ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตตลอดกาลแห่งวงการเซเลบลิตี้ สำหรับ หนุ่มหล่อบ้านรวยอย่าง ท็อป-ดร.ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะโลดแล่นในวงการบันเทิงมายาวนาน ทั้งในฐานะพิธีกรรายการโทรทัศน์และงานอีเวนต์ต่างๆไม่พอ ยังเคยมีผลงานการแสดง และเป็นดีเจมาก่อน
ด้วยลุคโอปป้าแถมยังขี้เล่น ทำให้หนุ่มท็อปกลายเป็นหนุ่มป็อบที่มักเป็นข่าวกิ๊กกักกับดาราและนางแบบตัวแม่ของวงการอยู่เนืองๆ จนทำให้ชื่อของหนุ่มท็อปอยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์ของสื่ออยู่เสมอ
จนมาช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ ที่ดูเหมือนว่าหนุ่มท็อปจะเริ่มเฟด ๆ ตัวออกมาจากงานพิธีกร จนทำเอาหลายคนคิดถึง นาน ๆ จะปรากฏตัวในงานสังคมบ้าง โดยเหตุผลที่ทำให้หนุ่มท็อปหายหน้าหาตา เพราะต้องการกลับมาสวมบทผู้บริหารเต็มตัว โดยงานหลักของหนุ่มท็อปตอนนี้ คือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไอดีพี แพคเกจจิ้ง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการผลิต ส่งออก ขายส่ง สินค้าประเภทกล่องพลาสติกบรรจุอัญมณี ปากกา นาฬิกา ฯลฯ
งานนี้ ใครที่คิดว่าหนุ่มท็อปมาสวมบทซีอีโอโก้ ๆ เสริมโปรไฟล์ บอกเลยว่าคิดผิด เพราะหนุ่มท็อปไม่ได้มาบริหารเล่น ๆ แต่ไต่เต้าจากการเป็นกรรมการ จนมาเป็นกรรมการบริหาร และ ซีอีโอ หลังจากเข้ามาทำงานได้ 5 ปี ก็ได้การจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 1,000 ซีอีโอยอดเยี่ยมของอาเซียน สมกับเป็นคนหนุ่มไฟแรงตัวจริง
ส่วนใครที่อาจจะสงสัยว่า แล้วหนุ่มท็อปจับผลัดจับผลูมานั่งเก่าอี้ซีอีโอได้อย่างไร เฉลยให้หายข้องใจตรงนี้เลยว่า เป็นธุรกิจครอบครัวของหนุ่มท็อปที่มีรุ่นคุณพ่อเป็นผู้บุกเบิก เริ่มต้นจากพนักงานหลักสิบค่อย ๆ เติบโต จนวันนี้มีพนักงานหลักพัน โดยท็อปเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของ ชัยโรจน์ และ รุ่งฤดี พูนทรัพย์มณี มีพี่สาว 2 คน คือ ดี่ดี๋- แสนดี และ ญิ๋ง-สมหญิง พูนทรัพย์มณี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท ไอพีดี แพคเกจจิ้ง จำกัดเช่นกัน
ครอบครัวของท็อปจัดว่าร่ำรวยจากการทำธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พรีเมียมต่างๆ ถึงจะไม่ได้ผลิตสินค้าไฮแบรนด์ แต่มูลค่าธุรกิจก็ไม่ธรรมดา เพราะขึ้นชื่อว่าสินค้าหรู ซูเปอร์แบรนด์ระดับโลกต้องให้บริษัทของครอบครัวท็อปผลิต ไม่ว่าจะเป็น กล่องใส่รองเท้า กล่องใส่นาฬิกา กล่องใส่กระเป๋าแบรนด์เนม หรือกล่องใส่แอคเซสซอรีต่างๆ ส่วนมูลค่าจะมหาศาลแค่ไหน คิดดูว่า ทั้งที่ปีที่แล้ว ไม่ใช่ปีทองของธุรกิจส่งออกเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แต่ซีอีโอท็อปยังใจป้ำสุด ๆ ประกาศให้ของขวัญคริสต์มาสพนักงานด้วยการแจกโบนัส ได้ใจพนักงานกว่า 2500 ชีวิตไปเต็ม ๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเกิดมาบ้านรวย บวกกับลุคที่ดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่เรื่องการเรียน หนุ่มท็อปไม่เป็นสองรองใคร แถมยังขยันเรียนได้โล่ เพราะหลังจากเรียนจบปริญญาตรีจากคณะ British And American Studies จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ เขาไม่เพียงคว้าปริญญาโท จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน ที่จุฬาฯ แต่ยังมุ่งมั่นจนจบปริญญาเอก จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สำหรับชีวิตส่วนตัว ด้วยความที่เป็นหนุ่มฮอต โปรไฟล์เลิศ (ขนาดนี้) แน่นอนว่าไปขายขนมจีบสาวไหนก็ยากจะต้านทาน ไม่ว่าจะเป็นสาวพลอย-เฌอมาลย์ บุยยศักดิ์ ซุปตาร์สวยเผ็ดสุดๆ ทั้งสองคบกันตั้งแต่สมัยยุคทองของดีเจ โดยทั้งคู่ต่างเป็นดีเจที่เอไทม์ แต่สุดท้ายไปกันไม่รอด ปิดตำนานคู่รักดีเจ หลังจากนั้นหนุ่มท็อปก็ยังปลูกต้นรักอยู่หลายต้น ก่อนจะมาตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นกับ สาวแพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล ผู้บริหารสาวหมวยสุดเอลิแกนซ์แห่งซูเปอร์ริช ดีกรีเป็นถึงดาวคณะวารสารศาสตร์ฯแถมยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์ – จุฬาฯ ครั้งที่ 59 (รุ่นเดียวกับ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา และ หมิง-ชาลิสา บุญครองทรัพย์) ทั้งคู่ตกลงปลงใจแต่งงานสร้างครอบครัวถึง 8 ปี โดยระหว่างนั้นมีข่าวเตียงหักออกมาเป็นระยะ ก่อนที่ความรักจะมาถึงทางตัน ปิดตำนานรักคู่รักไฮโซ
แต่ถึงไม่สมหวังในชีวิตคู่ แต่หนุ่มท็อปยังไม่เข็ดกับความรัก ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ส่งท้ายปีที่แล้ว คือ มรสุมความรักระหว่างท็อปกับอดีตแฟน ไพลิน โอลเซ่น นางแบบสาว ที่กลายเป็นรักรีเทิร์น แรก ๆ ก็สวีท แต่ตอนหลังกลับมีดราม่าสนั่นโซเซียล เมื่อฝ่ายหญิงโพสต์ไอจีทำนองว่า “ไม่เคยขอให้ใครเปย์รถหรือของให้ ครอบครัวดีอยู่แล้ว เล่นเอาชาวเน็ตคิดไปไกลว่าแซะถึงคนเคยรักอย่างหนุ่มท็อป
งานนี้ หนุ่มท็อปเลือกใช้วิธีนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ไม่ตอบโต้ แต่ถอยปอร์เช่ ราคา 13 ล้าน เป็นของขวัญให้คุณพ่อสุดที่รัก งานนี้เล่นเอาคุณพ่อตาทั้งหลายตาร้อนผ่าว แม้แต่แรปเปอร์ตัวพ่ออย่าง เจ-เจตริน วรรธนะสิน ยังแท็กลูกชาย 3 เจ้ามาให้ดูเป็นแบบอย่าง
อย่างไรก็ตาม มรสุมชีวิตปี 2019 ของหนุ่มท็อปยังไม่หมด เพราะด้วยด้วยภาพลักษณ์ทางธุรกิจที่ดูมั่นคงน่าเชื่อถือ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หรูหรา ยังแผลงฤทธิ์ทำให้ไฮโซหนุ่มหัวเสีย เพราะมีสถาบันการเงินแห่งหนึ่งได้นำภาพหนุ่มท็อปไปใช้ในประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต เล่นเอาเจ้าตัวนั่งไม่ติด ต้องรีบออกมาชี้แจ้งว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใดกันเลยทีเดียว…
แหม… เรียกว่าชีวิตนี้ครบรสจริงๆ
Comments are closed.