อดีตสาวแอร์โฮสเตสที่เลือกถอดปีกลงจากท้องฟ้า ก้าวเข้าสู่เส้นทางธรรมชาติและสุขภาพ และเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส มองเห็นช่องทางธุรกิจ จากความคิดถึงสัตว์เลี้ยงในช่วงล็อกดาวน์ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ “โม–ม.ล.รังษิอาภา ภาณุพันธุ์” ได้ลงมือทำแบรนด์ “ZOOKAO” ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ลายเส้นสัตว์เลี้ยงแบบ Customize ให้คุณได้เห็น ได้กอด เสมือนได้สัมผัสตัวเป็นๆ
“หลังเรียนจบ โมไปเป็นแอร์ฯ ที่สายการบินการ์ตา แอร์เวย์ส อยู่ประมาณ 3 ปีค่ะ ตอนเป็นก็สนุกนะคะ ได้เดินทางท่องเที่ยว ได้เปิดโลก สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ท้าทายดี เพราะเราเบสอยู่ที่การ์ตา ก็ได้เดินทางท่องเที่ยวสำรวจประเทศแถบตะวันออกกลางนั้น แล้วก็มีบินไปยุโรป อเมริกา ไปเที่ยวหลากหลายประเทศ จะได้กลับไทยแค่ประมาณเดือนละครั้งแต่ที่ตัดสินใจลาออกเมื่อช่วงปลายปี 2561 เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เพราะทำงานตรงนี้มันกระทบกับร่างกายเรา ก็สะสมมาเรื่อยๆ พอตอนหลังยิ่งหนักเลย ตอนนั้นพักผ่อนน้อย เป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วต้องไปบิน พอบินเสร็จอยู่ดีๆ หูก็ดับไปเลยค่ะ ต้องพักบินไปเดือนกว่า หลังจากนั้นหูข้างนั้นก็ไม่ค่อยได้ยิน แถมยังมีปัญหาปวดหลัง จากการยกของหนัก พวกสัมภาระผู้โดยสาร ก็เลยตัดสินใจลาออกค่ะ”
จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ไปอยู่กับธรรมชาติ พักร่าง ชาร์ตแบตฯ เติมพลังงานชีวิต “โมชอบบรรยากาศของเชียงใหม่ ไปอยู่ที่นั่นยาวเลย ให้เวลากับตัวเอง เข้าป่าขึ้นเขา แบ็กแพกตระเวนเที่ยว ปาย แม่ฮ่องสอน แล้วก็ไปนั่งวิปัสสนาอยู่หลายคอร์ส จนตอนหลังไปเป็นอาสาช่วยดูแลคนมาเข้าคลาส ของพระอาจารย์จากอินเดีย แล้วไปเป็น Volunteer ให้กลุ่มคริสเตียน แสงสว่างแห่งรัก คือตัวโมเองเชื่อในหลายๆ ศาสนา รู้สึกว่าทุกศาสนามีความน่าสนใจแตกต่างกัน แต่ก็ล้วนสอนให้เป็นคนดีทั้งนั้น
อยู่นั่นเป็นปีเลยค่ะ เหมือนเป็นช่วง Back to Nature พักผ่อน เที่ยว ดูแลสุขภาพ แล้วก็ทำงานศิลปะ แล้วก็เรียนพวกคอร์สออนไลน์ พัฒนาตนเอง การตลาด ธุรกิจออนไลน์ หาความรู้เพิ่มเติม มีความคิดอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับ Health และ Wellness”
แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร ก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด-19 โดยสาวโมเลือกมาเก็บตัว LOCKDOWN อยู่กับบ้านเพื่อนที่แถวนครปฐม “โมอยู่กับเพื่อน 3 คน อยู่กันเป็นเดือนๆ แล้วที่นี่เพื่อนโมก็คิดถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้มาก แบบ 2 เดือนกว่าไม่ได้เจอน้องเลย อยากเจอแต่ก็ไม่อยากกลับบ้าน เพราะไม่รู้เราจะติดโควิดหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นเราเดินทางเยอะ ไปเที่ยว ไปกันมาหลายที่ ก็กลัวเอาเชื้อไปติดคนที่บ้าน”
และจุดนั้นก็เป็นที่มาของไอเดียการทำธุรกิจ แบรนด์ “ZOOKAO” (ซูคาโอะ มาจาก Zoo ที่แปลว่า สวนสัตว์ และ KAO ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า หน้า) ผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์ตามหน้าตาสัตว์เลี้ยงสุดที่รัก “อย่าง หมอนตุ๊กตาที่ Customize มาจากหน้าตาของเจ้าตัวซนที่บ้าน คือตอนคิดถึงมาก ไม่ได้กอดตัวจริงก็กอดหมอนไปแทนก่อน ซึ่งที่จริงแล้วธุรกิจนี้เพื่อนโมเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เขาก็หยุดไป เพราะทำงานหลายอย่าง ไม่มีเวลา
พอมาช่วงโควิด-19 ก็เลยได้โอกาสหยิบไอเดียนี้มาปัดฝุ่นลงมือทำใหม่ จับธุรกิจเดิมมา Rebrand และ พัฒนา product กัน มันลงตัวเพราะโมเองก็ชอบงานดีไซน์อยู่แล้ว ชอบศิลปะ และก็ชอบสัตว์เลี้ยง แถมสไตล์นี้โมไม่ค่อยเห็น ส่วนใหญ่จะเห็นแต่แบบลายน่ารักๆ เหมือนๆ กันไปหมด ไม่ได้ดีไซน์ออกมาเฉพาะตัวแบบนี้ แบบเป็นตัวแทนของสัตว์แต่ละตัวที่คุณเลี้ยง ซึ่งไม่เพียงเฉพาะแต่สุนัขเท่านั้น แมว นก งู หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เราก็สามารถทำได้หมด
ตอนแรกก็เริ่มจากพัฒนาลายเส้นและดีไซน์ของตัว Huggy(หมอน) ลองทำให้เพื่อนและคนใกล้ตัวที่มีสัตว์เลี้ยง ผลตอบรับคือเพื่อนชอบกันมาก เพื่อนสนิทโมคนหนึ่งมีน้องหมาชื่อ ไทนี่ ตายไปปีที่แล้ว แล้วโมทำฮักกี้ให้ครอบครับเขา เพื่อนเอาไปวางไปบนโซฟาในห้องรับแขก แล้วเพื่อนเล่าให้ฟังว่า ทุกๆ วัน เวลาเพื่อนลงมาที่ชั้นล่างแล้วเห็นหมอน ก็จะทักทายพูด “Hello Tiny” ทุกวัน เหมือนไทนี่มีชีวิตอีกครั้ง มันยิ่งทำให้โมรู้สึกเห็นคุณค่าทางจิตใจของโปรเจกต์ที่กำลังทำค่ะ”
สาวโมเล่าขั้นตอนการทำงานให้เราฟังว่า “ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เริ่มจากที่ลูกค้าส่งรูปมาให้ดู เน้นเป็นรูปที่เห็นหน้าน้องชัดๆ แล้วทีมโมก็จะเอามาดีไซน์ โดยวาดขึ้นมาใหม่ ดึงคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวออกมา แล้วก็ค่อยนำลายเส้นนั้นไปทำการผลิต ซึ่งสามารถทำได้หลายอย่าง จะเป็นหมอน ก็มีหลายไซส์ Customize ได้หมด หรือจะทำเป็นกระเป๋า เป็นกรอบรูป พวงกุญแจ แล้วก็ทางเราก็จะมีทำผลิตภัณฑ์เป็นแบบ Gift Set วางขายด้วย ก็เอาหน้าของสุนัขเพื่อนๆ นี่แหละมาเป็นแบบ(หัวเราะ)
ตอนนี้เริ่มจากขายทางออนไลน์เป็นหลัก และก็มีวางที่ร้านด้วย ตามร้านเพ็ทชอปที่เป็นพาร์ตเนอร์กัน แล้ว ตั้งใจว่าอยากทำส่งออก แพลนว่าจะไปอเมริกาและญี่ปุ่น เพราะเขาเป็นพวกรักสัตว์และรักงานดีไซน์ น่าจะเป็นตลาดที่เหมาะกับเราค่ะ”
นอกจากธุรกิจนี้ สาวโมก็ยังไม่ได้จะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่ยังมองหาช่องทางอื่นๆ โดยตั้งใจที่จะสานฝันในด้านสุขภาพ ที่เธอรู้สึกอินเป็นอย่างมาก “อยากทำอะไรเกี่ยวกับธรรมชาติ ออร์แกนิค อาจจะเป็นทางด้านสมุนไพร แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรูปแบบไหนดี ตอนอยู่ที่เชียงใหม่ เห็นคนสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติและสุขภาพกันมาก แต่ก็มีธุรกิจประเภทนี้เยอะ การแข่งขันสูงมาก ก็เลยยังไม่มีโอกาสเหมาะๆ
ที่โมให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จะมาจากคุณแม่ค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ที่คุณแม่จะเสีย ท่านป่วยหนัก โมก็เลยเริ่มศึกษาเรื่องสุขภาพ ให้ความสำคัญเรื่องการรับประทาน โมเริ่มกินมังสวิรัติกับแม่มาหลายปีแล้ว ทุกวันนี้ก็กินมังสวิรัติประมาณ 90% กินเนื้อสัตว์น้อยมาก เพราะโมคิดว่า สุขภาพจะดีไม่ดี มันเริ่มต้นจากการกิน ร่างกายคนเราก็แค่นี้ ถ้าไม่เริ่มวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะป่วยเมื่อไหร่ เลยอยากให้ทุกคนหันมาสนใจดูแลตัวเองกันก่อนที่จะป่วยค่ะ”