คนไทยเป็นคนใจดี เมื่อถึงคราวที่ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็จะร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการบริจาคหรือการให้ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนนั้น คนใจบุญมักจะหาทางแบ่งปันได้ อย่างเรื่องการบริจาค “เส้นผม” เพื่อนำไปทำเป็นวิกผมให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น ซึ่งต้องใช้ความตั้งใจอย่างสูง เพราะมีข้อจำกัดมากมายในการดูแลเส้นผม ก่อนที่จะไปตัดผมเพื่อบริจาค แต่ก็ยังมีคนดังหลายคนที่สนใจจะทำบุญในลักษณะนี้กัน
พิธีกรสาวผมสวยมากความสามารถ “หนิง-ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์” เป็นคนหนึ่งที่เคยบริจาคผมมาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และการบริจาคครั้งนั้นของเธอ เป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกสาวคนเดียว อย่าง “น้องเบลล่า-กุญช์จารี จีระแพทย์” ได้ใส่ใจดูแลเส้นผมสวยๆ ของตัวเอง เพื่อส่งต่อให้กับผู้ป่วยมะเร็งเช่นกัน
หนิงเล่าถึงประสบการณ์ในการบริจาคเส้นผมครั้งแรกว่า “ครั้งแรกที่หนิงบริจาคก็จะมุ่งมั่นดูแลเส้นผมให้สลวยและเงางาม เพื่อให้พร้อมกับการบริจาค โดยหนิงบริจาคมาแล้ว 3 ครั้ง และได้ช่างผมคนดัง “มาร์ค-ธาวิน พี เซียวตง” เป็นผู้ตัดให้ ตัดครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วสั้นถึงติ่งหู ได้ผมความยาว 8 นิ้ว รู้สึกว่าพอดีเกินไป ปกติต้องไว้ให้ยาวถึง 12 นิ้ว ส่วนลูกสาว-น้องเบลล่าเห็นคุณแม่บริจาค จึงมีความตั้งใจอยากบริจาคด้วย ขณะนั้น น้องเบลล่าอายุเพียง 7-8 ขวบ แต่ก็สามารถไว้ผมยาวได้ถึง 10 นิ้ว และได้ตัดบริจาคไปเพียงครั้งเดียวค่ะ”
หนิงกล่าวต่อไปอีกว่า “การที่เราจะเลี้ยงผมให้ได้ยาวถึง 12 นิ้วตามที่กำหนด ต้องใช้ความอดทนและหมั่นดูแลอย่างมาก เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผมที่มีสุขภาพดีไปทำวิกผม ช่วงนั้น จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของโครงการที่รับบริจาคผม เพื่อส่งต่อให้ผู้ป่วยมะเร็งไปโดยปริยาย กลายเป็นว่าพอเห็นใครผมยาวจะต้องเข้าไปเลียบเคียงถามว่า สนใจทำบุญด้วยวิธีการนี้หรือไม่”
ที่ผ่านมา เธอเคยชวนเพื่อนซี้ อย่าง จุ๊-นาขวัญ รายนานนท์ ร่วมบริจาคเส้นผมกับเธอ และก่อนหน้านั้นเห็น ทิพธิดา สุขุม กับ ณุช เนาวเขตต์ ผมยาวสลวย เธอก็ไปชักชวนให้ร่วมบริจาค ซึ่งก็ตอบตกลงร่วมบริจาคไปกับเธอด้วย
เพราะการตัดผมเพื่อบริจาคไปทำวิกผมให้กับผู้ป่วยมะเร็งนั้น เป็นขั้นตอนแรกของการทำบุญ ไม่ใช่แค่ตัดแล้วนำไปให้เลย ก่อนอื่นต้องดูแลเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางาม ไม่ผ่านการดัด การย้อม และการทำสี แถมยังต้องมีเงินทุนเพื่อสนับสนุนการนำไปทำวิกผมอีกด้วย เพราะค่าทำวิกผมมีราคาสูงมาก และกว่าจะมีคนร่วมบริจาคครบหนึ่งหัว เส้นผมของเราอาจถูกเก็บไว้จนแห้งกรอบไปตามกาลเวลาก็เป็นได้
หนิงกล่าวเสริมว่า “หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ต้องตัดแล้วบริจาคเลย แต่จริงๆ แล้วการบริจาคแต่ละครั้ง ต้องรวบรวมคนที่เรารู้จักและต้องการบริจาคเหมือนกันอีก 2 คน หรือประมาณ 3 หัว เพื่อไว้ผมยาวแล้วทำตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งยังต้องมีเงินทุนในการบริจาคผมเพื่อนำไปทำวิกผมให้ผู้ป่วยมะเร็งด้วย เพราะการทำวิกผมแต่ละหัวต้องมีใช้จ่ายในการทำ บางคนอยากบริจาคแต่ไม่มีทุนไปบริจาคเพื่อทำวิกผม จึงมีการร่วมกันจัดโครงการใหญ่ๆ เพื่อการกุศล ที่มีการระดมทุนเพื่อไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวิกผม ให้ผู้ป่วยมะเร็งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกด้วย
บางคนบอกว่า ถ้ายุ่งยากทำไมไม่ซื้อวิกให้เขาไปเลย สู้เอาเงินไปช่วยเขาดีกว่ามาไว้ผมยาวเพื่อบริจาคเอง เพราะรู้สึกว่าการไว้ผมให้ยาวเพื่อนำไปบริจาคได้นั้นใช้เวลานาน กว่าจะได้ความยาวที่พอดีก็หลายปีเลยทีเดียว แต่จริงๆ แล้วการนำเส้นผมไปทำวิกผมนั้น จะดูสวยและเป็นธรรมชาติมากกว่า”
นอกจากนี้ ร้านชลาชล ของ สมศักดิ์ ชลาชล ก็เคยมีโครงการรับตัดผมเพื่อนำไปบริจาคด้วยเช่นกัน ส่วน มาร์ค ธาวิน เคยแนะนำเพื่อนให้ตัดผมแล้วเก็บไว้ จากนั้นก็ชวนเพื่อนๆ ระดมทุนเพื่อนำเงินไปทำวิกผม ให้กับสถาบันที่รับบริจาค เท่านี้คุณก็สามารถทำบุญให้กับผู้ขาดทุนทรัพย์ได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับข้อควรรู้ก่อนการบริจาคเส้นผม เพื่อนำไปทำวิกผมส่งต่อให้กับผู้ป่วยมะเร็งนั้นคือ การทำวิกผม 1 หัวนั้น ต้องใช้เส้นผมจากผู้บริจาคมากถึง 3-4 คน โดยคัดเลือกเส้นผมที่มีขนาดและลักษณะใกล้เคียงกันมากที่สุด เส้นผมที่บริจาคได้ต้องมีสุขภาพดี เงางาม ไม่แห้งกระด้างแตกปลาย ผมตรงควรมีความยาว 6 นิ้วขึ้นไป ส่วนผมหยักศกต้องมีความยาว 10-12 นิ้วขึ้นไป ควรเว้นระยะการทำเคมีบนเส้นผม (ดัด ยืด ย้อม) มา 3 เดือนขึ้นไป หรือแม้แต่ทำทรีตเมนต์ภายใน 6 เดือนก่อนการบริจาค เพราะอาจทำให้มีผลกระทบต่อผู้ป่วยได้
ก่อนตัดผมบริจาคควรสระให้สะอาดและตัดในขณะที่ผมแห้ง ด้วยการมัดเป็นช่อๆ ก่อนแล้วจึงทำการตัด จากนั้นควรเป่าให้แห้งสนิท ทั้งในส่วนที่เรามัดยางรวบไว้ด้วย เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา แล้วจึงนำไปใส่ในถุงพลาสติก เพื่อนำไปบริจาคได้ตามช่องทางที่เลือกไว้ ซึ่งมีดังนี้คือ มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หรือที่ร้านทำผม “แฮร์อินเทรนด์ ดอทคอม” โดยร้านนี้ได้ทำโครงการตัดผมเพื่อบริจาคทำวิกผมให้ผู้ป่วยมะเร็งมากว่า 10 ปีแล้ว