ปกติเราจะเห็นเซเลบริตีสาวคนนี้ ถ่ายภาพคู่กับกระเป๋าแบรนด์เนม ชุดแฟชั่นแบรนด์ดัง หรือรถสปอร์ตคันงาม แต่วันนี้เราจะได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์อีกด้านหนึ่งของ “มายด์–แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา” ที่อินเทรนด์ไม่เคยพลาดทุกกระแส เมื่อเทรนด์ต้นไม้มา เธอก็ไม่มีตกขบวน กระโดดเข้าร่วมแจมด้วย มีไม้ประดับพันธุ์หายากสารพัดต้น สะสมไว้ในคอลเลกชัน แต่เธอยกให้ไม้ด่างสไตล์ไทยอย่าง “เสน่ห์จันทร์บุษราคัม” เป็นที่หนึ่งในดวงใจ
“เพิ่งเริ่มสนใจต้นไม้จริงจังช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้เอง จุดเริ่มต้นมาจาก มีวันหนึ่งไปเดินเล่นร้านต้นไม้ ว่าจะซื้อมาประดับแต่งบ้านหน่อย ไปเจอต้นที่เขาฮิตๆ กัน ติดป้ายขายราคาเป็นหมื่น ก็ตกใจมาก คิดในใจเลยว่า ราคานี้ใครจะไปซื้อ เก็บเงินไปซื้อกระเป๋าดีกว่า(หัวเราะ)
แล้วตอนนั้นได้ยินข่าวว่าคนกำลังชอบเล่นพวกมอนสเตอร่ากัน ก็ทำให้เราเริ่มไปหาข้อมูล คืออยากรู้ว่าทำไมเขาฮิตกัน ทำไมมันถึงแพงนัก พอศึกษาไปศึกษามา ก็เลยทำให้เราสนใจ และเริ่มอินมากขึ้น ก็หาข้อมูลลงลึกเลย ไปดูว่ามีกี่ชนิด เขาขายกันอย่างไร ราคาตลาดเท่าไหร่ แล้วก็มองเห็นช่องทางการลงทุน เห็นศักยภาพของเขา
ก็ศึกษาอยู่นานนับเดือนก่อนจะตัดสินใจซื้อ เพราะแต่ละต้นราคาไม่ใช่น้อย ทุกวันนี้ที่เห็นเงียบๆ ไป ไม่ค่อยโพสต์โซเชียล คือมัวแต่ไปดูไลฟ์สดต้นไม้ ไปคอย CF ไปแย่งประมูลอยู่(หัวเราะ) มายด์เล่นแต่ต้น Rare หายาก ราคาก็เลยสูง อย่างพวกไม้ด่างของไทย เสน่ห์จันทร์บุษราคัม พลูฉลุ ด่างขาว ด่างเหลือง ฯลฯ”
ต้นไม้สวยๆ สีสัน รูปทรงแปลก พวกนี้ ไม่เพียงแต่จะประดับบ้าน ให้สบายตาสบายใจเท่านั้น แต่เธอบอกว่านี่คือการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่า
“ต้นไม้ด่างพวกนี้เขาคิดราคากันเป็นใบนะคะ นับไปเลยมีกี่ใบ ใบละหลักหมื่น อาจจะดูราคาสูง แต่มันคือการลงทุนนะ เพราะถ้าเกิดเราเลี้ยงเขาดี เอามาเพาะพันธุ์ แตกหน่อ ต่อยอด ก็ขายต่อได้ราคาดีเลย อย่าง มายด์เคยซื้อมาต้นหนึ่ง มี 1 ใบราคา 2 หมื่นกว่า เราเอามาเลี้ยงไม่กี่เดือนเอง งอกออกมาอีก 3 ใบ กลายเป็น 4 ใบ ก็ขายส่งต่อไปได้ 8 หมื่น คือราคาขึ้นหลายเท่าตัวในเวลาไม่กี่เดือน ให้ผลตอบแทนสูงกว่าลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นอีก
อย่าง “เสน่ห์จันทร์บุษราคัม” ต้นโปรดต้นนี้กว่าจะได้มาคือเล็งอยู่นาน จากราคาไม่กี่หมื่น กำลังรีรอตัดสินใจ ราคาก็ขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยคิดว่าต้องรีบละก่อนจะแพงไปกว่านี้ รู้สึกตอนนี้น่าจะขึ้นไปที่ประมาณ 90,000 บาทแล้ว ไม้ไทยพวกนี้แพง เพราะหายาก โตช้า และขยายพันธุ์ยาก ราคาไม่ตก ต้องดูแลดี ซึ่งไม่ใช่นิยมแค่ในบ้านเรานะคะ อเมริกา อินโดฯ ญี่ปุ่น เวียดนาม เขาก็เล่นกัน สนใจต้นไม้ของไทยไม่น้อย คือคนไม่ซื้อ คนไม่เล่น ไม่รู้หรอกว่าตลาดนี้มันโตแค่ไหน ศักยภาพบ้านเรายังไปได้อีกเยอะ”
อย่างไรก็ตาม เธอฝากเตือนไว้ว่า “อย่าลืมว่าการลงทุนมันมีความเสี่ยง เพราะบางทีซื้อมาแล้วก็ก็ต้องลุ้นว่าจะออกมาสวยไหม งอกมาด่างอย่างที่คิดไหม หรือเกิดเลี้ยงไม่รอด ซื้อมาแล้วตาย ก็จบเงินสูญเลย ดังนั้น มันอยู่ที่เราทำเป็นหรือเปล่า ดูแลดีไหม ต้องศึกษาให้ดี อย่างบางต้นชอบชื้นแต่ไม่ชอบน้ำเยอะ บางต้นไม่ชอบแดด เราต้องรู้ ต้องผสมดินอย่างไร แต่ละชนิดชอบดินไม่เหมือนกัน ต้องมีเครื่องพ่นความชื้นละอองน้ำ มีเปิดพัดลมให้เขา ให้อากาศถ่ายเท ยิ่งเราดูแลเขาดีเท่าไหร่เขาก็จะโตไว ไม่ตาย แตกใบใหม่มาให้ ทุกวันนี้คือมายด์ดูแลเองทุกต้น เรียนรู้เองหมด สนุกมากเลย
แต่ตอนนี้ยังทำได้ไม่เต็มที่ เพราะสถานที่ยังไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ นี่กำลังทำบ้านใหม่ค่ะ ยังสร้างไม่เสร็จ เลยจัดการวางแผนทำโรงเรือนไปด้วยเลย ถ้าย้ายเข้าบ้านใหม่เมื่อไหร่ น่าจะเลี้ยงได้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเป็นกิจกรรมให้เราสนุกไปได้ค่ะ”