Hot Topic

“สงกรานต์” สุดสนุกรื่นเริง!? เทศกาลพิเศษนี้ไม่ได้มีแค่ในไทย

Pinterest LinkedIn Tumblr


สำหรับผู้คนทั่วโลก ถ้าพูดถึงงานเทศกาลรื่นเริงสนุกสนาน ที่มีการสาดน้ำใส่กัน ไม่มีใครไม่รู้จักเทศกาลสงกรานต์ และต่างใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้เดินทางมาร่วมสนุกกับช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ในประเทศไทย มาสัมผัสกับการเล่นน้ำสงกรานต์ หรือที่ฝรั่งชอบเรียกว่า water fight ด้วยตนเองกันทั้งนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าเทศกาลสาดน้ำแบบนี้ ไม่ได้มีบ้านเราเท่านั้น แต่ในประเทศเพื่อนบ้านต่างก็มีวัฒนธรรมนี้เช่นกัน แต่จะต่างกันไปในรายละเอียด มาลองดูกันว่าที่ไหนเขาเล่นน้ำกันอย่างไรบ้าง?


สำหรับประเทศแรกต้องยกให้กับพม่า ที่พยายามเคลมว่า ตัวเองเป็นต้นกำเนิด และงานสงกรานต์บ้านเราก็ไปเรียนรู้มาจากวัฒนธรรมงาน Thingyan ที่ออกเสียงว่า ตะจาน หรือ ติงจัน ที่ตรงกับช่วงเวลาขึ้นปีใหม่ของเขาเช่นกัน ซึ่งตรงกับช่วงกลางเดือนเมษายน โดยงานปีใหม่ของเขาจะมียาว 4-5 วัน และมีวัฒนธรรมในการประพรมน้ำกัน รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ ทำบุญเข้าวัด และพัฒนามาเป็นการสาดน้ำใส่กัน เป็นเสมือนการล้างสิ่งสกปรกไม่ดี ล้างบาป และความโชคร้ายให้ออกไปพร้อมต้อนรับสิ่งดีๆ รับปีใหม่


ส่วนประเทศบ้านพี่เมืองน้องอย่าง ลาว ก็มีงานสงกรานต์เช่นกัน แถมเรียกชื่อเหมือนไทยด้วย แต่บางครั้งก็จะไม่มีการออกเสียง ตัว ร.เรือ เป็นสงกาน ซึ่งจัดแทบไม่ต่างจากงานสงกรานต์บ้านเราในอดีต แต่มีธรรมเนียมที่น่าสนใจ อย่างการแบ่งออกเป็น 3 วัน โดยวันแรกคือวันทำความสะอาดบ้าน ปัดเป่าสิ่งไม่ดีเรียกกันว่า “วันสังขารล่วง” ถัดมาเป็นวันรวมตัวกันของครอบครัว พบหน้าพร้อมตากัน ใน “วันเนา” และวันสุดท้ายคือ “วันสังขารขึ้น” หรือบุนปีใหม่ ที่นับเป็นวันปีใหม่ที่แท้จริง ที่มีธรรมเนียมการบายศรีสู่ขวัญ สรงน้ำพระ แห่นางสงกรานต์ และสนุกสนานกับการรดน้ำกัน


สำหรับประเทศกัมพูชา งานสาดน้ำรับปีใหม่นี้ บ้างก็เรียกว่าสงกรานต์ เช่นเดียวกับไทย แต่จะมีการออกเสียงที่แตกต่างกันเล็กน้อย หรือบางที่ก็เรียว่า โจล ชนัม ขแมร์ ที่แปลว่า เทศกาลขึ้นปีใหม่ ที่จะมีขึ้น 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 หรือ 14 เมษายน ตามแต่หลักปฏิทินของเขมรที่นับตามจันทรคติ มีการทำบุญ ทำความสะอาดบ้าน และการสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ไม่ต่างจากของที่ไทย แต่ที่โดดเด่นดูจะเป็นการเน้นเครื่องหอม น้ำปรุง ดอกไม้ น้ำลอยต่างๆ ที่ถือเป็นสิริมงคลของชีวิต และรับการเปิดศักราชของปีใหม่ที่มาถึง


จะเห็นได้ว่าบ้านพี่เมืองน้องย่านนี้ จะมีการฉลองวันปีใหม่ ด้วยการสาดน้ำ อย่างเทศกาลสงกรานต์นี้ และยังมีชื่อเรียกที่ใกล้เคียงกัน นั่นเพราะที่มาของเทศกาลนี้ มาจากการถ่ายทอดวัฒนธรรมของศาสนาพุทธ ที่ส่งต่อมาจากอินเดียโบราณ และคำในภาษาบาลีสันสกฤตที่ว่า ‘สํกฺรานฺติ’ ที่แปลว่า การเปลี่ยนผ่าน การก้าวเข้าสู่ปีใหม่ และถูกแปลงเป็นภาษาในแต่ละท้องถิ่น จนกลายมาเป็นสงกรานต์


แม้ว่านี่จะเป็นวัฒนธรรมร่วมของหลายประเทศ แต่คงไม่มีใครเถียงได้ว่า เทศกาลสงกรานต์ของไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นความรื่นเริงและความสนุกสนาน ท่ามกลางสายน้ำและความชุ่มชื้น ที่ผู้คนจากทั่วโลกเฝ้ารอ จนกระทั่ง มีการต่อยอดในการนำเทศกาลนี้ไปจัดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั้งการเกิดมหกรรมงาน S2O ที่เป็นงานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของไทย เริ่มจัดขึ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศไทยเมื่อปี 2558


นี่นับเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และกลายเป็นการส่งออกวัฒนธรรมสงกรานต์ไปสู่สากล ด้วยการยกคอนเซ็ปต์งานไปจัดยังประเทศต่างๆ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แถม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังมีการจับมือกับทางการญี่ปุ่นร่วมกันจัดงาน “สงกรานต์สาดน้ำอุ่นออนเซ็น” ร่วมกับเทศกาล Beppu Hatto Onpaku (Hot Springs Expo) ประเพณีสาดน้ำอุ่นออนเซ็นของเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ เชื่อมโยงประเพณีสำคัญของประเทศไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน เป็นการประชาสัมพันธ์และผลักดันการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน

Comments are closed.

Pin It