Celeb Online

สตรีหมายเลขหนึ่ง! โดนหางเลข เมื่อสามีสิ้นอำนาจ


การเมืองใครว่าเป็นเรื่องของผู้ชาย ผู้หญิงไม่เกี่ยว แต่เมื่อผู้ชายนักการเมืองสิ้นอำนาจด้วยเรื่องฉาว สตรีหมายเลขหนึ่งจะกลายเป็นเป้าที่พ่วงหางเลขการแฉไปด้วย ไม่ว่าเธอจะเป็นสตรีที่เป็นอิสระ หรือเป็นตัวของตัวเองอย่างไร แต่ก็ได้ตกร่องปล่องชิ้นมากับผู้ชายของเธอ


:: “แองเจลิกา ริเวรา” อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของเม็กซิโก

ท่ามกลางความวุ่นวายของข้อหาคอร์รัปชันกับสามีของเธอ ประธานาธิบดีเอนริเก เปนา นิเอโต เธอบอกว่าจะขายแมนชั่นมูลค่าหลายล้านบนทำเลที่ดีที่สุดของ เม็กซิโกซิตี

แองเจลิกาบอกว่า ไม่มีอะไรต้องปิดบัง “ฉันทำงานหนักมาตลอดชีวิต และฉันก็เป็นผู้หญิงที่รักอิสระ ที่สามารถสร้างมรดกจากพ่อแม่ด้วยความจริงใจ”

แองเจลิกาและสามี ประธานาธิบดี เอนริเก ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ตั้งแต่การรับมือเรื่องการหายตัวไปของนักศึกษา 43 คน หลังจากถูกตำรวจจับตัว และยังมีประเด็นที่ อริสเตกุย โนติซิอาส รายงานว่า บ้านพักของเขาที่ถอดแบบมาจากทำเนียบขาว มูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น ทำให้เขาได้เงินใต้โต๊ะจากบริษัทก่อสร้างไปอีกอักโข

บ้านหลังดังกล่าว (ที่แองเจลิกาจะขาย) เป็นหลังเดียวกับที่ลงตีพิมพ์ในแมกกาซีน โอล่า ตามที่ อริสเตกุยรายงานว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ระหว่าง เอนริเก กับบริษัท กรุปโป ไอก้า จากการสืบสวนพบว่า กรุปโป ไอก้า มี ฮวน อาร์มันโด ไอโนโฮซา กันตู เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เช่าเครื่องบินของเอนริเก ไปช่วยโปรโมตแคมเปญลงเลือกตั้งประธานาธิบดีของเขาเอง

อริสเตกุย ยังขุดคุ้ยไปถึงตอนที่ เอนริเกเป็นนายกเทศมนตรี ก็มีการรับผลประโยชน์ใต้โต๊ะเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเมื่อเขาเข้ามามีอำนาจในทำเนียบ ฮวนเป็นคนหนึ่งที่ได้ผลประโยชน์จากสัญญาจ้างโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลคิดขึ้นมา ล่าสุดคือ รถไฟความเร็วสูง จากเม็กซิโกซิตี ไปยัง เควเรตาโร

พอตกเป็นข่าวฉาว เอนริเกก็ประกาศยกเลิกสัญญา มูลค่า 3.7 พันล้านทันที ขณะที่ แองเจลิกาบอกในยูทูบว่า สามีของเธอไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย บ้านหลังนี้เป็นเงินที่เธอได้มาตอนเป็นนักแสดงทีวี ราวๆ 10 ล้านดอลลาร์

“ฉันมีเอกสารต่างๆ ครบในการซื้อขายบ้าน ใครอยากจะมาดูก็ได้”


:: “รอสมาห์ มันซอร์” อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งมาเลเซีย

ตอนที่ “นาจิบ ราซัก” อดีตนายกรัฐมนตรีแพ้การเลือกตั้ง หมดอำนาจไปเพราะสงสัยว่าจะทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะ กรณี 1MDB ที่มีเงินหายไปจากกองทุนหลายพันล้าน จากคดีนี้ ทำให้มาตรวจพบสินค้าแบรนด์เนมที่บ้านของพวกเขามูลค่าหลายล้าน

ภรรยาของเขา “รอสมาห์ มันซอร์” ถูกตรวจสอบพบว่า เธอฟอกเงิน และโกงภาษี นอกจากนี้ ยังมีนอกมีในกับโครงการต่างๆ ของรัฐบาลมากมาย อย่างเช่น โครงการโซล่าเซลล์ เธอถูกจับและถูกดำเนินคดีทันที จนถึงบัดนี้ยังไม่จบ


:: “อัสมา อัล-อัสซาด” สตรีหมายเลขหนึ่งซีเรีย

“อัสมา อัล-อัสซาด” สตรีหมายเลขหนึ่งซีเรีย อาจจะต้องสูญเสียสัญชาติอังกฤษ ด้วยข้อหาว่าเธอเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะว่าสนับสนุนกองทัพของสามีประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ก่อสงครามก่อการร้าย

อัสมา อัล-อัสซาด เกิดและศึกษาในลอนดอน ก่อนจะกลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของซีเรียในปี 2000 ตอนนี้ อังกฤษกำลังสืบสวนว่าเธออาจจะทำผิดกฎหมายของสหราชอาณาจักร หลังจากการกล่าวให้กำลังใจทหารซีเรีย โดยมีข้อความให้ใช้อาวุธเคมี

ซีเรียมีสงครามกลางเมืองมาตลอด 10 ปี ทหารมักจะอาศัยความอดอยากเป็นอาวุธ มีการข่มขืนและคุกคามทางเพศ ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายด้านมนุษยชนระหว่างประเทศอยู่แล้ว

สหประชาชาติ มีมติไม่ยอมรับการใช้อาวุธเคมีกับพลเมือง การที่ อัสมา ไปพูดอย่างนั้น อาจถูกข้อหาอาชญากรสงครามและผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาจสูญเสียสัญชาติอังกฤษรวมทั้งถูกแซงชั่นจากสหรัฐฯ และยุโรป

ลูกสาวหมอจาก ฮารลีย์ สตรีท เจ้าของ คิงส์ คอลเลจ ดีกรี ด้านภาษาฝรั่งเศส และวิทยุคอมพิวเตอร์ ยังอาจจะถูกจับมาสอบสวนลงโทษด้วย

ตอนที่ บาชาร์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี เขาบอกว่า จะทำประเทศให้เป็น ‘โมเดิร์นซีเรีย’ หลังจากนั้นเริ่มเกิดการต่อต้านของผู้คนในปี 2011 เขาก็ส่งทหารออกมาสังหารผู้ประท้วงรัฐบาล

อัสมาสนับสนุนสามีด้วยการมาพูดให้กำลังใจทหาร แถมยังกอดให้กำลังใจทหารหญิงอีกด้วย