แม้จะเริ่มจากความรู้สึกไม่ชอบการเขียนเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยความที่เป็นสาวนักเดินทาง บวกกับชอบเรื่องแฟชั่นและความสวยความงาม จึงมีเรื่องราวใหม่ๆ มาแบ่งปันเล่าอยู่เสมอ ทำให้ “พัด-พรรษมน พิริยะเมธา” ผู้บริหารสาวเก่งแห่ง Prestige Limousine อดใจไม่ไหว ต้องขอลุกขึ้นมาสวมบทไลฟ์สไตล์บล็อกเกอร์ ที่พร้อมเสิร์ฟเรื่องราวดีๆ ในหลากหลายแง่มุม ทั้งเรื่องการเดินทาง อาหาร แฟชั่น ไปจนถึงความสวยความงาม
“พัดเริ่มทำเพจและเว็บไซต์ของตัวเองมาได้ 4-5 ปีแล้วค่ะ จุดเริ่มต้นมาจากเราเป็นคนชอบเที่ยว เวลาไปไหนก็จะโพสต์รูปที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหารลงอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อนๆ ก็จะทักมาตลอดว่าไปเที่ยวที่ไหน จองอย่างไร ไปกินอาหารร้านไหนให้เราช่วยแนะนำ จากตรงนั้นเลยคิดว่า ในเมื่อเรามีข้อมูลเราน่าจะมาทำเป็นเรื่องเป็นราว แต่ด้วยความที่เราเป็นคนทำอะไรแล้วต้องไปให้สุด เลยลุยทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเปิดเพจในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเว็บไซต์ของตัวเอง
ถามว่าลุยเองทั้งหมดแบบตัวคนเดียว หรือมีทีมคอยช่วย สาวสวยอมยิ้มก่อนเฉลยว่า ค่อยๆ ศึกษาและทำเองเกือบทั้งหมด เพราะเรียนด้านแฟชั่นดีไซน์มาอยู่แล้ว เลยพอมีพื้นฐานในการออกแบบ ยกเว้นตอนที่ต้องจดโดเมนที่ไปขอให้ไอทีที่บริษัทช่วย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะโจทย์ที่ใหญ่สำหรับพัดในตอนเริ่มต้นคือ การเขียน
“อย่างที่บอก พัดเป็นคนไม่ชอบเขียน จะเรียกว่าเกลียดการเขียนก็ได้ แค่เขียนการ์ดวันเกิดพัดยังรู้สึกว่ายาก เพราะไม่รู้จะเขียนอะไร แต่พอมาเป็นบล็อกเกอร์อย่างไรก็ต้องเขียน ช่วงแรกๆ พัดเขียนเสร็จแล้วส่งไปให้เพื่อนๆ ช่วยรีวิว เพื่อนๆ ก็จะคอมเมนต์กลับมาว่าเขียนทางการไป น่าจะให้เป็นกันเองกว่านี้ หรือน่าจะเขียนให้สั้นกว่านี้แล้วให้รูปช่วยเล่าเรื่อง เราก็ค่อยๆ ปรับไป จนตอนนี้ก็โอเคขึ้น”
มาถึงรสนิยมในการเดินทางในแบบฉบับของสาวสวย พัดบอกว่าเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ “จริงๆ พัดชอบเที่ยวในเมือง ไปดูความสวยงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ แต่ถ้าให้ไปเที่ยวแบบชมความงามของธรรมชาติ ก็ชอบเหมือนกัน สวยคนละแบบ ปกติทริปของพัดจะไม่ค่อยไปกับครอบครัว เพราะคุณพ่อคุณแม่ท่านชอบไปเที่ยวกันสองคน พัดเองถ้าไม่ไปกับเพื่อน น้อง ก็ไปกับแฟนแล้วแต่โอกาส แต่ที่แน่ๆ พัดไม่ชอบเที่ยวคนเดียว เพราะรู้สึกว่าเหงาไปหน่อย(หัวเราะ) อย่างน้อยมีคนไปด้วยก็มีคนช่วยถ่ายรูปให้”
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นคนที่เดินทางตลอด อย่างน้อยถ้าไม่มีทริปยาว ทุก 1-2 เดือน ก็ต้องจัดทริปไปต่างจังหวัด แต่ตั้งแต่โควิด-19 มาเยือน หลายทริปก็ต้องถูกพักไปโดยปริยาย
“แต่ก่อนพัดไปหัวหินบ่อยมาก แต่หลังๆ คนเยอะ รถติด เลยเปลี่ยนไปภูเก็ต เชียงใหม่ เพราะมีร้านน่ารักๆ อาหารอร่อย มีโรงแรมสวยๆ ยิ่งปีที่แล้ว โรงแรมห้าดาวมีโปรโมชันดีๆ เยอะมาก พัดก็ตระเวนไปพักมาหลายที่ หนึ่งในโรงเรมที่ไปแล้วชอบมากคือ โรงแรมศิลาวดี ที่สมุย ทุกทริปของพัดเน้นว่าต้องวางแผนไว้ก่อนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แวะร้านไหน เพราะด้วยความที่ชอบแต่งตัวเราต้องเตรียมชุดไปให้แมตช์กับสถานที่ ยิ่งถ้าไปกับน้องสาว เราเป็นคอเดียวกัน ก็ช่วยกันหาข้อมูล จะว่ามีความสุขก็มีนะ แต่บางทีพอเราหาเยอะ ต้องลงดีเทลว่าร้านอยู่ไหน เปิดปิดกี่โมง จะได้ไม่ไปแล้วเก้อ ก็เหนื่อยเหมือนกัน”
แต่ถึงจะเตรียมตัวมาดีแค่ไหน สี่เท้าก็ยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง หนึ่งในทริปที่จำไม่ลืมของพัดคือ ทริปมัลดีฟส์
“ด้วยความที่ไว้ใจน้องสาว เพราะเคยไปพักค้างคืนที่มัลดีฟส์มาแล้ว แต่พัดเคยไปแค่ดำน้ำแล้วก็กลับ เลยให้น้องจัดการ ปรากฏว่าน้องจำสลับหมด เลยทำให้ทริปป่วนตั้งแต่เริ่มต้น (หัวเราะ) อย่างคืนแรก เราวางแผนว่าจะพักที่มาเลย์ก่อน เพราะกว่าจะบินไปถึงก็ตอนเย็นแล้ว ปรากฏตอนที่เครื่องจะลงจอดกัปตันประกาศว่า ขณะนี้เวลา 11.30 น. เราก็งงไหนว่าจะมาถึงตอนเย็น ปรากฏว่าน้องจำผิดว่ามาถึงเย็น เพราะครั้งก่อนที่น้องมาเขาตกเครื่องเลยเสียเวลา กลายเป็นว่า วันแรกของทริปชาวคณะต้องนอนอยู่มาเลย์แบบไม่มีอะไรทำ แถมพอมาดูตั๋ววันกลับถึงได้รู้ว่า เครื่องไม่ได้ออกเย็นแต่ออก 11 โมงเช้า หมายความว่าต้องออกจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ เราเลยตัดสินใจเลื่อนตั๋วกลับ เพื่อที่คืนสุดท้ายจะได้ย้ายมานอนที่มาเลย์แทน สรุปง่ายๆ คือ น้องจำสลับหมดหัวท้าย”
ผ่านทริปป่วนมาแล้ว มาถึงทริปที่ประทับใจไม่ลืม พัดขอยกให้โรดทริปที่ไปโอมานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
“พัดอยากไปโซนตะวันออกกลางอยู่แล้ว เพราะยังไม่เคยไปและเห็นรูปที่เพื่อนถ่ายมาก็สวยน่าไป เลยชวนเพื่อนอีกคนไปด้วยกัน 12 วัน เริ่มจากนั่งเครื่องไปลงดูไบแล้วก็ต่อไปโอมาน ขับรถไปยูเออี ไปเที่ยวเกาะเซอร์บานียาส ซึ่งอยู่ใกล้ๆ อาบูดาบี นอกจากจะมีรีสอร์ตให้พัก สุลต่านของเขายังเนรมิตทะเลทรายให้กลายเป็นสวนสัตว์เพื่อให้คนมาเที่ยว อารมณ์เหมือนขับรถส่องสัตว์ที่แอฟริกา เพราะเขาจะปล่อยให้สัตว์อยู่แบบธรรมชาติ ให้อาหารแค่ 10% แต่มีการวางระบบประปาเพื่อให้มีแหล่งน้ำ มีระบบนิเวศน์ที่ทำให้สัตว์สามารถอยู่ได้
พูดถึงโรดทริป หลายคนไม่ค่อยคิดถึงตะวันออกกลาง แต่เท่าที่พัดเคยไปโรดทริปมา คิดว่าถนนของเขาดีที่สุดในโลกเลยนะ เนียนกริบแบบแต่งหน้าทามาสคาราได้ เป็นถนนโล่งๆ แต่ห้ามขับความเร็วเกิน 120 กม./ชม. สองข้างทางจะเป็นทะเลทราย ไม่มีร้านขายของหรือห้องน้ำให้แวะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะไปก็อาจจะต้องเตรียมเสบียง ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยเลย”
งานนี้พัดยังบอกด้วยว่า เวลาไปทริปยาวๆ เธอจะไปกับเพื่อนที่รู้ใจ เที่ยวสไตล์เดียวกัน จะได้ไม่ปวดหัว ส่วนจะถ่ายรูปสวยมั้ยไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าอยากได้มุมไหน เธอจัดมุมไว้ให้เสร็จสรรพ แค่กวนให้เพื่อนช่วยกดชัตเตอร์พอ
“จริงๆ คนที่สอนพัดถ่ายรูปคือ น้องสาว แต่ก่อนเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เขาจะเล็งไว้เลยว่าจะเอามุมไหนแล้วให้เรากด พอถ่ายให้เขาบ่อยๆ ก็เริ่มเรียนรู้ จนตอนหลังก็ซื้อกล้องมาไว้ถ่ายของตัวเอง เพราะภาพที่ออกมาสวยกว่าใช้มือถือถ่าย เอามาลงบล็อกได้ด้วย อย่าง ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พอมีเวลามากขึ้น พัดก็ไปซื้อขาตั้งกล้อง มาไว้รีวิวพวกเครื่องสำอาง สกินแคร์ บางทีถ่ายเอง แต่บางครั้งก็ให้น้องสาวกับคุณแม่ช่วยถ่ายให้ เพราะมีช่วงหนึ่งน้องสาวโสด เขาชวนคุณแม่ไปเที่ยว ให้คุณแม่ช่วยถ่ายรูป คุณแม่ก็เลยจะพอรู้มุมให้คำแนะนำเวลาอยู่หน้ากล้องได้ด้วย แต่พอถ่ายเสร็จพัดก็จะตัดต่อเอง เริ่มจากไม่เป็นเหมือนกัน ค่อยๆ เรียนรู้มาเรื่อยๆ”
นอกจากจะสนุกกับการเป็นบล็อกเกอร์ พัดยังปวารณาตัวเป็นทาสแมวตัวแม่ หลงใหลในความขี้อ้อนของแมวที่เลี้ยงอยู่ 3 ตัว จนแค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งพวกมันจะจากไป ก็ทำเอาน้ำตาเกือบไหล
“ตอนนี้เป็นทาสแมวค่ะ เลี้ยงอยู่ 3 ตัว เวลาซื้อของเล่นให้น้องแมวจะลุ้นมากว่าจะชอบมั้ย เพราะบางทีคิดว่าซื้อสิ่งนี้มาถูกใจแน่ๆ ดันไม่ชอบ แต่กลับไปชอบลังกระดาษที่แม่บ้านวางทิ้งไว้ (หัวเราะ)” พัดเล่าไปขำไป ก่อนเสริมถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาเลี้ยงแมว
“แต่ก่อนพัดเคยเลี้ยงหมา แต่มีความจำที่ไม่ดี เพราะตอนพัด 5 ขวบพาหมาไปขูดหินปูน ปรากฏว่าหมาตายหลังเจอวางยาสลบ เลยฝังใจไม่อยากเลี้ยงสัตว์อะไรอีก จนมาถึงแมวจริงๆ ตอนแรกก็ไม่อิน เพราะน้องสาวเคยไปเก็บแมวมาเลี้ยง แต่แมวตัวนั้นไม่ได้เป็นแนวขี้อ้อน จะติดแต่แม่บ้านที่เป็นคนให้ข้าวเท่านั้น จนวันหนึ่งน้องสาวไปซื้อแมวมาเลี้ยง ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปซื้อแมวสายพันธุ์ Exotic แต่ไปแพ้แววตาขี้อ้อนของเจ้าแมวสายพันธุ์สกอตติชโฟลด์ เลยซื้อมาแล้วเอามาฝากพัดเลี้ยง เลี้ยงไปเลี้ยงมา พัดก็ตกหลุมรักเลยยึดมาเป็นลูกซะเลย
ต่อมาแมวที่พัดเลี้ยง ซึ่งเป็นตัวผู้นะคะ ไปมีลูก เจ้าของทางโน้นเลยแบ่งมาให้พัด 1 ตัว ตอนแรกแฟนเก่าพัดจะเอาไปเลี้ยง แต่ตอนยังตัวเล็กๆ ก็ให้พัดช่วยดูก่อน จะมารับไปเลี้ยงบางวัน จนพัดกับแฟนเลิกกัน ก็เลยกลายเป็นว่าพ่อแม่แยกทาง แต่ยังช่วยกันดูแลลูกอยู่ พอเป็นอย่างนี้ แฟนใหม่ก็กลัวว่าพัดจะเหงาเวลาแมวไม่อยู่เลยไปซื้อแมวมาให้อีกตัว กลายเป็นว่าตอนนี้พัดเลยมีลูก 3 ตัว”
ในฐานะคนที่เลี้ยงทั้งหมาและแมวมาแล้ว ถามว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน พัดบอกว่าว่า “จริงๆ พัดก็ชอบเลี้ยงหมา เพราะเป็นคนชอบบงการนิดๆ (หัวเราะ) ซึ่งถ้าเป็นหมาเราสามารถฝึกและสั่งให้ทำตามคำสั่งได้ แต่หมาก็จะมีความติดเจ้าของ เวลาเราไม่อยู่ก็อาจจะเครียด ตรอมใจ ผิดกับน้องแมวที่จะขี้อ้อนบางเวลา แต่ไม่ได้ต้องการอยู่กับเจ้าของตลอดเวลา ซึ่งก็อาจจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพัดมากกว่า ที่ชอบเดินทาง เวลาไปทริปก็ให้ที่บ้านช่วยดู เพราะพัดอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว”
อัปเดตเรื่องไลฟ์สไตล์มาพร้อมหอมปากหอมคอ มาถึงงานหลักที่สาวพัดดูแล ซึ่งไม่หนีจากไลฟ์สไตล์ที่เธอชื่นชอบ อย่าง การท่องเที่ยว
“งานหลักของพัดคือ ช่วยคุณแม่บริหารธุรกิจลีมูซีน ซึ่งเปิดมาได้ 2 ปี ธุรกิจกำลังไปได้สวย แต่ก็มาสะดุดเพราะโควิด-19 ช่วงนี้เลยต้องพยายามประคับประคองธุรกิจด้วยการลดค่าใช้จ่าย เพื่อรอให้สถานการณ์กลับมาปกติ”
ถามว่าเรียนแฟชั่นดีไซน์แต่ทำไมมาทำธุรกิจครอบครัว พัดบอกว่า “ชอบด้านดีไซน์ วาดรูปมาตั้งแต่เด็ก ตอนแรกลังเลว่าจะเรียนต่ออินทีเรีย ดีไซน์ หรือ แฟชั่นดีไซน์ดี แต่เพราะเป็นคนชอบแต่งตัว เลยคิดว่ามาสายแฟชั่นน่าจะเหมาะกว่า เผื่ออนาคตจะทำแบรนด์เป็นตัวเอง แต่เรียนไปถึงปี 3 ก็รู้ตัวเลยว่า ดีไซเนอร์อาจจะไม่ใช่ทาง การปั้นแบรนด์ของตัวเองเหนื่อยมาก เลยคิดว่าอาจจะเบนเข็มไปนำเข้าแบรนด์ หลังจากไปเรียนต่อปริญญาโทด้านแฟชั่น มาร์เก็ตติ้ง แต่ยังไม่ทันได้ไป คุณแม่ก็ชวนให้มาทำงานที่บ้าน จากที่กะลองทำเล่นๆ ปรากฏยิงยาวมา 10 ปีแล้ว”
งานนี้แม้จะไม่ได้เรียนมาสายตรง แต่พัดก็นำประสบการณ์ที่ชอบเดินทางมาต่อยอดในการดูแลด้านเซลล์และการดีลกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
“ความสนุกของงานพัดคือ ได้ออกไปเจอผู้คน ไม่ต้องนั่งอยู่ออฟฟิศทั้งวันไม่จำเจ เพราะลูกค้าแต่ละรายที่เราต้องเจอก็ไม่เหมือนกัน นอกจากติดต่อลูกค้า พัดยังนำประสบการณ์จากการไปใช้บริการโรงแรมหรู หรือลีมูซีนในต่างประเทศ มาต่อยอดบริการของเรา ควบคู่ไปกับการปรับปรุงระบบหลังบ้านให้ได้มาตรฐาน เทรนนิ่งพนักงานในส่วนบริการ ว่าต้องสื่อสารกับลูกค้าแบบไหน ซึ่งเป็นงานที่พัดค่อนข้างชอบ และยิ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ทำให้บริหารเวลาตัวเองได้ มีเวลาไปทำงานอดิเรกที่ชอบ”
ปิดท้ายด้วยสไตล์การแต่งตัวของสาวสวย “พัดไม่เน้นตามเทรนด์ หรือ เจาะจงว่าเป็นแฟนของแบรนด์ไหน แต่เน้นแพตเทิร์นและดีเทลของชุดมากกว่า อาจเพราะเราเรียนแฟชั่นมา เรารู้ว่าถ้าของราคานี้ แพตเทิร์นต้องประมาณไหน ถ้าคุ้มราคาก็ซื้อ เดี๋ยวนี้พัดชอปออนไลน์มากขึ้นเพราะพอทำงานเยอะ ไม่มีเวลาไปเดินห้างเหมือนแต่ก่อน แต่ซื้อออนไลน์ก็ต้องทำใจนิดหนึ่งว่า บางทีแพตเทิร์นอาจจะไม่พอดีตัว โชคดีที่พัดมีช่างประจำแก้ให้ พัดก็ใช้ความรู้ที่มีมาวัดและเขียนกำกับไว้เลย จะได้ออกมาเป๊ะแบบที่อยากได้ แต่รวมๆ พัดเป็นคนแต่งตัวเรียบๆ เน้นเท่ คลาสิก เสื้อผ้าจะคุมโทน ไม่ขาว ดำ ครีม ก็เบส” พัดทิ้งท้าย