Guru Talk

ลองสักครั้งกับ “HIFU” ที่ขนาดดาราดังยังลองมาแล้ว!!

Pinterest LinkedIn Tumblr


>>เทคโนโลยีเรื่องความสวยความงามพัฒนาไปทุกวัน แต่ในเมื่อคอนเซ็ปต์หนึ่งของผู้หญิงคือการ “อย่าหยุดสวย” เราก็ต้องรู้เท่าทันเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ด้วย เพื่อที่เราจะได้เลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเอง เหมาะกับปัญหาที่เราพบเจอ และเหมาะกับความต้องการสวยของเรา

เทคโนโลยีใหม่ที่เราเริ่มคุ้นเคยกับชื่อนี้มาสักพักกับการทำ “HIFU” ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound นวัตกรรมที่ช่วยให้ใบหน้าเรียว ยกกระชับ ผิวเนียนใส แก้มและคางเรียวได้รูป ซึ่งวันนี้ พ.ญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล แห่ง ลลลนา คลินิก มานั่งให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีนี้กับเราเอง ซึ่งฟังแล้วบอกเลยว่าไม่น่ากลัวเลยสักนิด

เทคโนโลยี High Intensity Focusing Ultrasound นั้นเริ่มเข้ามาในเมืองไทยสักระยะแล้ว และมีการพัฒนาเครื่องไปเรื่อยๆ แต่สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรากำลังพูดถึงนั้นมีความเจ๋งตรงที่นอกจากเพิ่มพลังงานที่ส่งถึงเนื้อเยื่อชั้นล่าง สำหรับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้มากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มหัว tip สำหรับช่วยลดไขมันสะสมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณหมอบอกว่าแทบจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการรักษา และต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน-1 ปี โดยไม่เจ็บ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น พร้อมการรับรองมาตรฐานจากยุโรปและไทย คนส่วนใหญ่นิยมทำเพื่อช่วยในเรื่องของการรักษาริ้วรอยต่างๆ ยกคิ้ว ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ใบหน้าเนียน ผิวใส ผิวหน้ายกกระชับขึ้น ลดเหนียงใต้คางหรือคางสองชั้น ลดไขมันที่แก้ม ที่สำคัญเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้นผ่านการนำเข้าจากองค์การอาหารและยาประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

แล้ว HIFU เหมาะสำหรับใครหละ? คำถามที่สาวๆ อยากรู้ HIFU เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ปรับใบหน้าเรียว โดยไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น, ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ กรอบหน้าไม่ชัดเจน, ผู้ที่มีปัญหาแนวคิ้วตก, ผู้ที่มีปัญหาหน้าใหญ่ เนื่องจากไขมันสะสมบริเวณแก้ม หรือมีปัญหาคาง 2 ชั้น และมีไขมันสะสมส่วนเกิน, ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา หรือ ร่องลึกบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม และผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ขาดความเนียนกระจ่างใส

HIFU เทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพสูง ในการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ชนิด Focused Ultrasound ให้ออกมามีรูปแบบเป็นเส้นตรง และมีความยาวถึง 13 มม. ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการรักษาใต้ผิวให้มากขึ้น ผสานกับเทคนิค “Criss-Cross technique” ในขณะทำการรักษา ทำให้ผิวได้รับระดับพลังงานสูงขึ้นเป็น 2 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้สูงมากขึ้น

ระยะเวลาในการทำการรักษาแต่ละครั้งนั้นประมาณ 40-60 นาที ซึ่งความรู้สึกขณะได้รับการรักษานั้นจะรู้สึกสบายผิว ไม่มีอาการแสบร้อน และเนื่องจากพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงถึง 1000 ครั้ง/วินาที จนเซลล์ประสาทไม่สามารถสัมผัสได้ จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บ จะรู้สึกเพียงความอุ่นเล็กน้อยในบริเวณผิวที่ทำการรักษา

โดยผลลัพธ์ที่ได้ของการรักษาสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในทันทีภายหลังการรักษา โดยพบว่าร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวตึงกระชับ ริ้วรอยเล็กๆลดเลือนลงและจะดีขึ้นชัดเจนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ๆใต้ผิว มาเสริมความแข็งแรงให้กับผิว ผิวจึงกลับมามีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น ผิวกระชับขึ้น และดูกระจ่างเนียนใสขึ้นด้วย ช่วยให้ใบหน้าเรียว แก้มและคางเรียวได้รูปสวย

หลังจากทำ HIFU ผลการรักษาสามารถคงอยู่ได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน -1 ปี (ขึ้นกับคุณภาพผิวและลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล) อย่างไรก็ตามก็สามารถให้การรักษาเพิ่มเติม (touch-up) ได้ทุกๆ 6 สัปดาห์ และสามารถทำการรักษาได้ 3 ครั้งภายใน 1 ปี

ส่วนเรื่องการดูแลหลังการรักษานั้นบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเพราะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำการรักษา โดยไม่ต้องพักฟื้นผิว แนะนำให้บำรุงผิวและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน สนใจรับบริการและปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผิวหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ลลลนา คลินิก กับคุณหมอพลอยคนสวยได้เลย

Comments are closed.

Pin It