้รับการพูดถึงอย่างมากในแวดวงนักอนุรักษ์ทะเล มีผู้เข้าชมกว่า 200,000 ครั้งเลยทีเดียว