>>“Aston” ร้านอาหารแสนเก๋ในซอยสุขุมวิท 31 ของเชฟต้น – ศรา จิรารัตน์ ที่มีอาหารอร่อยๆ และคอนเซ็ปต์แสนเก๋ที่ถูกใจนักชิมผู้ทันสมัย ด้วยการบริการเมนูอร่อยๆ ที่พิถีพิถันและบรรจงรังสรรค์ในทุกคำ เป็นมื้อดินเนอร์แสนพิเศษที่ต้องโทรศัพท์จองคิวล่วงหน้ากันเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว
ร้านอาหารชื่อ Aston นี้หลายคนอาจจะรู้จักตั้งแต่เมื่อตอนสมัยเปิดบริการเป็นครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ CDC ในนาม The Aston Gastro Bar ที่สร้างความฮือฮาในสไตล์การปรุงอาหารที่แตกต่างด้วยคอนเซ็ปต์แบบ Molecular Gastronomy ที่ทั้งอร่อยและสร้างความประหลาดใจในทุกคำ มาคราวนี้ร้านย้ายมาเปิดที่ซอยสุขุมวิท 31 ในแบบ Aston Dining Room & Bar ที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น และยังคงสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นกว่าร้านทั่วไป ด้วยคอนเซ็ปต์ Chef’s Table ประสบการณ์ความอร่อยที่แสนพิเศษ
การบริการแบบ Chef’s Table คือการจัดโต๊ะพิเศษในครัวสำหรับลูกค้าคนสำคัญ ได้นั่งรับประทานพร้อมกับชมการทำงานของเชฟอย่างใกล้ชิด ซึ่งแม้ในเมืองไทยอาจยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก แต่สำหรับในต่างประเทศ นี่เป็นรูปแบบของร้านอาหารในยุคใหม่ ที่มีในทุกหัวเมืองใหญ่ที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรมการกิน บรรดาเชฟคนดังต่างหันมาเปิดร้านแบบ Chef’s Table ที่จัดเป็นร้านขนาดไม่กี่ที่นั่งกับครัวที่เปิดโล่ง เพื่อเปิดโอกาสให้แขกทุกคนรู้สึกราวกับเป็นคนพิเศษที่ได้รับบริการแบบใกล้ชิดกับเชฟและได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงเมนูแสนอร่อยเหมือนอย่างที่ร้าน Aston นี้
ก่อนหน้านี้คำว่า Chef's Table เกิดขึ้นด้วยการที่เชฟดังของร้านอาหารยอดนิยมจัดสรรบริการแบบพิเศษคือ เปิดครัวที่บ้านตัวเองให้บริการลูกค้าระดับ VIP ที่ให้ความสนิทสนมพาไปสัมผัสกับกระบวนการปรุงพร้อมพูดคุยแนะนำเมนูได้อย่างใกล้ชิด หรือไม่ก็อาจจะเปิดครัวของทางร้านในช่วงเวลาพิเศษนอกเหนือเวลาเปิดร้านเพื่อให้เข้าไปนั่งทานเมนูพิเศษที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ โดยจะจัดเป็นดินเนอร์มื้อเล็กๆ ประมาณไม่ถึง 10 ที่นั่ง ที่สามารถนั่งล้อมรอบเคาน์เตอร์ครัวได้แบบสบายๆ จนกระทั่งมาในช่วงหลังนี้จึงได้ปรับแนวคิดไอเดียมาเป็นร้านอาหารที่ให้บริการแนวนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเราจะพบเห็นได้อย่างแพร่หลายในเมืองแห่งนักชิมอย่างนิวยอร์กหรือโตเกียว
สำหรับที่กรุงเทพฯ เราก็เริ่มเห็นร้านในแนวนี้เปิดให้บริการแล้วบ้าง แต่ที่ร้อนแรงที่สุดต้องยกให้ร้าน Aston นี้ ที่เปิดให้บริการได้เพียงวันละ 16 ท่านเท่านั้น โดยทุกท่านจะได้นั่งติดเคาน์เตอร์ครัว รับชมการทำงานของเชฟกว่า 10 คนในร้านช่วยกันปรุงอาหารแต่ละจาน โดยเมนูของร้านนี้จะเสิร์ฟเป็นคอร์สที่เชฟได้คิดสรรมาแล้วจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเพื่อความอร่อยที่สุด ซึ่งอาจจะแตกต่างเมนูกันออกไปในแต่ละวัน พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอย่างค็อกเทลจากมิกโซโลจิสต์ฝีมือดีและไวน์ฝรั่งเศสจับคู่รับประทานกับเมนูต่างๆ ด้วย
ที่ร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นล่างสุดเป็นบาร์ สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่ม และนั่งชิล เป็นที่รองรับสำหรับเหล่าสมาชิกร่วมมื้ออาหารให้มารับบริการความอร่อยพร้อมๆ กัน ถัดมาชั้น 2 เป็นคิตเช่น เธียเตอร์โรงใหญ่ ที่นั่งรับประทานอาหารและรับชมการปรุงทุกขั้นตอนไปพร้อมๆ กัน และในชั้น 3 เป็นไวน์เซลล่าที่เชฟต้นเก็บไวน์ฝรั่งเศสไว้ให้ลูกค้าได้เลือกดื่มกัน ท้ายสุดคือชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สวนครัวเล็กๆ ที่เชฟต้นจัดให้เชฟทุกคนได้ปลูกพืชผักที่ใช้ปรุงอาหารในแต่ละเมนู เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผักแบบออร์แกนิกแท้ๆ ที่ทั้งสะอาด บริสุทธิ์ และสดอร่อย
เรียกได้ว่าทุกจานของร้านนี้คิดสรรในการทำมาแบบตั้งใจกันสุดๆ ลูกค้าเพียงไม่ถึง 20 คน และเมนูราว 7-10 คอร์ส แต่มีเชฟที่คอยดูแลมากถึง 10 คน และแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบแต่ละเมนูแตกต่างกันไป ซึ่งเมนูที่คิดค้นมาแต่ละจานผ่านการสร้างสรรค์กันแบบสุดๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดสรรวัตถุดิบ การเตรียมพร้อมเครื่องปรุงต่างๆ ไปจนถึงเทคนิคการทำที่ผสมผสานตำรับความอร่อยดั้งเดิมและเครื่องมือสุดทันสมัยเพื่อความอร่อยในทุกอณู
เมนูที่ให้บริการนี้ จะไม่ได้มีเมนูให้เลือกสั่งแบบ A-la-carte แบบร้านทั่วไป แต่จะเป็นเมนูที่เชฟต้นเลือกจัดมาแล้วเป็นคอร์ส เรียงลำดับมาเป็นอย่างดี และจะมีการผลัดเปลี่ยนไปในทุก 3 เดือน แต่รับรองว่าทุกเมนูผ่านการคัดสรรมาแล้วว่า อร่อย มีคุณภาพและประทับใจในทุกจาน ซึ่งไม่เพียงแค่รสชาติที่ดีเท่านั้น แต่การจัดจาน การเสิร์ฟและการเลือกใช้ภาชนะล้วนทำให้เป็นทั้งอาหารปากและอาหารตาในจานเดียวกัน รับรองว่าคุณจะต้องอดใจไม่ไหวต้องหยิบมือถือมาถ่ายแชร์ยั่วน้ำลายเพื่อนแน่ๆ
ส่วนใครที่ชอบรับประทานอะไรหรือไม่ชอบอะไร สามารถพูดคุยปรึกษาและแจ้งกับทางร้านได้ ตั้งแต่ตอนโทร.ไปจองที่นั่ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้อาหารที่ถูกปากและถูกใจที่สุด โดยสามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ Aston Dining Room & Bar ในซอยสุขุมวิท 31 โทรศัพท์ 0-2102-2323 หรือที่ 08-4551-5559 :: Text by FLASH
Comments are closed.