คดีคนดังต่างประเทศ “เมาแล้วขับ ชนแล้วหนี” มีใครรอดคุกกันไหม!?

ในต่างประเทศมีน้อยเคสมากที่กรณี “ชนแล้วหนี” จะสามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือกฎหมายไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นสาเหตุจากการ “เมาแล้วขับ” นอกจากจะติดคุกแล้ว ยังจะต้องส่งไปเข้าโปรแกรมเลิกดื่มสุรากันอีกด้วย

ชื่อของคนดังที่เราอาจเคยในยินในคดี “เมาแล้วขับ” “ชนแล้วหนี” ก็มีอย่าง ลินด์เซย์ โลฮาน บริตนีย์ สเปียร์ แมตทิว บอเดอริก ฯลฯ ที่ล้วนถูกจับเข้าคุก ส่งไปรีแฮบกันแล้วทั้งสิ้น แต่จะเคยมีใครที่รอดพ้น หลุดคดีไปได้บ้าง…

ในปี 1936 ศาลตัดสินคดีขับรถชนคนตายในลอสแองเจลิส ว่า ฮาเวิร์ด ฮิวจ์ นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์และบริษัทผลิตเครื่องบินอเมริกัน ไม่มีความผิด

ฮาเวิร์ด ฮิวจ์ ถูกจับกุมข้อหาขับรถชนคนตายโดยประมาท ที่หัวมุมถนนหมายเลข 3 ตัดกันถนนลอร์เรน ในลอสแองเจลิส แต่นักธุรกิจชื่อดังก็ถูกปล่อยตัวไป หลังจากศาลสืบพยานทั้งหมด 9 ปาก แล้วเขาก็รอดคดีโดยไม่ได้ถูกตั้งข้อหาใดๆ

ในหนังสือชีวประวัติของฮาเวิร์ด ฮิวจ์ Howard Hughes: The Secret Life ที่ออกมาในปี 2004 เขียนโดย ชาร์ลส์ ไฮแฮม มีการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และสรุปข้อความอย่าง “ในอดีต อัยการก็ซื้อได้ และคนที่มีเงินมากพอก็สามารถพ้นผิดได้ทุกประการ”

นักแสดงบอลลีวู้ด ซัลมาน คาน ก็เป็นอีกคนที่รอดพ้นคดี “ชนแล้วหนี” มาได้อย่างหวุดหวิด มาดูไทม์ไลน์ของคดีว่า เขารอดพ้นไปได้อย่างไร

ในปี 2002 ซัลมาน คาน ขับรถเข้าไปชนคน 5 คนที่นอนอยู่ข้างถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย ทั้ง 5 รายเป็นคนไร้บ้าน ซัลมานถูกจับดำเนินคดี แต่ขอยื่นประกันตัวออกไป

ปี 2003 ศาลไม่รับคำร้องให้เพิกถอนคดีฆ่าคนตาย ทนายความของซัลมาน ยื่นเรื่องใหม่ขอให้ศาลเพิกถอนคดีขับรถโดยประมาท รวมทั้งชนแล้วหนี

ซัลมาน ให้การต่อศาลว่า เขาไม่ได้เมาขณะขับรถ และไม่ได้เป็นคนขับรถในอุบัติเหตุครั้งดังกล่าว แต่คนขับรถของเขาเป็นคนขับ แต่ศาลไม่เชื่อคำให้การ ตัดสินว่า ซัลมาน มีความผิดฐานขับรถชนคนตายโดยประมาท รวมทั้งขับรถขณะที่มึนเมา ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี โดยให้รอลงอาญาไว้ก่อน

ในปี 2007 ตำรวจที่เป็นพยานคนสำคัญในคดีของซัลมาน คาน เสียชีวิต และในปี 2015 มาถึงชั้นอุทรณ์ ศาลมุมไบใต้ กลับกลับคำพิพากษา บอกว่า ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักพอจะเอาผิดดาราบอลลีวู้ดได้ ซัลมาน รอดพ้นจากคดีขับรถชนคนตายเมื่อ 13 ปีก่อนโดยไม่มีความผิดใดๆ

คดีเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ซัลมาน ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ทุกคนเคารพต่อการตัดสินของศาล

สำหรับสมาชิกของวงร็อกของอังกฤษ เดอะ ฮู นั้น มีเรื่องราวเศร้าๆ เกิดขึ้นกับพวกเขามากมาย แต่เรื่องหนึ่งที่อาจจะไม่ค่อยโด่งดังมากเท่าไหร่ ก็คือ เรื่องที่ คีท มูน มือกลองของวง ขับรถเบนต์ลีย์ไปชน นีล โบแลนด์ คนขับรถและบอดีการ์ดของตัวเองจนเสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดหลังจากคีทกับภรรยาและเพื่อนๆ ของเขาไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งในเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์ ซึ่งเป็นย่านที่ส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นแรงงาน และกลุ่มแก๊งสกินเฮดนิยมไปเที่ยวกัน

ดูเหมือนนักเที่ยวจะไม่ค่อยปลื้มร็อกสตาร์คนดัง ที่มาเที่ยวผับเล็กๆ ด้วยรถยนต์สุดหรูสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเมื่อมือกลอง เดอะ ฮู เริ่มส่งเสียงดังหลังดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งสร้างความขุ่นเคืองให้เพิ่มยิ่งขึ้น

พอผับเลิก คณะของคีทก็พากันไปที่รถยนต์เบนต์ลีย์ แต่พวกเขาถูกกลุ่มนักเลงคุมผับขวางหน้ารถเอาไว้ แถมยังเอาเหรียญและก้อนหินมาขว้างใส่รถหรูของร็อกสตาร์อีกต่างหาก นีล โบแลนด์ จึงลงจากที่นั่งคนขับมาเผชิญหน้ากับกลุ่มนักเลง

คีท ที่ปกติขนาดสมองแจ่มใสยังไม่เคยขับรถด้วยตัวเอง กลับกระโดดขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย แล้วหลับหูหลับตาขับหนีออกไป ช่วยให้ภรรยาและเพื่อนๆ ของเขารอดจากการถูกรุม ทว่า ต้องสังเวยด้วยชีวิตคนขับรถของตัวเอง ซึ่งถูกชนและลากไปกับรถไปตามท้องถนนโดยไม่มีใครรู้

คีท ถูกตั้งข้อหาขับรถชนคนตายโดยประมาท และขับรถขณะมึนเมา รวมทั้งขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ แต่อีก 6 สัปดาห์ต่อมา ศาลกลับคำพิพากษาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ ทำให้มือกลองเดอะ ฮู รอดพ้นจากคดีฆ่าคนตายโดยประมาท เหลือเพียงการกระทำผิดในข้อหาขับรถขณะมึนเมาและขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่

ความรู้สึกผิดยังคงตามหลอกหลอน คีท ไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อปี 1978 ด้วยวัยเพียง 32 ปี