ในแต่ละปี เวลาเราเห็นภาพบรรดาลูกหลานเซเลบริตีทั้งหลายจบการศึกษาระดับปริญญา ก็มักจะเป็นคณะที่ทุกคนคุ้นชินกันดี ตามกระแสนิยมอย่าง สื่อสารมวลชน ศิลปะ แฟชั่น หรือแนวมนุษยศาสตร์ หรือไม่ก็ตามธรรมเนียมของครอบครัวนักธุรกิจ ที่มักจะส่งให้เรียนวิชาที่จะนำมาดูแลกิจการของครอบครัว อย่าง บัญชี บริหาร เศรษฐศาสตร์ หรือกฏหมาย ไปจนถึงวิชาเฉพาะทางที่สามารถต่อยอดกิจการ อย่าง วิศวะ หรือสถาปัตย์ แต่วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับบรรดาเซเลบที่ขอเลือกทางเดินชีวิตการศึกษา ด้วยความชอบและหัวใจตนเอง อย่างทั้ง 6 คนนี้ ที่คว้าปริญญาในสาขาแสนแปลก ที่ไม่ค่อยได้ยินกันบ่อยนัก จะมีใครบ้างนั้น ลองไปดูกัน?
เริ่มจากคนแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้ “พร้าว-พงศ์ศิษฎ์ ปังศรีวงศ์” น้องชายคนเก่งของเซเลบสาวคนดัง “แวว–ธีรวัลคุ์” แห่งเครือเกษมกิจ โดดข้ามธรรมเนียมแบบเดิมๆ ไปเลือกเรียนสาขาวิชาที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ด้วยความใคร่รู้ของตัวเอง โดยเขาจบปริญญาตรีด้านปรัชญาศาสนา และปริญญาโทด้านภาษาสันสกฤตและประวัติศาสตร์เอเชียใต้ จากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลก อย่าง เคมบริดจ์ (Cambridge) ซึ่งในช่วงปริญญาโท ทั้งสาขาวิชานี้ในปีที่เขาเลือกเรียนมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
สาเหตุที่เขาสนใจหัวข้อนี้ เพราะเห็นว่าศาสนาเป็นส่วนสำคัญของอารยธรรมของมนุษย์ เพราะผู้คนทั้งหลายตั้งแต่อดีตกาลล้วนผ่านการถ่ายทอดความเชื่อและวัฒนธรรม ผ่านทางศาสนากันมาตลอด ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่บนโลกก็ยังนับถือศาสนาอยู่ โดยเฉพาะ ฮินดูที่มีเป็นพันล้านคน และพุทธศาสนาเองก็หลายร้อยล้าน การจะเข้าถึงศาสนาได้อย่างลึกซึ้งนั้น ต้องศึกษาแนวคิดที่แท้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกแปลกันมาหลายต่อหลายทอด จนผิดเพี้ยนไปมาก ดังนั้น ผมถึงอยากเรียนภาษาสันสกฤต ซึ่งจะทำให้เราศึกษาเรื่องศาสนาและประวัติศาสตร์นี้ได้จากแก่นแท้ด้วยตัวเอง ไม่ได้อยากรับสาส์นมือสองมือสามที่แปลมาแล้ว แถมภาษาสันสกฤตถือเป็นรากฐานของอารยธรรมเอเชียใต้ รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ซึ่งการเรียนรู้ของเขาเหล่านี้ ทั้งในเรื่องประวัติศาสาตร์ ภาษา และสังคม ก็ได้นำมาต่อยอดในการทำงานกระทรวงต่างประเทศของเขาในทุกวันนี้
ตามมาด้วยหนุ่มน้อยอีกคน ที่ก็ค้นพบหัวใจของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว สำหรับ “พีเจ-จิรวุฒิ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” บุตรชายของ หม่อมหลวงเพิ่มวุทธิ์ สวัสดิวัตน์ น้องชายสุดหวงของสาวสังคมร่างเล็ก “จุ๋ย-จรสพรรณ” ที่เลือกเรียนปริญญาตรี คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการกีฬา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยความสนใจด้านกีฬา และสนุกสนานกับการออกกำลังกาย รวมถึงชอบด้านการบริหาร จึงตัดสินใจเรียนด้านนี้ ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งได้เรียนรู้ด้านการกีฬา และการจัดการระบบต่างๆ ไปจนถึงการจัดการแข่งขันกีฬา และเขาได้ต่อยอดเรียนรู้ด้านการเป็น “เพอร์ซันนัล เทรนเนอร์” อีกด้วย
ด้านสาวน้อยคนนี้ก็สนใจในเรื่องสุขภาพเช่นกัน สำหรับ “มิ้ม-สุพิภา บุรณศิริ” ลูกสาวคนกลางของคุณแม่หม่อมหลวงรดีเทพ เทวกุล และวีรนต บุรณศิริ สาวน้อยคนเก่งที่สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 (Magna Cum Laude) จาก University of Southern California (USC) ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขา Global Health & Consumer Behavior ซึ่งแม้ช่วงปลายการศึกษาจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องเรียนทางไกลผ่านออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค และยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน ทำให้เธอสามารถเรียนจบได้เร็วกว่าที่คิดถึง 6 เดือนเลยทีเดียว โดยเธอกล่าวถึงสาขาที่เธอได้ร่ำเรียนจบมาว่า ชอบที่ผสมผสานวิชาหลากหลายที่ชอบเอาไว้ด้วยกัน ทั้งวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ซึ่งเรียนแล้วสามารถนำความรู้กลับมาช่วยสังคมและประเทศชาติได้
สำหรับสาวคนนี้ก็มีวิชาเรียนที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน อย่าง เซเลบสาวใฝ่เรียน “แพร-พัณณิตา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ลูกสาวคนสวยของกษิดิศ และฐิติพร ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา โดยสาวที่ถนัดด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์คนนี้ เลือกเรียนปริญญาตรีด้าน Biomedical Sciences ที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง อย่าง University College London (UCL) ก่อนจะต่อปริญญาโทด้าน Biomedical Engineering ที่ Imperial College London มหาวิทยาลัยชื่อดังด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิชาที่เรียนเป็นวิศวกรรมศาสตร์การแพทย์ ที่ถือเป็นวิชาใหม่ที่กำลังมาแรง เป็นการเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องการรักษา เน้นไปทางวัสดุศาสตร์ เช่น สเต็มเซลล์ ฯลฯ เรียกได้ว่าร่ำเรียนมาในสาขาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
ด้าน “ปลื้ม-ชนาธิป สิมะโรจน์” ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งซัสโก้ (SUSCO) ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ แม้จะเดินตามรอยรุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นอา เลือกเรียนด้านวิศวะ แต่ปลื้มขอฉีกแนวแตกต่างโดย เลือกเรียนในสาขาวิศวกรรมนาโน หลักสูตรนานาชาติ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขานี้หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่รู้ว่าเรียนอะไร ซึ่งหนุ่มปลื้มอธิบายถึงสาขาวิชาของเขาให้ฟังว่า “วิศวะนาโนไม่ใช่แค่เทรนด์ของอนาคต แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน นิยามง่ายๆ คือ การย่อส่วนเทคโนโลยีทุกอย่างให้เล็กลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งเป็นทิศทางคอนเซ็ปต์ที่ธุรกิจต่างๆ กำลังดำเนินไป”
ปิดท้ายที่สาวคนนี้ ผู้รู้ความชอบของตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยได้เลือกศึกษาในด้านเฉพาะตามความใฝ่ฝัน “หมิง–สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ลูกสาวคนสุดท้องของ พล.ต.อ. อิสระพันธ์-ม.ล. อรจิตรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ที่ชื่นชอบน้ำหอมเป็นชีวิตจิตใจ จึงเลือกเรียนปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปศึกษาต่อปริญญาโท ด้าน ISIPCA European Fragrance and Cosmetic master ที่ University of Versailles ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเรียนการทำน้ำหอมโดยเฉพาะ เป็นสถาบันชื่อดังที่มีคนสมัครเรียนปีละหลายพันคนแต่รับนักศึกษาเพียง 20 คนเท่านั้น โดยสาวหมิงเป็นคนไทยคนเดียว ต้องฝึกดมน้ำหอม ชนิดที่แค่ดมก็ต้องรู้ว่าประกอบด้วยกลิ่นอะไรบ้าง เรียนวิธีการปรุงน้ำหอมและเครื่องสำอาง รวมไปถึงการบริหาร สร้างแบรนด์ ทำให้เธอได้นำมาต่อยอดด้านการทำงานแบรนด์เครื่องสำอางและน้ำหอม และไม่แน่ว่าเธออาจครีเอทแบรนด์น้ำหอม รังสรรค์กลิ่นในสไตล์ของเธอเองในอนาคตก็เป็นได้
Comments are closed.