FENDI ประกาศเปิดตัวแฟลกชิพบูติก (Flagship Boutique) แห่งแรกในกรุงโซลโดยใช้ชื่อว่า Palazzo FENDI Seoul ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชองดัมดง ศูนย์กลางการค้าปลีกสุดหรูของกรุงโซล
Palazzo FENDI Seoul ครอบคลุมพื้นที่กว่า 715 ตารางเมตร มีคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า Ready-to-wear สำหรับสตรีและบุรุษ รวมถึงคอลเล็กชั่นขนเฟอร์ รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง และของใช้ในบ้านทั่วทั้งสี่ชั้น บูติกแห่งนี้ถูกออกออกแบบโดย FENDI Architecture Department ที่สะท้อนให้เห็นถึง DNA ของความเป็น Maison (เมซง) ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนำเสนอวิสัยทัศน์ของความร่วมสมัยแบบใหม่และความเรียบง่ายที่ยังคงความหรูหรา
ส่วนด้านหน้าของอาคารที่สร้างความน่าประทับใจผสมผสานด้วยเส้นเหล็กสแตนเลสทแยงมุมในรูปทรงเรขาคณิตและหน้าต่างซึ่งเป็นตัวกระจกที่มีความยาวจากตรงกลางมาบรรจบกันที่มุมอาคาร ตีความการออกแบบจากความคลาสสิกในความเป็นโรมันสู่ความทันสมัยและความเป็นเมือง ด้านหน้าอาคารสูง 16 เมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนที่มาจากไฟ LED ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นสัญลักษณ์ FENDI ที่ชวนให้นึกถึง Palazzo della Civiltà Italiana สำนักงานใหญ่ในกรุงโรมของ FENDI
โดยตัวอาคารมีทั้งหมดสี่ชั้น และในแต่ละชั้นมีการตกแต่งด้วยหินอ่อนที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งจะสอดคล้องไปกับรอยตัดของโลหะในส่วนของด้านหน้าอาคารเป็นลวดลายหินอ่อน Arabescato Vagli ที่ได้แรงบันดาลใจจากโบสถ์โรมัน ซึ่งประกอบไปด้วย Patagonia Black and White หินอ่อนสีดำ สีขาว และ Blue Roma หินควอร์ตไซต์ที่มีสีเขียวอ่อนและสีน้ำตาลอ่อน ประกอบด้วย Crystal Blue หินอ่อนคริสตัลบลู ที่เต็มไปด้วยพลังเพื่อสร้างลักษณะเฉพาะในแต่ละชั้น ให้สอดคล้องความโค้งมนของไฟ LED ซึ่งจะเชื่อมโยงกันทั้งภายในและภายนอกของอาคาร
เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวแฟลกชิพบูติก ลูกค้าจะได้รับการต้อนรับด้วยการตกแต่งภายในที่มีการเรียงวัสดุที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์และความดั้งเดิมของ FENDI จับคู่เสาและคานซีเมนต์เปลือยที่ถูกดีไซน์มาผสานเข้ากันกับสัมผัสความหรูหราของหินอ่อน ด้วยโลหะสีแชมเปญและโลหะ
พื้นและผนังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการตัดมุมที่มาจากการวางวัสดุแบบสลับกันกลายเป็นพื้นหลังพิเศษสำหรับคอลเล็กชั่น เสริมคุณค่าให้แต่ละชั้นผ่านบรรยากาศและพาเลทสีที่แตกต่างกัน ด้วยสัมผัสพิเศษของปูนปลาสเตอร์ทำมือที่อยู่ด้านหลังช่องกำแพง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายการวางสีของเพนกวิน
ตัวสโตร์มีการผสมผสานของชิ้นงานดีไซน์ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นการจัดโต๊ะแสดงสินค้าที่ทำจากวัสดุสีทองแดงและกระจกน้ำตาลอมแดงซึ่งสั่งทำโดยนักออกแบบชาวอิตาลี Roberto Sironi และงานศิลปะกระจกเงาบนผนังโดยศิลปิน Fernando Mastrangelo จากเมืองนิวยอร์ก
โดยชั้นล่างสุดจัดแสดงเครื่องหนังและเครื่องประดับจากคอลเล็กชั่นสตรี ชั้นสองซึ่งเป็นพื้นที่บูติกมีไว้สำหรับคอลเล็กชั่น Ready-to-Wear ของสตรี อาทิเช่น รองเท้าและผ้าขนสัตว์ ในขณะที่ชั้นสามจะจัดแสดงคอลเล็กชั่นบุรุษและเครื่องประดับต่าง ๆ
โดยบันไดทอดยาวจากชั้นแรกไปยังชั้นสามสร้างมุมมองที่น่าสนใจเปรียบเสมือนการล้อมด้วยสะพานที่นำทางไปยัง FENDI Privè สุดพิเศษ ที่สามารถจับภาพแสงธรรมชาติที่สาดส่องแสงจากสกายไลท์บนดาดฟ้า
ในส่วนของพื้นที่ Privè นำเสนอคอลเล็กชั่นผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร Art de la Table และต้อนรับลูกค้า VIP ของ FENDI ในพื้นที่สุดพิเศษที่มีความเป็นส่วนตัว โดดเด่นด้วยผนังตกแต่งด้วยแผงสแตนเลส ผลิตภัณฑ์ที่ถูกจัดเรียงในช่องของผนัง และเฟอร์นิเจอร์อันหรูหราของ FENDI Casa ที่มาโทนสีฟ้าที่เข้ากันอย่างลงตัวกับ Crystal Blue หินอ่อนคริสตัลบลู
ภายในปี พ.ศ. 2566 แฟลกชิพนี้จะได้รับการรับรองการออกแบบเพื่อความเป็นผู้นําทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (LEED) อันทรงเกียรติ หลังจากบรรลุเป้าหมายเช่น การลดการใช้น้ำ พลังงาน และวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นความสนใจไปยังคุณภาพสภาพแวดล้อมภายในอาคารโดยติดตั้งเซ็นเซอร์ CO2 และ VOC (Volatile Organic Compounds) และใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากแสงอาทิตย์
ความหรูหราและงานหัตถศิลป์ บรรจบกับความคาดไม่ถึงอันน่าตื่นเต้นซึ่งเป็นที่มาของการหยั่งรากฐานความเป็นมรดกของอิตาลีที่ Palazzo FENDI Seoul ซึ่งบูติก FENDI ใหม่อันโดดเด่นอยู่เหนือสัมผัสหรูหราของกรุงโรมถ่ายทอดสู่ตัวกรุงโซล
Comments are closed.