Art Eye View

Dominic Fonde ผู้ฝากรอยสลักบน ขวดน้ำหอมแบรนด์ดัง อาทิ Givenchy,Versace ฯลฯ

Pinterest LinkedIn Tumblr


วางขวดน้ำหอมแบรด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Givenchy,Versace, Jimmy Choo และ Guerlain ที่เขาเคยทำหน้าที่แกะสลักลวดลายอันงดงาม ลงบนขวดเป็นอภินันทนาการแก่ลูกค้า ในทุกคราวที่ แบรนด์ดังเหล่านี้ จัดงานเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ๆ ในประเทศสิงโปร์

เพื่อนำผลงานแกะสลักบนกระจก และงานแกะสลักแก้ว มาจัดแสดงที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก สำหรับศิลปินชาวอังกฤษ Dominic Fonde ผู้มาปักหลักใช้ชีวิตและทำงานเป่าแก้ว อยู่ที่แดนลอดช่อง

และมีโอกาสทำงานให้บรรดาน้ำหอมแบรด์ดัง มาตั้งแต่ ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาจะมีเวลาในการฝากรอยสลักลงบนขวดน้ำหอมแต่ละขวด เพียง 5 นาทีเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศของแขกวีไอพี ที่มารอคอยชมขวดน้ำหอมที่มีเพียงหนึ่งเดียวของตัวเอง ด้วยใจระทึก

Dominic เรียนจบมาทางด้านการเป่าแก้วจากประเทศอังกฤษ และในช่วงที่เรียนปริญญาโทมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กับศิลปิน ที่มีความเชี่ยวชาญในการแกะสลักกระจก ฝึกฝนตัวเองจนกระทั่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้เพิ่มขึ้นมาด้วย

ระหว่างที่ยังทำงานศิลปะส่วนตัวและเขียนบทความด้านการเป่าแก้วให้กับนิตยสารเล่มหนึ่ง ในวันที่มองผ่านกระจกห้องทำงานออกไป และสัมผัสได้แต่บรรยาศของท้องฟ้าที่มืดครึ้มและฝนที่กำลังกระหน่ำหนัก เขาได้ตัดสินใจทิ้งอังกฤษ บินมาทำงานเป่าแก้วที่สิงคโปร์ ทันทีที่ทราบว่า ประเทศซึ่งหากไกลบ้านเกิดต้องการบุคคลากรทางด้านนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่เคยหยุดฝึกฝนและสร้างงานแกะสลักกระจก



The Feather and the Shadow นิทรรศการชุดเล็กๆ ที่ขนมาจัดแสดง มีทั้งผลงานแกะสลักโน๊ตเพลงคลายสิคเมื่อ 200 ปีก่อน ,เรื่องเล่าสั้นๆเกี่ยวกับน้ำหอม, กาน้ำชา และนก สัตว์ที่ Dominic ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ และก่อนหน้านี้เขาเคยมีผลงานร่วมแสดงกับเพื่อนหลากเชื้อชาติในนิทรรศการ bird song

ซึ่งเสน่ห์ในชิ้นงานที่นำมาจัดแสดง สิ่งที่ผู้ชมจะสัมผัสได้ไม่ใช่ชิ้นงาน หากแต่เป็นเงาที่สะท้อนออกมาจากชิ้นงานนั่นเอง และจะเกิดเป็นเงาที่สวยงามได้ ขึ้นอยู่กับแสงไฟที่ส่องไปยังชิ้นงานนั้น ๆ

“ผมอยากให้ลองสังเกตดีๆว่า ไอ้สิ่งที่เราเห็น มันไม่ใช่ตัวตนจริงๆของตัวงาน แต่แท้ที่จริงแล้วคือเงาของมัน ทั้งๆที่ชิ้นงานแต่ละชิ้นมีคุณภาพของการแกะสลักเท่าๆกัน แต่ความสวยงามของเงาจะต่างกันไป ทันทีที่คุณภาพของแสงไฟต่างกัน”

เสน่ห์ที่ดูลึกลับนิดๆในงานแกะสลักกระจกของ Dominic เหมือนจะบอกผู้ชมเช่นกันว่า บางทีความสวยงามที่มากขึ้นหรือการถูกลดคุณค่าลงของสิ่งต่างๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวมันเองเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งแวดล้อมก็มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ชีวิตของคนๆหนึ่งก็คงไม่ต่างกัน

ในงานชุดเดียวกันนี้ Dominic ยังมีงานแกะสลักแก้ว เป็นรูปตัวละครครึ่งคนครึ่งนกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายกรีก มาวางเคียงข้างผลงานแกะสลักแก้วที่มีหน้าตาคล้ายสวนวงกต ของเพื่อนศิลปินชาวสิงคโปร์ด้วย

รวมถึงจานใบสวยที่แกะสลักลวดลายเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับนกฟีนิกซ์ ที่เคยมีตำนวนกล่าวว่า

“เป็นนกที่อมตะ มีชีวิตยืนยาว แต่พอเกิดมาปุ๊ปมันมักจะเผาตัวเองให้กลายเป็นเถ้าถ่าน และคนที่อยากมีชีวิตยืนยาวก็จะไปเก็บเอาเถ้าถ่านที่พอจะเหลืออยู่ มาทำเป็น ภาชนะ ประเภท ถ้วย ชาม จาน แก้วฯลฯ และต่างพากันเชื่อว่า หากใครได้รับประทานอาหารที่ใส่ในภาชนะนั้น ชีวิตจะยืนยงคงกระพัน ไม่มีวันตายไปจากโลกนี้”

The Feather and the Shadow วันนี้ – 27 สิงหาคม 2554 ณ Thavibu Gallery อาคารเดอะสีลม แกลเลอเรีย ชั้น 3 ถ.สีลม ซ.19

และ วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2554 ห้ามพลาดไปชมสาธิตการแกะสลักระจก พร้อมฟังศิลปินพูดถึงผลงานในนิทรรศการชุดนี้ สำรองที่นั่ง โทร.0-2266-5454

Text by ฮักก้า

ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ และ Celeb Online www.astvmanager.com โทร.0 -2629 – 4488 ต่อ 1530 Email: thinksea@hotmail.com

Comments are closed.

Pin It