Dining Out

ตามใจคนชอบกิน“เส้น” เต็มอิ่มกับก๋วยเตี๋ยวเรือไม่ธรรมดา VS ราเมนญี่ปุ่นดีกรีแชมป์

Pinterest LinkedIn Tumblr

By Lady Manager

เชื่อว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคนชอบกินก๋วยเตี๋ยว! จะก๋วยเตี๋ยวรสแซ่บแบบไทยๆ หรือก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่นเส้นเหลืองนวล รสกลมกล่อม ที่รู้จักกันในนาม ราเมน (Ramen) คนบ้านเราก็ฮิตกินกันเป็นจริง เป็นจัง

เราจึงสรรหาก๋วยเตี๋ยวรสเลิศ มานำเสนอกันถึง 2 รส 2 ชาติ แห่งแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยๆ ที่อร่อยเข้มข้น ด้วยเนื้อวัว เนื้อหมูเกรดพรีเมี่ยม (premium) เปิดขายในห้างสรรพสินค้าหรูให้คนชอบเส้นได้นั่งหม่ำกันในบรรยากาศเย็นฉ่ำ อีกแห่ง เป็นเวิ้งอร่อย…สวรรค์ของนักชิม ที่รวมร้านราเมน ระดับแชมป์ของญี่ปุ่นไว้ถึง 6 ร้านในแหล่งเดียวกัน

ซู้ด นู้ดเดิ้ล
น้ำซุปเข้มข้น เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก!

ร้านก๋วยเตี๋ยวภายในห้างสรรพสินค้าสุดหรูแห่งนี้ เกิดจากการที่เจ้าของร้าน เป็นแฟนพันธุ์แท้ก๋วยเตี๋ยวเรือ เมื่อตระเวนชิมนานเข้า จึงพบว่าห้างฯ ในกรุงเทพฯ ยังไม่ค่อยมีก๋วยเตี๋ยวเรือที่ใช้เนื้อระดับพรีเมี่ยมขาย จึงปิ๊งไอเดีย คิดทำร้านก๋วยเตี๋ยวรสเยี่ยม เปี่ยมคุณภาพขึ้น

“เราหวังให้คนทานได้รับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือรสเยี่ยม เราจึงคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นยอด ทั้งน้ำซุปสูตรโบราณจากต้นตำรับที่สืบทอดมานานหลายสิบปี และเนื้อพรีเมี่ยมเกรด A ทั้งเนื้อวากิว (Wagyu), เนื้อหมูดำคุโรบูตะ (Kurobuta) ชั้นดีสัญชาติญี่ปุ่น ที่เมื่อลูกค้าทานแล้วจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มละมุนของเนื้อ

บางท่านถึงกับพูดว่า เหมือนละลายในปาก เพราะเนื้อที่เราเลือกมานั้นนุ่มมาก รวมถึงเส้นแก้ว ที่ทานแล้วกรุบกรอบซึ่งมีเฉพาะที่ร้านเราเท่านั้น ก็ทำให้หลายคนติดใจ” จิรสีห์ เตชาชาญ และ ชิษณุ พิสุธิกูล สองหนุ่มเจ้าของร้าน อธิบายถึงที่มาและความพิเศษของร้าน

บรรยากาศ แม้จะอยู่ในห้างฯ หรู ซึ่งพื้นที่แต่ละตารางนิ้วแพงหูฉี่ ทว่าร้านนี้ก็ยังมีบริเวณกว้างขวาง เข้าไปแล้วไม่รู้สึกแออัดแต่อย่างใด ภายในเน้นใช้สีเหลืองอ่อน ดูสบายตา และตกแต่งในแบบย้อนยุคนิดๆ ซึ่งเราแอบเห็นของตกแต่งสุดเก๋ ทั้งกระเบื้องลายโบราณ ผ้าลายพื้นเมือง โคมไฟ ที่ประดับด้วยช้อนและกาต้มน้ำโบราณ รวมถึงของเล่นสังกะสี ที่ดูแล้วได้บรรยากาศก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณม้ากมาก
เมนูน่าซู้ด แม้จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่เมนูอร่อยเหาะ ที่น่าโซ้ยให้หมดชาม ก็ไม่ได้มีแค่เมนูเส้นอย่างเดียวหรอกนะ ว่าแล้วมาดูเมนูเด่นๆ ที่ทางร้านจัดมานำเสนอดีกว่า ว่าจะน่า “ซู้ด” สมชื่อร้านแค่ไหน…

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว เส้นแก้ว (314 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิว ชามบิ๊กเบิ้มนี้ ทางร้านยกให้เป็น ราชาก๋วยเตี๋ยว นอกจากจะขายดีสุดๆ แล้ว ยังอร่อยนุ่มลิ้น ด้วยการนำเนื้อวากิวซึ่งเป็นวัวสายพันธุ์ดีจากญี่ปุ่น มาสไลด์ให้บางเฉียบ ลวกพอสุกสีสวยกำลังดี เพิ่มความหรูอีกนิด ด้วยเห็ดออรินจิ (Eryngii Mushroom) และเห็ดชิเมจิ (Shimeji Mushroom) นำเข้าจากต่างประเทศ

ส่วนผักบุ้งก็จัดการหั่นฝอย ให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น และทีเด็ดสุดท้ายอยู่ที่ “เส้นแก้ว” ซึ่งทำจากสาหร่ายทะเล ไร้ไขมัน ทานแล้วไม่อ้วน แถมได้ความกรุบกรับแบบที่เส้นอื่นๆ ไม่มี

ชามนี้สำหรับคนไม่ชอบทานรสจัดจ้าน ขอบอกว่าไม่ต้องปรุงเพิ่มค่ะ เพราะน้ำซุปกลมกล่อมอร่อยเลิศอยู่แล้ว ส่วนเนื้อวัวแสนนุ่ม เรียกได้ว่า ไม่ต้องออกแรงกัด บดขยี้ให้เมื่อยกรามนัก แค่เคี้ยวเบาๆ แล้วละเลียดลิ้นไปมา ก็ได้สัมผัสความหวาน หอมนุ่มแบบเต็มคำแล้ว เมื่อทานคู่กับเส้นแก้วกรุบกรอบ เห็ดหวานนุ่ม ช่างกลมกล่อมดีแท้ ก็เอาน่า.. ถ้าอยากทานอาหารรสเลิศระดับพรีเมี่ยมแบบนี้ แลกกับราคาสูงสักหน่อยก็ต้องถือว่าคุ้ม!
(ซ้าย) ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว /  (ขวา) ชุดหม้อไฟเนื้อ
ชุดหม้อไฟเนื้อไทย-เฟรนส์ (Thai-French 199 บาท) ชุดนี้คัดเนื้อวัวคุณภาพ ใส่จานใบใหญ่ เสริมทัพความอร่อยด้วยลูกชิ้น, เนื้อเปื่อย รวมถึงผักสดกรอบหลากชนิด ให้คุณได้เลือกลวกจิ้มกันตามอำเภอใจ จะสุกมาก สุกน้อย เลือกจุ่มลงหม้อซุปสุดกลมกล่อมได้เลย ด้านเครื่องเคียงน้ำจิ้ม ทางร้านเอาใจ จัดเต็มมาถึง 3 รสชาติ ทั้งน้ำจิ้มพริกกะเหรี่ยง, น้ำจิ้มเกาเหลา, น้ำจิ้มสุกี้ แถมท้ายมาด้วยเส้นหมี่กระเทียม ทานคู่กันแล้วเหมาะนัก ..เนื้อนุ่มเลือกสุกดิบตามใจ ได้ซดคู่กับน้ำซุปคล่องคอ สั่งชุดเดียวทานกัน 2 คน ก็อิ่มแปล้พุงกางแล้ว

อ้อ! สำหรับชุดหม้อไฟนี้ ทางร้านกระซิบมาว่า ถ้าไม่อยากทานเนื้อวัว จะลองเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูดำคุโรบูตะ หรือเนื้อแกะนิวซีแลนด์ ก็สั่งได้เลยจ้า

ชุดหมูย่างจิ้มแจ่ว + ข้าวเหนียว (179) ชุดนี้เด็ดที่เนื้อหมูติดไขมันเล็กน้อย ซึ่งนุ่มกำลังดี เมื่อหมักด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทางร้าน และย่างจนสุกกำลังดี หมูชิ้นเขื่องก็หอมหวาน กลมกล่อมทุกอณูเนื้อจริงๆ แม้ไม่ต้องจิ้มก็อร่อยแล้วหล่ะ แต่ถ้าใครชอบเผ็ดแซ่บล่ะก็ น้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษของทางร้านจะทำให้คุณจิ้ม แล้วจิ้มอีก จนลืมอิ่มเชียว
(ซ้าย) ชุดหมูย่างจิ้มแจ่ว + ข้าวเหนียว /  (ขวา) ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง
ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง (69 บาท) ปิดท้ายเมนูอร่อยกันด้วยของทานเล่นอย่าง “ลูกชิ้น” ที่เข้ากันได้ดี กับคอนเซปต์ของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ และลูกชิ้นของร้านนี้ ในส่วนของ “เนื้อล้วน” ก็นุ่มแน่นเต็มคำ ส่วนลูกชิ้นเอ็น ก็กรึบกรับเคี้ยวเพลินดีจัง ทว่าหลายคนมักคิดว่า “ทานลูกชิ้นที่ไหนก็เหมือนกัน” อยากบอกว่าต้องมาชิมเองถึงจะรู้แจ้ง ว่าลูกชิ้นดีจะอร่อยเป็นทวีคูณ เมื่อได้ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด.. ซึ่งร้านนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องน้ำจิ้มค่ะ จะเด็ดจริงมั้ย อันนี้ต้องมาลอง!

ที่ตั้ง ชั้น7 เซ็นทรัลเวิลด์ (โซน เอเทรียม)

เวลาอร่อย ทุกวัน 11.00-22.00 น. โทร สำรองความแซ่บได้ที่ 02-6461359

ราเมนแชมเปี้ยนส์
เวิ้งอร่อย! รวมสุดยอด 6 ร้านดังของญี่ปุ่น

ณ เวิ้งกว้าง โครงการอารีน่า เท็น ซอยทองหล่อ 10 ถูกเนรมิตให้เป็นย่านสวรรค์ของคนรักราเมน ด้วยฝีมือของ ตัน ภาสกรนที นักธุรกิจคนดัง ที่วันนี้ผันตัวมาเปิด บริษัท ไม่ตัน จำกัด หุ้นส่วนสำคัญของร้านราเมนแชมเปี้ยนส์

“ร้านนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการที่คุณตัน เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นบ่อย พาลูกค้าไปญี่ปุ่นบ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ไปจะถูกขอให้พาไปทานราเมน คุณตันก็สืบหาร้านอร่อยไปเรื่อยๆ นอกจากนี้คุณตันค่อนข้างเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้เอาอาหารญี่ปุ่นมาเผยแพร่ในไทย พอมีการเปิดเสรีทางการค้า ทางญี่ปุ่นเขาก็เลยรู้ว่า ถ้าอยากมาเปิดตลาดในไทย ก็น่าจะมาติดต่อคุณตัน และประกอบกับคุณตันมีพื้นที่บริเวณทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่คนญี่ปุ่นอยู่เยอะ ก็เลยเกิดเป็นโปรเจกต์นี้ขึ้นมา

ซึ่งราเมนแชมเปี้ยนส์นี้ประกอบไปด้วย 6 ร้านดังจากญี่ปุ่น ซึ่งรสชาติแต่ละร้านจะไม่เหมือนกัน สูตรก็ไม่เหมือนกันพูดง่ายๆ คือ คนละร้านไปเลย ส่วนเรื่องรสชาติของทุกร้าน เราจะคงรสชาติแบบญี่ปุ่นไว้ 100% เพราะคุณตันอยากให้คนไทยได้ทานราเมนญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิม เรียกว่าไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก็ทานราเมนญี่ปุ่นแท้ๆ ได้ที่นี่” สุนิศา ลิมป์รัชตามร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไม่ตัน จำกัด อธิบายถึงที่มาโปรเจกต์ร้านราเมนแชมเปี้ยนส์

บรรยากาศ อย่างที่บอกว่าเป็นเวิ้งของนักชิมราเมน ลานกว้างด้านหน้า ทองหล่ออารีน่าเท็นแห่งนี้ จึงมีร้านราเมน 6 ร้านตั้งอยู่ใกล้กัน แต่ละร้านตกแต่งตามคอนเซปต์ของตัวเอง ภายในร้านใช้โทนสีเข้มบ้าง อ่อนบ้าง มีให้เลือกนั่งทานทั้งแบบแอร์เย็นฉ่ำในร้าน และโซนนอกร้านอากาศดี ทว่าทุกร้านจะมีจุดร่วมเดียวกันคือ คงความเป็นญี่ปุ่นไว้เต็มร้อย

เมื่อย่างกรายเข้ามาภายในเวิ้งนี้ คุณจึงได้พบกับบรรยากาศร้านราเมนญี่ปุ่นแท้ๆ คราคร่ำไปด้วยผู้คนหลากวัยเลือกดูเมนูราเมนแต่ละร้านอย่างคึกคัก ขณะที่บรรดาพนักงานเสิร์ฟ รวมถึงเชฟ (Chef) ชาวญี่ปุ่นจะออกมาตะโกนเรียกลูกค้าเสียงจอแจ ดูมีสีสันไปอีกแบบ เรียกได้ว่าชาวญี่ปุ่นมาทานจะคิดถึงบ้านขึ้นทันที ส่วนชาวไทยอย่างเรามาทาน ก็ได้กลิ่นอายญี่ปุ่นแบบสุดๆ ไปเลย

เมนูน่าซู้ด ไหนๆ ก็มีร้านดังมาให้ชิมกันถึง 6 ร้าน เราจึงไม่พลาดที่จะแสวงหา เมนูเด็ดของแต่ละร้านมาให้ได้โดนใจกันแบบครบทุกครัว ..ทัวร์ทุกร้าน

นิโดเมะ ทสึเคเมน (260บาท) แห่งร้าน “ทสึจิตะ” ถ้าใครเคยชมรายการทีวีแชมเปี้ยน ตอนแชมป์ราเมน เป็นต้องคุ้นชื่อร้านนี้เป็นแน่! และร้านนี้ภูมิใจนำเสนอเมนูนิโดเมะ ทสึเคเมน ที่มีวิธีการรับประทานแบบแยกเส้น และแยกน้ำซุปออกจากกัน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

น้ำซุปที่นี่ มีทีเด็ดสุดยอดอยู่ที่การคัดสรร กระดูกหมู และวัตถุดิบจากแดนอาทิตย์อุทัยอีกหลากชนิด มาเคี่ยวนานกว่า 7 ชั่วโมง จนได้ซุปที่เข้มข้นเป็นพิเศษ เมื่อปรุงรสได้ที่แล้ว จึงประดับด้วยหมูชาชู (Shashu) ชิ้นใหญ่ หน่อไม้ญี่ปุ่นอบแห้ง และไข่ยางมะตูมสุกกำลังดี เวลาทานให้คีบเส้นราเมน ไปแช่ไว้ในซุปสักครู่ เพื่อปล่อยให้เส้นหนานุ่มได้ซึมซับน้ำรสเด็ดอย่างเต็มที่ เมื่อคีบเข้าปากก็จะได้รสชาติอันแสนสุโค่ย!

แต่อย่าเพิ่งอร่อยจนหมดชามในคราเดียว เพราะทีเด็ดอีกอย่าง อยู่ที่มะนาวซึ่งเสิร์ฟมาด้วย ทางร้านเขาแนะว่าให้บีบลงบนเส้นราเมน เมื่อคุณทานเส้นราเมน หมดไปครึ่งชามแล้ว.. เราเชื่อฟัง ลองทำตาม ปรากฎว่าได้รสชาติ เปรี้ยวกลมกล่อม หอมมะนาว แปลกใหม่ไปอีกแบบ
(ซ้าย) นิโดเมะ ทสึเคเมน /  (ขวา) เซตากายะ ราเมน
เซตากายะ ราเมน (270 บาท) แห่งร้าน “เซตากะยะ” ร้านดังจากเขตเซตากายะ เมืองโตเกียวร้านนี้ นำเสนอ ราเมนสุดพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นจากเกลือคัมโฮอา เกลือที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นเกลือที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งสั่งตรงมาจากประเทศเวียดนาม เมื่อนำเกลือชั้นเลิศผสมเข้ากับน้ำซุปรสเข้ม ที่ได้จากการนำกระดูกหมู,โครงไก่, ผงปลาโอแห้ง และผัก เคี่ยวอยู่บนเปลงเพลิงที่ร้อนแรงนานกว่า 12 ชั่วโมง จึงได้น้ำซุปรสเลิศ ที่หวานเค็ม กลมกล่อม แถมได้ประโยชน์สุดๆ แบบนี้ นี่เอง!

ไพตัน สเปเชียล ราเมน (290 บาท) แห่งร้าน “คิบิ” ร้านคิบินี้ ในประเทศญี่ปุ่น ถือว่ามีชื่อเสียง และเป็นที่ชื่นชอบของคุณสาวๆ เป็นอย่างมาก เพราะสุดยอดน้ำซุปของที่นี่ เป็นน้ำซุปที่เปี่ยม “คอลลาเจน” (Collagen) ด้วยเทคนิค การนำไก่สดคุณภาพสูงมาเคี่ยวถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะเคี่ยวนาน 5 ชั่วโมง จากนั้นจึงทำการแยกกาก กรองจนน้ำใส แล้วเคี่ยวต่ออีก 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะได้น้ำซุปไก่เข้มข้นพิเศษ ที่สีและกลิ่นหอมเย้ายวนใจ

และใช่ว่าจะสีสวยแค่น้ำซุปข้นคลั่กเท่านั้น หน้าตาราเมนชามนี้ ก็ชนะเลิศไม่แพ้กัน เพราะเติมเต็มด้วยไข่ยางมะตูมสีสวย หน่อไม้ญี่ปุ่น ผักกวางตุ้งหวานกรอบ รวมถึงสะโพกไก่ที่หมักไว้ 1 คืนเต็ม ได้รสนุ่มชุ่มถึงเนื้อใน และหมูชาชูชิ้นเบิ้ม ที่เนื้อละเอียดนุ่มแทบละลายในปาก เครื่องเคราบังหน้าเสียเกือบมองไม่เห็นเส้นราเมนแบบนี้ แค่ชามเดียวก็อิ่มนานเกือบทั้งวันแล้วหล่ะ
(ซ้าย) ไพตัน สเปเชียล ราเมน /  (ขวา) โกะคุมิโสะราเมน
โกะคุมิโสะราเมน (220 บาท) แห่งร้าน “โกะคุมิโสะ” โกคุมิโสะราเมนชามนี้ เกิดจากการรวมตัวของสองร้านดัง (ร้านสึเคยะ และ ร้านกินยะ) ที่ต่างนำน้ำซุปสุดยอดของตนออกมาผสานกัน ทั้งน้ำซุปกระดูกที่เคี่ยวพร้อมเครื่องเทศสูตรพิเศษจากร้าน “สึเคยะ” และ ซุปมิโสะ (ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) หอมกรุ่นคุณภาพดีที่ถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคนของร้าน “กินยะ” เมื่อสองส่วนผสมได้รวมตัวกัน น้ำซุปรสเยี่ยมจึงปรากฎ

ชามนี้เห็นหน้าตาแล้วแอบตกใจ “หมูสามชั้น” ทำไมใหญ่ได้ขนาดนี้เนี้ย! วัดระยะความยาวได้เกือบครึ่งชามเลยทีเดียว ภายใต้หมูชิ้นยักษ์ เราพบเส้นราเมนสุดนุ่ม ที่ผสานไว้กับถั่วงอกต้นอ้วน ลวกจนนุ่ม เมื่อน้ำซุปรสดี ผสมกับหมูผัดพริก และข้าวโพดหวานที่โรยอยู่ด้านหน้าแล้ว จึงได้รสเผ็ดนิด หวานหน่อย กลมกล่อมน่าซู้ดเส้น-ซดน้ำให้เกลี้ยงชามโดยด่วน

ทสึเคเมน (260 บาท) แห่งร้าน “ไทโชเคน” ร้านแห่งนี้เปิดบริการที่ญี่ปุ่นมากว่า 50 ปีแล้ว โดยเจ้าของร้านได้รับการยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งราเมน” ผู้คิดค้นการกินแบบ “ทสึเคเมน” หรือการกินแบบแยกเส้น แยกน้ำ และเมนูที่นำมาแนะนำคือ เมนูทสึเคเมน ที่กว่าจะได้น้ำซุปเข้มข้น ต้องนำวัตถุดิบต่างๆ ทั้งกระดูกหมู, ข้อหมู, โครงไก่, ปลา และผักหลายชนิด มาตุ๋นและเคี่ยวนานนับสิบชั่วโมง จนได้มาซึ่งน้ำซุปค้นคลั่ก รสเยี่ยมแถมหน้าตาน่าทานม้ากมาก

ด้านหมูชาชู ชิ้นใหญ่ได้อีก มีมาให้ทานจุใจถึง 3 ชิ้นใหญ่ ประกบด้วยไข่ยางมะตูม 1 ฟอง หน่อไม้หวานอีกเพียบ ทานแล้วได้รสชาติกลมกล่อม ชุ่มชื่นลิ้น สมเป็นเมนูเด็ดจาก “เทพเจ้าราแมน” ผู้เลื่องชื่อ
(ซ้าย) ทสึเคเมน / (ขวา) โทงโทโระ ชาชู
โทงโทโระ ชาชู (280 บาท) แห่งร้าน “โชได เคสึเคะ” ซุปดำ หอมกรุ่น ละมุนลิ้นชามนี้คือ สูตรที่ได้จากการรวมตัวของ “มิโสะ” หรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น 7 ชนิด นำมาเคี่ยวผสมกับ “ถ่านไม้ไผ่” ในความร้อนคงที่ จนได้น้ำซุปถ่านไม่ไผ่ ตามสูตรเด็ดของชาวจีนโบราณ ซึ่งเป็นน้ำซุปสีเข้ม รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของถ่านไม้ไผ่ ติดปลายจมูกเล็กน้อย อร่อยแปลก และแตกต่างแบบ หาได้ยากจริงๆ

ที่ตั้ง ทองหล่ออารีน่าเท็น ซอยทองหล่อ10

เวลาอร่อย จันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดให้อร่อยยาวตั้งแต่ 11.00-24.00 น. จ้า



 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net

Comments are closed.

Pin It